ผวาไปทั้งประเทศ!!! ไม่อยากเจอ “งู” ใน “ชักโครก” ต้องทำยังไง???

ผวาไปทั้งประเทศ!!! ไม่อยากเจอ “งู” ใน “ชักโครก” ต้องทำยังไง???

Screen Shot 2016-05-26 at 2.26.00 PM

น.สพ.ธวัช เล็กดำรงค์ อาจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงกรณีงูเหลือมโผล่ขึ้นมาจากคอห่านแล้วกัดหนุ่มวิศวกรว่า
“ตนสันนิษฐานว่ากรณีนี้งูเหลือมน่าจะเข้ามาทางท่อน้ำเสียและพยายามหาทางออก แต่บังเอิญมาเจอกับคนเข้าห้องน้ำพอดีจึงทำให้งูตกใจ โดยพฤติกรรมปกติในการป้องกันตัวของงูเหลือม คือการฉกกัด อย่างไรก็ตามยืนยันว่างูเหลือมไม่ได้ชอบอยู่ในคอห่าน หรือชักโครก แต่มักจะหลบซ่อนตัวในที่ เงียบ มืด และชื้น ดังนั้นในห้องน้ำจึงมีโอกาสที่จะพบเจองูอย่างไรก็ตามขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว อาจมีโอกาสเจอสัตว์มีพิษต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะงูเท่านั้นแต่ต้องระวังแมงป่อง และตะขาบในที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงด้วย เช่น ห้องเก็บของมืดๆ ซึ่งต้องดูให้ดีก่อนรวมถึงรองเท้า หากจะสวมใส่ควรตรวจสอบให้ดี หรือเคาะรองเท้าก่อนเช่นกัน กรณีนี้น่าจะเป็นความบังเอิญและเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งงูเหลือมคงไม่ได้ตั้งใจจะฉกกัด แต่เกิดจากความตกใจจึงต้องป้องกันตัว ทั้งนี้แม้งูเหลือมจะเป็นสัตว์ไม่มีพิษและใช้วิธีจับเหยื่อโดยวิธีการรัด แต่หากโดนกัดควรงัดหรือง้างปากงู อย่าพยายามดึงหรือกระชากงูออก เพราะจะยิ่งทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ได้ เพราะมีฟันค่อนข้างแหลมคม เมื่อถูกกัดต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อทำความสะอาดบาดแผล”

นอกจากนี้ น.สพ.เกษตร สุเตชะ นายสัตวแพทย์ประจำคลินิกสัตว์เลี้ยงพิเศษ โรงพยาบาลสัตว์คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า

“ไม่ใช่เรื่องปกติที่งูจะมาโผล่ที่คอห่านแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากคนไปสร้างบ้านทับที่อยู่ของงู กรณีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความโชคร้ายที่บังเอิญมาเจอกันคาดว่างูน่าจะมาทางท่อระบายน้ำสาธารณะ โดยว่ายมาเรื่อยๆ ไม่สามารถกลับตัวไปทางเดิมได้เพราะตัวใหญ่ ทำให้ไม่มีทางเลือกต้องเดินหน้าอย่างเดียว ขณะที่ในท่อน้ำน่าจะมืด งูจึงพยายามจะขึ้นมาหายใจเมื่อเห็นแสงสว่างก็จะพุ่งตรงขึ้นมา อย่างไรก็ตามการป้องกันไม่ให้งูรวมถึงสัตว์ต่างๆเข้ามาในบ้านได้จะต้องปิดรูรั่วต่างๆ หรือใช้ตาข่ายปิดตามช่องว่างให้ดี และก่อนใช้ห้องน้ำต้องราดน้ำก่อนเพื่องูจะได้ไม่กล้าโผล่ขึ้นมา หรือตรวจความเรียบร้อยก่อนใช้ห้องน้ำทุกครั้ง”

ระวังเอาไว้ดีกว่า ไม่อยากให้เจอประสบการณ์สุดหลอนแบบนี้กันเลย บรึ๊ย!!!

ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก เดลินิวส์ออนไลน์