10 อันดับอาหารแปลกๆ ที่ไม่อยากจะเชื่อว่า “เป็นยาอายุวัฒนะ!!!”
อันดับ 10 ไก่พิษงู
เมนูโหดที่นักท่องเที่ยวมาเห็นถึงกับเอ่ยปากว่า “มันเป็นอาหารที่ขยะแขยง น่ารังเกียจ ผิดศิลธรรม และกระหายเลือดเกินบรรยาย” โดยวิธีทำโครตง่ายเพียงแต่สวมวิญญาณฆาตกรโหดจับงูพิษมากัดไก่เป็นๆ จนตายต่อหน้าต่อตาคนกิน แล้วผ่าเครื่องในออกมากินสดๆ โดยจีนเชื่อว่ามันมีสรรพคุณช่วยขับขับพิษออกจากร่างกาย โดยอาหารนี้ขายในร้านบางแห่งในมณฑลกวางตุ้งและนครฉงชิงทางภาคใต้ของจีน และปัจจุบันเห็นว่ามีการออกกฎห้ามจำหน่ายเมนูนี้ให้แก่ผู้บริโภคแล้ว แต่ก็คงแอบขายแบบลับๆ
อันดับ 9 ลูกอมแมงป่อง
ลูกกวาด หรือลูกอมนี้มียี่ห้อ Hotlix (เขาบอกว่าผลิตมา 20 ปี) กินเล่นๆ ดูภาพก็รู้แล้วมั้งว่าข้างในมีออฟชั่นเสริม เป็นไส้แมงป่อง เวลาคุณได้เลียผ่านเคลือบน้ำตาลไปเรื่อยๆ คุณจะได้ลิ้มรสชาติของแมงป่องตัวอ้วนๆ จนคุณต้องติดใจ เบิ้ลอีกอัน ซึ่งนอกจากแมลงป่องแล้วก็ยังมีหลายแบบ เช่น ลูกกวาดตั๊กแตนรสเลมอน ลูกกวาดจิ้งหรีดรสส้ม ลูกกวาดหนอนรสแตงโม เป็นต้น มันเข้ากันได้ไงนี้ ถ้าอยากซื้อติดตามได้ที่ เว็บไซต์ http://www.hotlix.com/
อันดับ 8 ปลาร้าสวีเดน
โดดเด่นกว่าปลาร้าไทยตรงที่ปลาร้าสวีเดน เป็นปลา Sill เป็นปลาขนาดใหญ่ นิยมกินในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสของประเทศสวีเดน หมักในดีบุกที่กลิ่นเหม็นมาก โดยใช้แบคทีเรีย Haloanaerobium มาช่วยในการหมัก และยังมีส่วนประกอบอีกมากที่เหม็นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นไข่เน่า (ไฮเดรเจนซัลไฟด์), เนยเหลวเหม็นหื่น(กรด Butyric) น้ำส้ม(Acetic) และส่วนประกอบอื่นๆ อีกมากมาย เวลาจะทานก็นำไปใส่ในแซสวิส เอามาทำสลัด, ยำ หรือจะกินดิบๆ แบบปลาร้าบ้านเราก็ไม่ว่ากัน
อันดับ 7 คูมิส(Kumis)
คูมิสเป็นผลิตภัณฑ์น้ำนมเปรี้ยว ที่ได้จากม้าเพศเมียที่โตเต็มที่ แล้วนำมาหมักแบคทีเรียแลคโตบาซัลลัสและยีสต์และนำมากวน(คล้ายกับวิธีทำเนยเหลว) ทำให้กลายเป็นกรดนม และแอลกฮอล์……มีคุณสมบัติกินแล้วเหมือนเหล้าอ่อนๆ และเป็นยาถ่ายได้เป็นอย่างดี จบข่าว
อันดับ 6 ไข่เยี่ยวม้า(Century Egg)
ชาวไทยคงชิน และอร่อย! แต่ต่างชาติมองว่า เป็นเมนูที่โคตะระแปลกเลยล่ะ ไข่เยี่ยวม้าเป็นอาหารหมักชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นด่าง เป็นอาหารจีนทางภาคใต้ เวลาจะทำก็ใช้ใบชา, ปูนขาว เกลือป่น ขี้เถ้า ฟางข้าว และแกลบนมมาผสมกับน้ำแล้ว มาพอกไข่เป็ด (ไก่ก็ได้) จากนั้นก็นำมาทิ้งไว้หลายวันหลายเดือนประมาณ 40-50 วันก็เป็นอันใช้ได้ การหมักไข่เยี่ยวม้าจะทำให้โปรตีนและ ฟอสโฟไลปิด (phospholipids) บางส่วนในไข่จะสลายตัวทำให้เกิดแอมโมเนีย(ไข่เน่า)และกำมะถันทำให้มีกลิ่นเหม็น ไข่แดงจะมีสีเขียวซีดเหนียวและแข็ง ไข่ขาวจะกลายเป็นสีน้ำตาลไหม้วุ้นโปร่งใส มีรสเล็กน้อย เรียกได้ว่ามันคือ “ไข่เน่า” ดีๆ นี้เอง แม้ประโยชน์ของไข่เยี่ยวมาจะมีมากมาย เช่น บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต แต่บางเจ้าจะใส่ตะกั่วเพื่อควบคุมความเป็นกรดด่างทำให้ไข่ขาวแข็งซึ่งเป็นอันตรายหากคนกินเข้าไป
อันดับ 5 รกมนุษย์ (Human Placenta)
รกของมนุษย์หรือคนนี้แหละ เชื่อหรือไม่ว่ารกมนุษย์นั้นสามารถเป็นอาหารได้ ในทางการแพทย์จีนถือว่ารกเด็กนั้นเป็นยาสมุนไพรที่ช่วยบำรุงร่างกาย และแก้ปัญหาเสื่อมสรรถภาพทางเพศในชาย แก้โรคหัวใจ และวัณโรค อเมริกาและยุโรป ฮาวาย และบางเกาะ เชื่อว่า ป้องกันภาวะโรคซึมเศร้า ก็อันเนื่องมาจากรกเด็กนั้นอุดมด้วยโปรตีน วิตามิน แคลเซียม ฮอร์โมน และแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ในอินเตอร์เน็ตบางแห่งได้นำเสนอสูตรการกินรกเด็กอย่างน่าเอร็ดอร่อยไว้ด้วย วิธีก็ง่ายๆ คือเอาเหล้าผสมหลายชนิดเขย่าและนำรกมนุษย์ดิบๆประมาณ 1/4ถ้วย ใส่น้ำผลไม้ น้ำแข็ง หัวผักกาดแดง ½ ถ้วย ผสมด้วยความเร็วสูง 10 วินาที และดื่ม
อันดับ 4 ซุปเลือดดิบ
ซุปเลือดดิบ เป็นอาหารประจำชาติของชาวเวียดนามทางเหนือครับ กินในตอนเช้า ถือกินพร้อมกับเหล้าแอลกอฮอล์ก็ไม่ว่ากันครับ เขาว่ามันมีโปรตีนสูงดี เป็นอาหารที่โครตทำง่ายมาก แค่เอาเลือดดิบจากเป็ด(บางครั้งก็หมู, นก, ห่าน) ใส่ตู้เย็นให้มันข้นๆ แข็งๆ หยุ่นๆ เหมือนเยลลี่เหนียวๆ จากนั้นก็โรยท็อปปิ้ง(ของโรยหน้า) เช่นถั่วลิสง, ผัก หรือสมุนไพรอะไรก็ได้
อันดับ 3 ข้าวโพดที่เป็นโรคสมัท(Corn Smut)
โรคสมัทคืออะไร โรคสมัทเรียกอีกอย่างว่าโรคราเขม่าดำครับ เป็นโรคสำคัญของข้าวโพด เกิดจากเชื้อรา Ustilago maydis(DC.)Cds แพร่กระจายโดยสปอร์ พบการระบาดทั่วไปในแหล่งปลูกข้าวโพดทั่วโลก โดยอเมริกาและเม็กซิโกหนักสุด จากภาพคงจะเห็นว่าเชื้อโรคจะทำให้ฝักข้าวโพดเป็นเชื้อรา รูปร่างบิดเบี้ยว บวม ฯลฯ ดูยังไงก็มาน่ากิน บ้านเราเห็นแทบลมจับเพราะขาดทุน ให้หมูยังไม่กินเลย แต่สำหรับแดนผู้ดีอย่างอังกฤษไม่เป็นเช่นนี้ มันสามารถนำไปทำเป็นอาหารด้วย โดยจะเก็บเกี่ยวในขณะที่เป็นโรคไม่สมบูรณ์(หลังจากที่ปลายข้าวโพดติดเชื้อแล้ว)แล้วถูกนำไปขายในราคาสูงเสียด้วย จากนั้นก็นำมันมาปรุงเป็นอาหาร มีการบรรยายด้วยว่า รสชาติเหมือนเห็ด หวาน
อันดับ 2 ซุปแมงป่อง
อาหารของประเทศจีนทางตอนใต้ มีสรรพคุณบรรเทาโรคปวดตามกล้ามเนื้อ ในเว็บที่มาไม่ได้บอกวิธีทำแบบละเอียดหรอกครับ ต้องอีกเว็บ เขาบรรยายว่า ขั้นแรกให้หาแมลงป่องที่ไหนก็ได้ เอาประมาณสัก 30-40 ตัวล้างให้สะอาด ต้มในน้ำเดือดลงในหม้อ จากนั้นใส่กระเทียมหัวใหญ่บด 1 ถ้วย, หมูสด 125 กรัม, รากขิงสดสับประมาณ 3 ขีด, แครอทหั่นบางๆ, สมุนไพรต่างๆ เกลือและพริกไทย ต้ม 40 นาที กินได้เลย
หลายๆ คนสงสัยว่าแล้วพิษที่หางแมงป่องนี้ไม่เอาออกก่อนเหรอ กินไปจะอันตรายไหมนั้น คำตอบก็ไม่จำเป็นครับ พอพิษพวกนั้นโดนความร้อนมันก็สลายเปลี่ยนเป็นรูปที่ไม่มีอันตรายสำหรับคนกินแล้ว เขาบอกว่าอร่อยเหมือนซุปไก่
อันดับ 1 ตัวอ่อนในครรภ์มนุษย์(Human Fetus)
คนกินคนของจริงนี่แหละจ้า เอามาย่างแล้วกินสดๆ เลย แน่นอนว่ามันยังเป็นที่ถกเกียงถึงจิตสามัญสำนึกว่าควรยอมรับว่ามันใช่อาหารหรือเปล่า แน่นอนว่าประวัติศาสตร์มนุษย์นั้นมีรายงานคนกินคนในทั่วทุกมุมโลกแล้วไม่แปลก แต่ส่วนมากมันกินเพราะมันโรคจิตนี้น่าไม่ใช้อาหาร แต่สำหรับจีนแล้ว เชื่อว่าตัวอ่อนในครรภ์มนุษย์คือสุดยอดยายุวัฒนะ
นอกจากไข่เยี่ยวม้าแล้ว แอดมินไม่เคยกินไรเลยนะ จริงจริ๊งงงง!
ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก archive.gameindy
Leave a Reply