จับได้แล้ว “ฆาตกรฆ่าด.ญ. 5 ขวบ” ญาติไม่อยากจะเชื่อว่าเป็น “คนนี้จริงๆ”!!!

จับได้แล้ว “ฆาตกรฆ่าด.ญ. 5 ขวบ” ญาติไม่อยากจะเชื่อว่าเป็น “คนนี้จริงๆ”!!!

ฆาตกรปลิดชีพ ด.ญ.5 ขวบ ทิ้งศพบนดาดฟ้าคอนโดฯเจริญกรุง รับสารภาพแล้ว สุดท้ายกลายเป็น “หนุ่มพัฒนาการสมองช้าน้ำใจงาม” จูงมือไปผลักจนหัวฟาดพื้น เล่นเอาช็อกทั้งชุมชน เพราะชายคนนี้เป็นคนดีมีอัธยาศัย คนในชุมชนเชื่อใจ

จากเหตุพบศพ ด.ญ.วัย 5 ขวบ ถูกฆาตกรรมบนดาดฟ้า คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยเจริญกรุง 107 ถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม กทม. ซึ่งภายหลังตำรวจส่งศพไปตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง รวมทั้งหลักฐานการล่วงละเมิดทางเพศ เพื่อจับกุมฆาตกรที่แท้จริง ซึ่งช่วงคืนที่ผ่านมา ทางตำรวจได้เบาะแสของผู้ต้องสงสัยทึ่คาดว่าจะเป็นคนร้ายก่อเหตุฆ่าเด็กหญิงแล้ว โดยมีพยานพบชายคนหนึ่งพาเด็กหญิงที่เสียชีวิตขึ้นไปบนดาดฟ้าที่พบศพ ทราบชื่อคือ นายบุ๋มบิ๋ม (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) เป็นคนดูแลความเรียบร้อยให้คอนโดฯ คนในพื้นที่ชุมชนไว้ใจให้ไปรับบุตรหลานจากโรงเรียนกลับมาคอนโดฯเป็นประจำ หลังเกิดเหตุหายตัวไป แต่ไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็นนายบุ๋มบิ๋ม เนื่องจากคนทั้งชุมชนรู้จักกันดีว่าไม่มีพิษภัย

วันเกิดเหตุ นายนัฐพงศ์ หรือ “บุ๋มบิ๋ม”  ยอมรับว่าเล่นกับเด็ก 2 – 3 คน บริเวณคอนโดและเจอผู้ตายที่บริเวณชั้น 1 จากนั้นก็ชักชวนไปเล่นที่ชั้น 5 ก่อนที่จะขึ้นไปที่ชั้น 9 และลงมือก่อเหตุผลักผู้ตายตกลงไปในสระว่ายน้ำเก่า ที่มีปริมาณน้ำเพียง 60 ซม. จึงคาดว่าศีรษะน่าจะฟาดกับพื้นด้านล่างจนเสียชีวิต เพราะผลการชันสูตรศพระบุว่า สภาพศพมีรอยฟกช้ำที่ศีรษะ มีเลือดตกในสมองซีกขวามีของเสียในปอด ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ และไม่พบร่องรอยถูกข่มขืนแต่อย่างใด

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนการดำเนินคดีนั้นหากกระทำผิดขณะวิกลจริตจิตฟั่นเฟือนศาลก็จะลดโทษลงได้ แต่ต้องรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์มายืนยันก่อน ทั้งนี้คนวิกลจริตกับผู้ที่มีพัฒนาการทางสมองช้านั้นต่างกัน ผู้ต้องหาเป็นผู้ที่มีพัฒนาการทางสมองช้ากว่า ปกติญาติยังไม่เคยร้องต่อศาลให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ ผู้ต้องหาจึงเป็นคนธรรมดาทั่วไป คาดว่าที่ก่อเหตุอาจจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หลังจากนี้จะสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทุกคนเพื่อให้เกิดความชัดเจน ส่วนพ่อแม่ผู้ตายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ทั้งทางแพ่งและอาญา ส่วนเรื่องการให้ประกัน ต้องพิจารณาตามขั้นตอนอีกครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก เดลินิวส์ออนไลน์