ช้อปปิ้งออนไลน์อย่างไร ไม่ถูกโกง!

ช้อปปิ้งออนไลน์อย่างไร ไม่ถูกโกง!

            เมื่อปลายเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา คงไม่มีข่าวใดกระชากใจผู้ชื่นชอบการช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์ไปกว่า ข่าวซื้อ iPhone ราคา13,000บาท ผ่านทางอินเทอร์เน็ต แต่ได้ขวดน้ำมาแทน!  มิหนำซ้ำจวบจนปัจจุบันก็ยังคงมีผู้ร้องทุกข์ไม่เว้นแต่ละวันว่า ต่างก็เคยถูกหลอกซื้อสินค้าไม่มีคุณภาพผ่านทางโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน

วิธีที่ 1  มีใบทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์รึป่าว

แม้การช้อปปิ้งออนไลน์จะเป็นทางเลือกที่หลากหลายสำหรับการจับจ่ายของคุณ แต่ก็ไม่ควรละเลยความปลอดภัย โดยการมองหาทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจัดทำโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการยืนยันว่าร้านค้าออนไลน์เว็บนี้มีอยู่จริง อีกทั้งคุณยังสามารถช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ โดยไม่เกรงกลัวว่าอาจจะถูกโกงด้วย เพราะหากเกิดความไม่เป็นธรรมในการซื้อสินค้าออนไลน์ คุณก็สามารถแจ้งเลขทะเบียนพาณิชย์ของร้านออนไลน์ไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ให้ช่วยดำเนินการตักเตือน หรือเพิกถอนใบทะเบียนร้านค้าได้ตามความเหมาะสมด้วย

ใบทะเบียนพาณิชย์เป็นของจริงหรือไม่ เช็คได้

เช็คใบทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ว่าเป็นของจริงหรือไม่ ได้ที่ http://www.dbd.go.th แล้วเข้าเมนู “ตรวจสอบข้อมูลหนังสือรับรองนิติบุคคลอิเล็กทรอนิกส์” ถ้าเป็นร้านค้าออนไลน์ที่ลงทะเบียนอย่างถูกต้อง ก็จะพบหน้าหนังสือรับรองที่มีข้อความตรงกัน

วิธีที่2  เว็บไซต์จริงใจ ใครๆ ก็ช้อป

ประการสำคัญที่คุณไม่ควรละเลย คือการอ่านคอมเม้น และชมภาพรีวิวจากลูกค้าคนอื่นก่อนลงมือช้อปเอง เพราะทุกคอมเม้นล้วนมาจากประสบการณ์ตรงของลูกค้าคนก่อนๆ ที่เคยซื้อสินค้าจากร้าน ซึ่งช่วยให้คุณทราบข้อมูลอื่นๆ ที่ทางร้านไม่ได้บอกเอาไว้ เช่น ร้านนี้ส่งสินค้าจริงหรือเปล่า จัดส่งล่าช้าหรือไม่ รวมถึงคุณภาพของสินค้าตรงตามคำโฆษณาชวนเชื่อของร้านไหม อีกทั้งจำนวนรีวิวจากลูกค้ายังเป็นการตอกย้ำความชอบ และความมั่นใจที่ลูกค้าคนอื่น มีให้แก่เว็บไซต์ออนไลน์นั้นๆ อีกด้วย

 วิธีที่ 3  ถูก(มาก)และดี ไม่มีอยู่จริง

แน่นอนว่า กว่าคุณจะตัดสินใจช้อปปิ้งสินค้าสักชิ้น คงเข้าเว็บนู้น ออกเว็บนี้เพื่อเปรียบเทียบราคา และคุณภาพจนมั่นใจว่าจะได้ของที่ทั้งถูกและดีที่สุด ซึ่งแน่นอนอีกว่ามิจฉาชีพก็รู้จักวิธีนี้ดีเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่เขาจะทำเพื่อหลอกลวงคุณคือ เขาจะนำรูปสินค้าที่มีมากมายในท้องตลาด ทั้งที่ไม่มีสินค้านั้นจริงๆ  แล้วมาตั้งราคาขายใหม่ให้ถูกมากจนเกินจริง เพื่อหลอกให้คุณไขว้เขว จนอาจเผลอสั่งสินค้า และตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพโดยไม่ทันระวังตัว  ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ คุณควรพิจารณาซื้อสินค้าที่มีราคาปานกลาง หรือถูกกว่าเล็กน้อย อีกทั้งควรซื้อผ่านเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้จริง แม้อาจราคาแพงกว่า แต่ย่อมปลอดภัยและได้สินค้าจริงแน่นอน

วิธีที่ 4 สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า “ความจริงใจ”

อย่าปักใจเชื่อว่าร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่จะตั้งใจหลอกขายสินค้าคุณ เพราะแท้จริงแล้วมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ยังมีร้านค้าออนไลน์อีกมากที่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ซึ่งอุปนิสัยของพวกเขาส่วนใหญ่จะคล้ายคลึงกันคือ การให้จริงใจกับลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยวิธีที่คุณสามารถเช็คได้ว่าร้านนี้จริงใจและตั้งใจขายสินค้าให้คุณหรือไม่คือ การสอบถาม คุณสามารถถามรายละเอียดทุกอย่างของสินค้าได้เต็มที่เช่น ขนาด ความกว้าง ความยาว ไปจนถึงวัสดุที่นำมาใช้ผลิตสินค้า แน่นอนว่าแม่ค้าที่ดีจะไม่รู้สึกรำคาญ และยินดีตอบทุกคำถามของคุณด้วยความเต็มใจ (ขอเพียง… ถามแล้วถูกใจ ก็อย่าลืมอุดหนุนเขาบ้างนะคะ ^_^)

วิธีที่ 5 ติดต่อช่องทางไหนก็ได้ เยี่ยมจริง!

ถ้าร้านค้าออนไลน์ที่คุณกำลังสนใจ เปิดให้ช่องทางการติดต่อกับคุณได้ทุกช่องทาง ตั้งแต่ให้เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ของร้าน ไอดีLine แฟนเพจเฟสบุ๊ค  อินทราแกรม ตลอดจนเว็บไซต์ของร้านด้วยแล้วล่ะก็ คุณสามารถเชื่อใจได้ว่าร้านนี้จะไม่หลอกคุณ เพราะการที่เขาเปิดร้านหลายช่องทาง นั่นหมายความว่าเขาตั้งใจจะประกอบธุรกิจนี้อย่างจริงจังและต้องการให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย  รวมถึงถ้าในทุกช่องทางเหล่านั้น มีลูกค้าคนอื่นให้ความสนใจมาก เช่น มีแฟนเพจเฟสบุ๊คเป็นจำนวนหลายพันคน ในขณะที่ยอดติดตามในอินทราแกรมของร้านก็มีจำนวนมากด้วยเช่นเดียวกัน ย่อมแสดงให้เห็นว่าร้านนี้ให้บริการดี และสินค้าเป็นที่พึงพอใจของลูกค้าส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่คุณจะได้รับบริการที่ดีด้วยเช่นกัน