ได้เงินเดือนละกว่า “100,000 บาท” ทุกเดือน เพราะเลี้ยงกบ ขายลูกอ๊อด รวยไม่รู้เรื่อง!!!

ได้เงินเดือนละกว่า “100,000 บาท” ทุกเดือน เพราะเลี้ยงกบ ขายลูกอ๊อด รวยไม่รู้เรื่อง!!!

กบ_Screen Shot 2016-05-27 at 12.54.53 PM

ผู้สื่อข่าว จ.นครพนม รายงานว่า ช่วงต้นฤดูฝนที่ อ.ธาตุพนม บ้านดอนแดง มีชาวบ้านกว่า 20 หลังคาเรือน ผสมพันธุ์กบขายส่งลูกอ๊อด หรือ คนอีสานเรียกว่า “ฮวก” ขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันนานกว่า 20 ปี โกยเงินเข้ากระเป๋าต่อราย ใน 1 เดือนมากถึงกว่าหนึ่งแสนบาท ผู้บริโภคนิยมนำไปทำเมนูเด็ดไว้เปิบได้หลายชนิด

นายสมประสงค์ อรัญ วัย 49 ปี หนึ่งในเกษตรกรผู้เลี้ยง กล่าวว่า “ได้เริ่มบุกเบิกเลี้ยงกบในนาข้าวเพื่อขายลูกอ๊อดมาตั้งแต่ปี 2537 สมัยนั้นไม่มีคนกินสัตว์ที่เลี้ยงไว้ เช่น กบ ปลาดุก จึงเลิกเลี้ยงนาน 2 ปี เพราะในนาข้าวมีปูปลาอุดมสมบูรณ์ ต่างกับยุคนี้ ในนาข้าวมีแต่สารเคมี แทบไม่มีกบและปลาให้พบเห็น ปี 2539 จึงกระตุ้นให้ชาวบ้านหันมาเลี้ยงจริงจัง โดยซื้อกบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เหลืองหัวเขียวจากไร่พรเทพ บ.ดอนสวรรค์ มาขุนเลี้ยงในนาข้าว ปัจจุบันผ่านมา 20 ปี มีบ่อดินเลี้ยง 25 บ่อ ขนาดบ่อกว้าง 5 เมตร ยาว 30 เมตรตามคันนา ใช้ตาข่ายสูง 1 เมตรกั้นกันกบกระโดดหนี”

กบ_Screen Shot 2016-05-27 at 1.02.26 PM กบ_Screen Shot 2016-05-27 at 1.02.36 PM

“ลงทุนเลี้ยงครั้งแรกใช้เงินแค่ 20,000 บาท เช่าที่นาเพื่อนบ้าน 5 ไร่ เลี้ยงกบแค่ 1 ไร่ ทำนาขายข้าวไปเป็นค่าเช่านา 10,000 บาท เลี้ยงกับภรรยา มีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ 10,000 ตัว แต่ป่วยด้วยโรคมะเร็งน้ำเหลือง ปัจจุบันลดการเลี้ยง เหลือแค่ 2,800 ตัว ปลูกผักบุ้งบ้านให้กบอาศัย ช่วยดูดซับของเสียดีกว่าผักตบรก กบจะตาย นำแม่พันธุ์ที่สมบูรณ์เข้าบ่อ ตามด้วยพ่อพันธุ์ผสมกันแค่ข้ามคืน รุ่งเช้าแดดออก ก็จะพบไข่ จึงเอาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ออกจากกัน ใน 10 วัน ผสมได้ 1 ครั้ง ใน 1 เดือนจะได้ปริมาณมากถึง 1 ตัน ขายส่งกิโลกรัมละ 80-90 บาท ใน 1 เดือนมีรายได้ 100,000 บาท หักค่าใช้จ่ายมีกำไรเหลือ 70,000 บาทต่อเดือน ทั้งยังเป็นพ่อค้าคนกลางขับรถนำลูกอ๊อดบุกเบิกใน จ.กาฬสินธุ์ เลย อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม จนติดตลาด”

กบ_Screen Shot 2016-05-27 at 1.02.19 PM

ขณะที่นายอุดร พานิช เกษตรกรอีกราย เล่าว่า
“การเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบ เพื่อผลิตตัวอ่อนยุ่งยาก เลี้ยง 30 บ่อใช้คันดินนาข้าวกั้นเป็นบ่อ คัดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์แข็งแรงชนิดละ 200-300 ตัว ช่วงเย็นถ้าฝนไม่ตกใช้สปริงเกอร์ให้น้ำแทนฝนจะผสมพันธุ์กันได้ดี ตกเย็นจะเห็นคราบไข่ในบ่อ จึงให้อาหารเม็ดเลี้ยงปลาดุก ปรับสภาพน้ำบ่ออนุบาลให้ขุ่นเขียว ใช้น้ำหมักชีวภาพผสมกากน้ำตาลให้ลูกอ๊อดอำพรางตัวไม่ให้พบเห็นกัน เพราะตัวใหญ่จะกินตัวเล็ก เลี้ยงแต่ละรุ่น 21 วัน ตัวเป็นอัดออกซิเจนใส่ถุงพลาสติกใส ถุงละ 1 กิโลกรัม ตัวตายจ้างควักขี้ไส้อัดใส่ถังน้ำแข็งใหญ่ ตัวตายราคาสูงกิโลกรัมละ 100 บาท ตัวเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท หน้าแล้งราคาพุ่ง ตกกิโลกรัมละ 120 บาท ใน 1 เดือน มีรายได้เฉลี่ย 50,000-70,000 บาท”

สมัยนี้ไม่มีใครกล้าเถียงแล้วล่ะ ว่าเป็นเกษตรกรแล้วไม่รวย เพราะแต่คนละทำรายได้อื้อซ่าซะขนาดนี้ กลับบ้านไปเลี้ยงกบดีกว่ามั้ยเรา!

ขอขอบคุณข้อมูลและเครดิตภาพจาก ข่าวสดออนไลน์