11 เรื่องต้องรู้ ก่อนจะ “ด่า” หรือ “บูชา” ตุ๊กตาลูกเทพ… กระทรวงสาธารณสุขว่าอย่างไร?!!!

11 เรื่องต้องรู้ ก่อนจะ “ด่า” หรือ “บูชา” ตุ๊กตาลูกเทพ… กระทรวงสาธารณสุขว่าอย่างไร?!!!

กลายเป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันในสังคมอีกครั้ง กับเรื่องตุ๊กตาลูกเทพ ของขลังยุคไฮเทค

1.ตุ๊กตาลูกเทพโด่งดังและเป็นที่รู้จักในวงกว้างเมื่อประมาณกลางปี 2558 โดย นายจีรพัฒน์ ณัฐฐิฐาวรานนท์ หรือ ‘หมอแมค ขั้นเทพ’ โดยเล่าว่า ไปสะดุดตุ๊กตาตัวหนึ่ง และได้ยินเสียงในความคิดว่าอยากขอไปอยู่ด้วย หลังจากนำมาอยู่ด้วยก็มอบสิ่งดีๆ ให้หลายอย่าง จึงได้นำไปให้พระอาจารย์ที่นับถือช่วยปลุกเสกให้ จากนั้นมีศิลปินนักแสดง ผู้อยู่ในวงการบันเทิงหลายคนแห่ซื้อสะสมตาม

เพราะเชื่อว่าตุ๊กตาดังกล่าวจะนำโชคลาภมาให้ จนกระทั่ง หมอแมค เปิดเพจบ้านลูกเทพเพื่อจำหน่ายตุ๊กตาเทพเป็นการเฉพาะ แต่ที่สุดก็ประกาศกลางรายการชื่อดังว่าจะปิดเพจดังกล่าว แต่ก็ยังมีการนำเอาตุ๊กตาลูกเทพมาโพสต์พร้อมกับระบุราคาอีกด้วย

รูปของ ‘หมอแมค ขั้นเทพ’

2.อีกกระแสหนึ่งที่ทำให้ตุ๊กตาลูกเทพโด่งดัง หลายคนวิเคราะห์ว่ามาจากดารานักแสดงที่แห่มาเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพกันมากมายในช่วงนั้น โดยสื่อต่างๆ ก็ช่วยกันโหมประโคมการเลี้ยงลูกเทพ จนกลายเป็นประแสฟีเวอร์อยู่พักใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ดารา นักร้อง ดีเจ และอดีตนางงาม

3.กลางปี 2558 เป็นกระแสฟีเวอร์หนักมาก จนกระทั่งเซเลบเรื่องเห็นวิญญาณของรายการชื่อดัง และเซียนพระก็ออกมาเบรกและพูดอีกมุมของความเชื่อด้วยการระบุว่าตุ๊กตาลูกเทพฟีเวอร์ว่า มโน เลอะเทอะ พร้อมกับจวกดาราปั่นกระแส ขณะที่เซียนพระย้ำพลาสติกปลุกเสก ไม่มีในพุทธประวัติ

4.หลังจากผลครั้งนั้น ทำให้กระแสตุ๊กตาลูกเทพหายไปจากหน้าสื่อระยะใหญ่ แต่ก็ยังมีคนฮิตอยู่แต่ไม่ได้เป็นวงกว้าง เนื่องจากมีการถกเถียงถึงที่มาความน่าจะเป็นไปได้ของตุ๊กตาลูกเทพจริงหรือไม่? กระทั่งต้นปี 2559 ก็กลายเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้งเมื่อสายการบินออกมาประกาศเปิดให้จองที่ให้ตุ๊กตาลูกเทพ โดยเนื้อหาระบุว่า ในช่วงระยะเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีผู้โดยสารนำตุ๊กตาลูกเทพ ขึ้นเครื่องเป็นจำนวนมากกว่า 40 เคส ซึ่งในแง่ของการปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย บางครั้งตุ๊กตามีขนาดใหญ่ ทางพนักงานต้อนรับบนเครื่องจะนำน้องไปไว้บนช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ หรือใต้เก้าอี้ โดยในกรณีดังกล่าวนี้ ทางผู้โดยสารไม่อนุญาต ซึ่งเป็นเรื่องของความเชื่อและความศรัทธาส่วนบุคคล อาจส่งผลให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องมีการกระทบกระทั่งกับผู้โดยสารได้

5.หลังจากนั้น รถทัวร์ก็ออกมาขานรับเกาะกระแสดังกล่าวด้วยการขายตั๋วที่นั่งรถโดยสารให้ “ตุ๊กตาลูกเทพ” ในราคาปกติ พร้อมบริการดูแลอาหารเสมือนผู้โดยสารทั่วไป ขณะเดียวกัน พบหลากหลายธุรกิจเริ่มตอบรับการมีอยู่ของ “ตุ๊กตาลูกเทพ” ด้วยการให้บริการเสริมเป็นกรณีพิเศษ ทั้งเสริมสวย ที่พัก ร้านอาหาร ไปจนถึงรับเลี้ยงเหมือนเด็กเล็ก

6.กระแสธุรกิจตุ๊กตาลูกเทพฟีเวอร์ไปไกล ด้วยการออกมาเปิดเผยจากหมอแมค ขั้นเทพว่า มีการเปิดร้านเพื่อจำหน่ายลูกเทพโดยเฉพาะ และยังพบกลุ่มเลี้ยงลูกเทพ รับจ้างเลี้ยงดู ชม.ละ 500 บ. พร้อมป้อนข้าวป้อนน้ำ สอนหนังสือกันอย่างแพร่หลายในโซเชียลอีกด้วย

7.สำหรับราคาของตุ๊กตาลูกเทพก็มีมากมายหลายเรท มีตั้งแต่ราคา 4,000-30,000 บาท ตามแต่เกรดคุณภาพตุ๊กตา ขนาด ยี่ห้อ และลงอักขระ ทั้งนี้ยี่ห้อตุ๊กตาส่วนมากที่คนไทยนิยมซื้อกันได้แก่ ยี่ห้อ adora ราคาประมาณ 5,000-10,000 บาท, ยี่ห้อ reborn 9,000-30,000 บาท, ยี่ห้อ lee ราคาประมาณ 3,000-30,000 บาท และ ยี่ห้อ madarm 1,000-5,000 บาท ส่วนค่าพิธีกรรมกำเนิดเทพนั้น มีตั้งแต่ราคา 200-20,000 บาท ตามแต่จะใช้บริการสำนักพิธีใด หรือพระเกจิวัดไหนทำพิธีให้

โดยเฉพาะที่บริเวณห้างดังย่านงามวงศ์วาน มีการเปิดร้านค้าตุ๊กตาลูกเทพกันเป็นจำนวนมาก มีทั้งการจำหน่ายตุ๊กตาอย่างเดียว และการจำหน่ายเสื้อผ้าสำหรับตุ๊กตา

8.หนักไปกว่านั้น บางร้านมีบริการกำเนิดลูกเทพ หรือการนำตุ๊กตาไปลงอักขระปลุกเสก อัญเชิญวิญญาณเข้าตุ๊กตาให้กับผู้มาซื้อด้วย โดยร้านค้าส่วนใหญ่จะมีการส่งตุ๊กตาไปให้พระในวัดชื่อดังช่วยทำพิธีให้

9.นอกจากนี้ ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของต่างๆ ในโลกโซเชียลต่างก็เกาะกระแสนี้ด้วยการทำโปรโมชั่นเพื่อตุ๊กตาลูกเทพกันอย่างมากมาย เช่น ยินดีบริการให้ “ตุ๊กตาลูกเทพ” ฟรี (เท่ากับอัตราเด็กเล็กสูงต่ำกว่า 120 ซม.) ทั้งนี้ยังระบุข้อแม้ว่าอาหารที่สั่งต้องทานหมดเท่านั้น ระยะเวลากิน 1.30 ชม. 499 บาท

10.ส่วนสรุปแล้วว่าจะเลี้ยงหรือไม่ ไปฟังในมุมของธรรมะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้? พระพยอม กัลยาโณ ได้กล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า ชาวพุทธถ้าหลุดจากหลักก็จะคลำหาฤทธิ์ ที่คลำขึ้นมาก็แตกต่างกันแต่ละยุคแต่ละสมัย พระพุทธเจ้าสอนมาว่าถ้าอยากรวยต้องขยันหา รักษาทรัพย์ดี และไม่ก่อหนี้ก่อสิน กินอยู่ใช้จ่ายให้พอดี ไม่สุรุ่ยสุร่าย ซึ่งหลักในการอุ้มตุ๊กตาแล้วจะทำให้ร่ำรวย มันไม่ใช่หลัก มันคือฤทธิ์ หวังผลดลบันดาล เชื่อมั่น มโนไปเองถ้าหากว่าถ้าอุ้มแล้วร่ำรวยก็เอาไปไว้ที่กระทรวงการคลัง กระทรวงเหล่านี้เงินเข้าเยอะๆ ประเทศชาติก็จะเจริญ พูดง่ายๆ ว่าคนพลัดหลัก ก็คลำหาฤทธิ์ มันเป็นคนมักง่าย อยากรวยง่ายๆ เป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้

11.ส่วนในมุมของการปลุกเสกของขลัง นายพิศาล เตชะวิภาค หรือ ต้อย เมืองนนท์ เซียนพระชื่อดัง กล่าวว่า ของปลุกเสกนี้ตามพุทธประวัติในพุทธศาสนาไม่มีการปลุกเสก จะเป็นการมอบให้ตัวต่อตัว นอกจากพระพุทธรูป หรือพระเครื่อง ซึ่งของเหล่านี้เป็นแค่ของประโลมใจ แต่มีกระแสดีเพราะดาราเอามาโปรโมต ซึ่งดาราทำอะไรสักอย่างหนึ่งประชาชนก็พร้อมจะทำตาม พร้อมจะเชื่อตาม เพราะดารามีสิทธิ์ออกสื่อได้ ถามตนเองเชื่อไหม อย่าว่าแต่เป็นพลาสติกเลย มาเป็นทองแดง ลงรักปิดทอง มันก็ไม่น่าเชื่อถือ 100%

ท้ายที่สุด เซียนต้อยกล่าวว่า ตามประวัติพุทธประวัติ ไม่มีหรอกที่มามอบตุ๊กตาแล้วก็ร่ำรวย ถ้าใครมีกันมันก็รวยทั้งประเทศ ช่วยเศรษฐกิจชาติ ทำไมเรายังจนเหมือนเดิม ทางที่ดีให้มีสติ โดยเฉพาะดาราและประชาชนที่จะเชื่ออะไรง่ายๆ โดยไม่ไตร่ตรองและหาข้อมูล

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีคนบางกลุ่มนิยมเล่นตุ๊กตาลูกเทพว่า

“การเล่นตุ๊กตาลูกเทพไม่ถือว่าเป็นผู้ที่มีความผิดปกติ แต่ผู้ที่เล่นตุ๊กตาลูกเทพนั้นอาจจะมาจากกระแสของสังคม จึงเล่นตามกระแสและเล่นตามความเชื่อส่วนตัว แต่อาจจะมีบ้างบางกลุ่มที่ต้องการที่พึ่ง และเมื่อเห็นว่ามีตุ๊กตาลูกเทพ จึงเลือกที่จะพึ่งตุ๊กตาลูกเทพ แต่กลุ่มที่ต้องการที่พึ่งนั้นก็มีจำนวนไม่มากนัก สำหรับผู้ที่ต้องการที่พึ่งนั้น อยากแนะนำให้หันไปหาพุทธศาสนาจะดีกว่า เพราะมีที่มาที่ไปที่ชัดเจนและเชื่อถือได้”

ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์