ไม่น่าเชื่อ… แต่เป็นเรื่องจริง!!! แม่ลูกหนึ่งชาวอังกฤษรวย 600 ล้าน จากแค่ “ซองจดหมาย” ใน “ห้องนอน”

ไม่น่าเชื่อ… แต่เป็นเรื่องจริง!!! แม่ลูกหนึ่งชาวอังกฤษรวย 600 ล้าน จากแค่ “ซองจดหมาย” ใน “ห้องนอน”

เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงกับ ซาร่า เดวีส์ หญิงอังกฤษ เธอมีรายได้มากมาย ประมาณปีละ 11,000,000 ปอนด์ (ประมาณ 605,000,000 บาท) จากซองกระดาษ ซองจดหมาย ธุรกิจทำเงิน ที่ใครๆ อาจมองข้าม หรือมองไม่เห็น

เรื่องราวของซาร่า หญิงชาวเมืองบิชอปโอ๊คแลนด์ ที่มีโอกาสทำอาชีพที่สามารถเป็นนายของตัวเองอย่างเต็มตัว น่าจะเป็น “แรงบันดาลใจ” ให้แก่ใครก็ตามที่กำลังคิดจะเริ่มทำธุรกิจ

ทั้งนี้ นักธุรกิจหญิง แม่ลูกหนึ่งวัย 31 ปี ย้อนเล่าถึงช่วงพลิกชีวิตเธอจากหน้ามือเป็นหลังมือว่า เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนเธออายุเพียง 21 ปีเท่านั้น ที่ทำให้เธอค้นพบเคล็ดลับแห่งความสำเร็จ ที่ช่างง่ายดายสุดเหลือเชื่อ และเธออยากจะบอกต่อแก่ผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มทำธุรกิจของตัวเองว่า…

“ไอเดีย ความคิดที่เรียบง่ายนั่นแหละ ดีที่สุด”

เธอเล่าว่า ตอนนั้นเธอกำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยยอร์ก และวางแผนชีวิตไว้แล้วว่าเธออยากจะหางานทำแถวบ้านเกิด เพราะไม่อยากจากบ้านไปไหน ดังนั้น เธอจึงพยายามเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ เกี่ยวกับสินค้าที่เป็นงานฝีมือ แล้วเธอก็พบว่า ลูกค้ามักจะหงุดหงิด เมื่อไม่สามารถหาซองจดหมายที่ใส่ได้พอดีกับการ์ดทำมือ

ปัญหานั่นเองที่ทำให้ซาร่าร้องว้าว..และค้นพบช่องทางทำธุรกิจ อันเป็นที่มาของเอ็นเวลอปเปอร์ (Enveloper) ผู้ผลิตซองทุกไซซ์ ทุกขนาด สำหรับกระดาษทุกชนิด และด้วยความที่เธอมีหัวทางธุรกิจอยู่พอตัว เธอจึงนำไอเดียไปเสนอแก่ช่องทีวีช้อปปิ้ง ที่ขายสินค้าทางโทรทัศน์ ซึ่งพอธุรกิจของเธอได้ออนแอร์ออกทีวีเท่านั้นแหละ เธอก็ขายซองและบรรจุภัณฑ์สำหรับกระดาษรูปทรงต่างๆ ได้ถึง 8,000 ชิ้น

และความสำเร็จนี้ก็ทำให้ซาร่ามีคำแนะนำฝากถึงผู้มีทุนน้อยและคิดว่าเป็นอุปสรรคทำให้เริ่มต้นธุรกิจยากว่า “ความเชื่อที่ว่าคุณจำเป็นต้องมีเงินหลายพันปอนด์เพื่อเริ่มต้นธุรกิจเป็นความเชื่อที่เก่าไปแล้ว”

ซาร่าเล่าด้วยว่า ตอนเริ่มต้นธุรกิจ เธอเริ่มต้นจากการนั่งทำงานใน “ห้องนอน” ด้วยซ้ำ แต่ด้วยระยะเวลา 10 ปี ตอนนี้เธอมีพนักงาน 60 คน และมีสำนักงานอยู่ที่รัฐฟลอริด้าด้วย

นอกจากนี้ซาร่ายังเล่าด้วยว่า ย้อนไปเมื่อปี 2556 เธอยังมีโอกาส หยุดพักงาน ไปเลี้ยงลูกอ่อน 3 เดือน หลังจากที่เธอและไซม่อนสามีได้ลูกชาย

“เพราะเป้าหมายหลักของเราทั้งคู่ก็คือการมีครอบครัว ดังนั้น ฉันไม่มีวันทิ้งลูกให้พี่เลี้ยงหรือแม่นมเลี้ยงเด็ดขาด และฉันก็มีความเชื่อว่า หากฉันสามารถมีธุรกิจที่มั่นคงตั้งแต่อายุยังน้อย ฉันก็สามารถลอยตัว หมดห่วง ทุกวันนี้ฉันเหมือนเหาะไปมาระหว่างสวรรค์กับโลก เพื่อใช้เวลาอยู่กับโอลิเวอร์ลูกชาย และในฐานะแม่ที่เลี้ยงลูกเองด้วย ทำงานด้วย

ฉันจึงให้คุณค่าความสำคัญกับความยืดหยุ่น และพยายามคิดหาข้อเสนอดีๆ ในการทำงานให้แก่พนักงาน โดยพนักงานที่เป็นเวิร์กกิ้งมัม หรือแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกด้วย ทำงานด้วย ก็จะได้ข้อเสนอที่มากขึ้น”

เจ๋งจริงๆ เรื่องนี้น่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้เหล่าคุณแม่ที่เลี้ยงลูกเองขึ้นมาได้อีกเยอะเลย!

ขอขอบคุณข้อมูลจาก มติชนออนไลน์ และขอขอบคุณเครดิตภาพจาก METRO