กลายเป็นตำนาน GTH ปิดตัว!!! เพราะ “เห็นต่าง” ประเด็นใหญ่!!!

กลายเป็นตำนาน GTH ปิดตัว!!! เพราะ “เห็นต่าง” ประเด็นใหญ่!!!

ค่ายภาพยนตร์ชื่อดัง จีทีเอช (GTH) ที่เกิดจากการร่วมทุนของ 3 บริษัทคือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่,ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และหับ โห้ หิ้น ฟิล์ม ที่สร้างภาพยนตร์ชื่อดังมากมายหลายเรื่อง อาทิ พี่มาก..พระโขนง, ไอฟายแต๊งกิ้วฯ, ฟรีแลนซ์ฯ, แฟนฉัน, เพื่อนสนิท ฯลฯ เตรียมปิดตัวลง

เนื่องจากเกิดการขัดแย้งในเชิงบริหาร จนอาจมีการถอนหุ้นหรือเปลี่ยนผู้บริหาร โดยคุณบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บ.จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ กล่าวว่า

“ตลอดการทำงานจะมีการทบทวนทิศทางการประกอบธุรกิจตลอดเวลา เช่นเดียวกัน โดยกลางปีที่ผานมาได้พูดคุยการพัฒนาการเติบโตทางบริษัท โดยทาง ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มีความเห็นว่าจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ทางหับ โห้ หิ้น ฟิล์ม มองว่าบริษัทยังไม่พร้อมที่จะเข้า 1-3 ปีนี้ โดยทางแกรมมี่เข้าใจความเห็นทั้งสองฝ่าย และมองว่าความเห็นไม่ตรงกันอาจส่งผลเสียกับทั้ง 3 บริษัท และคำนึงความสัมพันธ์ที่ดีทั้ง 3 ฝ่าย จึงตัดสินใจยุติการดำเนินงานของจีทีเอช โดยมีผล 31 ธ.ค. ปีนี้”

ค่ายหนังร้อยล้าน‘จีทีเอช‘ ประกาศปิดตัว/เห็นต่าง | เดลินิวส์
นายวิสูตร พูลวรลักษณ์ ผู้บริหาร ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กล่าวว่า

“เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ผมต้องเรียนว่า ผมมีอาชีพทำหนัง ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ผมทำอาชีพเดียวคือสร้างภาพยนตร์ ตั้งแต่ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ถึง GTH เมื่อต่างคนต่างเดินจะทำอะไรกัน ผมคงจะไปสร้างภาพยนตร์ต่อ ไปเปิดบริษัท คงอยากเห็นอุตสาหกรรมหนังไทยเดินไปข้างหน้า ผมคิดว่าวงการหนังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องทำอีกเยอะ ที่ผ่านมาเราได้ฝากผลงานที่ดีไว้มากมาย รวมทั้งผู้คนที่มีผีมือรวมทั้งนักแสดงที่ผมคิดว่ายังสามารถไปต่อไปได้อีกมาก เพราะฉะนั้นแล้ว ผมอยากให้มองภาพว่าเวลานี้เหมือนขบวนรถไฟ GTH สิ้นสุดที่สถานีนี้แต่ไม่ได้จบเพียงเท่านี้ มีอีกหลายเส้นทางที่จะเดินต่อไป GTH อาจก่อเกิดใหม่อีก 3-4 บริษัท หนังไทยเติบโตขึ้นอีกมากจากจุดนี้ ผมคิดว่าอันนี้เป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่เป็นสิ่งที่ดีในวงการหนังไทย”

“เก้ง-จิระ มะลิกุล” ผู้บริหาร หับ โห้ หิ้น ฟิล์ม กล่าวว่า

“ได้เข้ามาทำหนังไทยได้ 11 ปี คือจากความที่รักหนังไทยมากอยู่แล้ว การได้เข้ามาทำ ทำให้รู้สึกรักอาชีพนี้มาก ต้องขอบคุณคุณวิสูตรที่ช่วยสอน ทำหนังในแบบที่แฟนๆหนังไทยชอบ รัก และติตดาม ทำให้มีผู้กำกับที่พร้อมจะเดินหน้าต่อไป ทำให้วงการภาพยนตร์ไทยมีสิ่งใหม่ๆ ซึ่งผมต้องขอบคุณคนเอาใจช่วยสปอนเซอร์ นักข่าว รายการทีวีต่างๆ ผู้ร่วมลงทุนต่างๆ ที่ให้ 11 ปีนี้ คนดูหนังไทย รู้สึกคึกคักมีความหวัง ผมรักในอาชีพทำหนัง และรู้สึกว่า vision ยังไม่สิ้นสุดอยากทำต่อไป”

ในอนาคตวงการภาพยนตร์ไทย คงมีหนังดีๆ ออกมาให้ดูกันอีกมาก แต่จะเป็นสไตล์ไหนนั้น คงต้องติดตามกันต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์ และขอขอบคุณเครดิตภาพจาก ONE บันเทิง