เพราะอะไร??? ศาลถึงยกคำร้อง DSI ไม่ออกหมายจับ “ธัมมชโย”

เพราะอะไร??? ศาลถึงยกคำร้อง DSI ไม่ออกหมายจับ “ธัมมชโย”

พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวะกุล ผบ.สำนักคดีสถาบันการเงินและการธนาคาร หัวหน้าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เปิดเผยว่า “ศาลอาญายกคำร้อง ขอออกหมายจับ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อกล่าวหาว่าสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร กรณีรับเช็คเงินบริจาคจากอดีตประธานสหกรณ์เครดิตนูเนี่ยนคลองจั่น โดยให้เหตุผลว่า พระธัมมชโย ไม่มีเจตนาที่จะหลบหนี”

ทางด้าน นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า “วันนี้ไม่ได้เข้าไปในห้องพิจารณา จึงไม่ทราบว่าได้มีการพูดคุยอย่างไรบ้าง โดย ดีเอสไอ ก็ยังไม่มีการแจ้งผลการพิจารณายื่นคำร้อง จึงคาดว่าศาลน่าจะยกคำร้อง หลังจากนี้จะต้องรอดูท่าที ดีเอสไอ ว่าจะมีการประสานมาทางวัดในการเรียกเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา ครั้งที่ 3 แต่ทางทีมทนายเอง ได้มีการพูดคุยว่าอาจจะมีการฟ้องกลับไปยังดีเอสไอ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 200 วรรค 2 ฐานกลั่นแกล้งให้ได้รับโทษ หรือบังคับให้ได้รับโทษ”

พร้อมกันนั้นเฟซบุ๊ก สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้เผยภาพอาการป่วยของพระธัมมชโย ภายหลังไม่เดินทางไปดีเอสไอ

โดยภาพดังกล่าวได้เผยให้เห็นภาพขาซ้ายใหญ่กว่าขาขวาเป็นสองเท่า จากภาวะป่วยเป็นเบาหวาน รวมถึงมีรอยผื่นขึ้น และมีแผลติดเชื้อด้วย ประกอบกับมีอาการภูมิแพ้ จึงทำให้ไม่สามารถออกไปไหนได้ ดังนั้นจึงขอความเห็นใจจากดีเอสไอด้วย เพราะที่ผ่านมาให้ความร่วมมือกับทางดีเอสไอมาตลอด แต่ตอนนี้ป่วยจึงไม่สามารถเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาได้

ขณะเดียวกันก็ได้มีข้อความระบุเพิ่มเติมว่า กรณีอาการป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ถูกต้อง ทางดีเอสไอใช้ดุลพินิจปฏิเสธการเลื่อนโดยไม่ตั้งอยู่บนพื้นทางความเป็นจริง เพราะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่รับผิดชอบคดีนี้ เคยพบเห็นอาการของหลวงพ่อธัมมชโย และรู้อยู่ว่าอาการป่วยของหลวงพ่อธัมมชโย ไม่สามารถเดินทางไปดีเอสไอได้อย่างแน่นอน

หลังจากที่ “พระธัมมชโย” มีหนังสือเลื่อนพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษถึง 2 ครั้ง โดยอ้างเหตุประกอบศาสนกิจ และอ้างอาการป่วยโดยใช้ใบรับรองแพทย์จากคลินิกเอกชน แต่กลับปรากฎว่า มีการเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาต่าง ๆ ได้เป็นปกติ

จึงไม่มีเหตุอันสมควรที่จะขอเลื่อนการมาพบพนักงานสอบสวน เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นไปในลักษณะหลีกเลี่ยงที่จะไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นความผิดที่ถูกกล่าวหา ที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี อีกทั้งทางคดี มีหลักฐานพอสมควรว่า ผู้ถูกกล่าวหาน่าจะได้กระทำความผิดดังกล่าว จึงมีเหตุตามกฎหมายที่จะเสนอให้มีการออกหมายจับ

ดังนั้น พนักงานสอบสวนมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติออกหมายจับพระธัมมชโยมาดำเนินคดีต่อไป

กรรมเวร ไวติดจรวดเสมอ ใครทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น แน่นอน!!!

ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก innnews และ mthai