“ป้าต้อย ซุปตาเมืองนนท์” เกิดมาไม่สมประกอบ พ่อแม่เกลียด แต่เธอก็ไม่ท้อ จนมีแต่คนรักเธอ!! เพราะอะไร???

“ป้าต้อย ซุปตาเมืองนนท์” เกิดมาไม่สมประกอบ พ่อแม่เกลียด แต่เธอก็ไม่ท้อ จนมีแต่คนรักเธอ!! เพราะอะไร???

1-4

ป้าต้อย สาวประเภทสองวัย 56 ปี เธอคือซุปตาร์เมืองนนท์ เพราะชื่อเสียงของเธอเป็นที่รู้จักดีของชาวเมืองนนทบุรี เวลามีงานบุญ งานบวช หรือวันไหนที่ตรงกับวันพระ ก็จะเห็นป้าต้อยไปช่วยเป็นโฆษก คอยประกาศเชิญชวนให้ญาติโยมมาร่วมกันทำบุญ รวมทั้งคอยไปสร้างสีสัน เรียกเสียงหัวเราะให้กับงานบุญมาโดยตลอด

re_3-2

เป็นภาพชินตา ที่ป้าต้อย ยึดอาชีพขายขนมใส่ไส้มากว่า 35 ปี นับว่าเธอเป็นแม่ค้าขนมใส่ไส้คนเดียว ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ที่ใส่ชุดราตรีเดินขายขนม เธอมีเอกลักษณ์การขายที่โดดเด่น เพราะเธอจะส่งเสียงร้องว่า “ไส้ ไส้ ไส้ ไส้ ไส้ จ้า” นอกจากนี้ ป้าต้อยยังเป็นแม่ค้าที่มีวลีฮิตติดปากว่า “สบายใจดี” เพราะไม่ว่าจะถามอะไรเธอก็ตาม เธอก็จะยิ้มแฉ่งพร้อมกับตอบว่า “ก็มันสบายใจดี” แม้การแต่งตัว แต่งหน้าของป้าต้อยในแต่ละวัน อาจจะทำให้ลูกค้ารู้สึกแปลกๆ หรือมีข้อสงสัยในตัว ป้าต้อยอยู่บ้าง แต่กระนั้นก็ยังช่วยอุดหนุนขนมแกจนขายหมดทุกวัน

re_4-1

ป้าต้อย เป็นคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง เธอเกิดมาเป็นคนที่สติไม่ค่อยสมประกอบ แถมพ่อแม่ของตัวเองยังเกลียดชังเธอด้วย ป้าต้อยจึงต้องใช้ชีวิตอยู่กับยายตาบอดตามลำพังมาตั้งแต่เล็กๆ เมื่อป้าต้อยโตจนเริ่มทำงานได้ ป้าก็เป็น เสาหลักเลี้ยงดูยายไม่ว่าจะทำงานเก็บขยะ รับจ้างเก็บศพหมาที่โดนรถชนไปทิ้ง รวมทั้งขายขนมใส่ไส้ ดังนั้นในชีวิตของเธอ เธอจึงรักยายมากที่สุด เพราะยายมอบความรัก ความอบอุ่นให้กับเธอ ยามเมื่อยายเจ็บป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ป้าต้อยก็ดูแลยายเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องข้าวปลาอาหาร ดูแลทำความสะอาด เรื่องการขับถ่ายอย่างไม่รังเกียจ จนชาวบ้านต่างชื่นชมว่าป้าต้อยเป็นคนกตัญญู

re_2-2

หลังจากยายเสียชีวิต ป้าต้อยก็ใช้ชีวิตตามลำพังมาโดยตลอด แต่ในหัวใจของเธอยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความคิดถึงยายอยู่เสมอ หลายๆ คนที่รู้เบื้องหลังชีวิตของป้าต้อย ต่างก็ชื่นชมและยกย่องว่าป้าต้อยเป็นคนดียอดกตัญญูคนหนึ่ง

ป้าต้อยเป็นคนที่ขยันทำมาหากินไม่เคยมีวันหยุด ไม่ว่าฝนจะตก อากาศจะร้อนขนาดไหน ป้าต้อยก็ตั้งหน้าตั้งตาขายขนมท่าเดียว ยกเว้นแต่ว่าวันไหนที่คนทำขนมใส่ไส้หยุด หรือเธอต้องไปร่วมงานบุญสำคัญๆ เธอถึงจะยอมหยุดขายขนม

ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก Suptarmuangnon  และ zoomhua