9 วิธีปลดทุกข์ สุขทุกวัน
“เฮ้อ… ทำไมพักนี้ ชีวิตของฉันมีแต่เรื่องโชคร้ายตลอดเลยนะ ทำดีก็ไม่ค่อยจะได้ดี แถมยังมีปัญหามาคอยรุมเร้าอีก แล้วเมื่อไหร่ฉันถึงจะมีความสุขล่ะเนี่ย!”
หากคุณกำลังอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ เช่นเดียวกับข้อความข้างต้นแล้วล่ะก็ วันนี้ มีทางออกสู่สุขมาฝาก ที่รับรองว่า คุณจะยิ้มได้ทุกวันอย่างแน่นอน…
- กังวลมากเกินไปรึเปล่า
จริงอยู่ที่ความกังวลใจเป็นกลไกทางธรรมชาติ ช่วยผลักดันให้มนุษย์สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ แต่ก็ใช้ในเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในทางกลับกัน หากคุณวิตกกังวลมากเกินไป นอกจากจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว ความวิตกกังวลที่มาก อาจเปลี่ยนให้คุณกลายเป็นคนที่มีความผิดปกติทางจิต โดยไม่ทันรู้ตัวก็เป็นได้
- อย่าปล่อยให้ความกลัวครอบงำ
จิตที่กำลังหวาดกลัว เป็นสภาวการณ์ที่ขาดความสุขโดยสิ้นเชิง ดังนั้นหากต้องการมีความสุข ต้องตัดความกลัวออกไปให้ได้เสียก่อน พระไพศาล วิสาโล ได้ให้ข้อคิดเรื่องความกลัวไว้ว่า “ความกลัวนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเกิดขึ้น แต่ขอให้สังเกตว่า เรากลัวเมื่อใจไม่อยู่กับปัจจุบัน ปรุงแต่งถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ภาพดังกล่าวจะทำให้เกิดความกลัวและกังวล มันยังไม่เกิด แต่ก็กลัวเสียแล้ว เมื่อรู้เช่นนี้ก็ให้ใจมาอยู่กับปัจจุบัน”
- ดับไฟแห่งความโกรธ
อย่าปล่อยให้ความโกรธเกิดขึ้นภายในใจบ่อยๆ หรือต่อเนื่องยาวนาน พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนในเรื่องนี้ไว้ว่า “ผู้ใดโกรธตอบผู้ที่โกรธ(ก่อน) เพราะเหตุที่โกรธตอบนั้น ผู้นั้นกลับเลวกว่าผู้ที่โกรธ(ก่อน) นั้นเสียอีก ผู้ไม่โกรธตอบผู้โกรธ(ก่อน) ชื่อว่าชนะสงครามที่ชนะได้ยาก ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธขึ้นมาแล้วมีสติระงับใจเสียได้ ผู้นั้นชื่อว่าประพฤติเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย คือทั้งฝ่ายตนและฝ่ายผู้อื่น…” ดังนั้น สิ่งที่ช่วยดับไฟแห่งความโกรธได้ดีที่สุด คือ การให้อภัย
- แก้ทีละปัญหา
เป็นธรรมดาของชีวิต ที่มักจะแวดล้อมไปด้วยปัญหาสารพัดเรื่องยุ่งยากใจในคราวเดียว แต่อยากให้คุณระลึกไว้ว่า ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้คราวละเรื่องเท่านั้น ฉะนั้นคุณจึงไม่จำเป็นที่จะนำทุกปัญหามาคิดรวมกัน เพราะนอกจากจะทำให้เสียสุขภาพจิตแล้ว ปัญหาก็ยังไม่หมดไปอีกด้วย
- ปลดปัญหาของคนอื่นลงเสียเถอะ
คงมีหลายครั้งในชีวิต ที่คุณบังเอิญแบกรับปัญหาของคนอื่นโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นเพราะบุคคลเหล่านั้น เป็นคนที่คุณรู้สึกห่วง หรือเห็นใจอยากเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาให้ แต่อยากให้คุณเข้าใจเสียใหม่ว่า ปัญหาของเขา เขาสามารถแก้ไขเองได้ และแก้ได้ดีกว่าคุณด้วย การที่คุณพยายามช่วยเหลือ นอกจากอาจจะช่วยได้ไม่ตรงจุดแล้ว อาจทำให้ปัญหาลุกลามไปอีกก็เป็นได้
- รับฟังด้วยหัวใจ
เป็นความจริงที่ว่า การรับฟัง เป็นสิ่งจำเป็นอันดับต้นๆ ในสังคม โดยเฉพาะในยุคนี้ ที่มีแต่คนชอบพูด แต่ไม่ค่อยมีใครชอบฟัง เพราะเข้าใจผิดคิดว่า การเป็นผู้ฟัง คือผู้ที่มีความรู้ความสามารถน้อยกว่าผู้พูด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ฟังต่างหาก คือผู้ที่ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากกว่า อีกทั้งการรับฟังยังมีคุณอนันต์ ในกรณีที่คุณกำลังประสบปัญหารุนแรง เพียงแค่คุณรับฟังด้วยหัวใจ ปัญหาต่างๆ ก็อาจยุติลงได้
7.ไม่จมอยู่กับอดีต
อดีตมีหน้าที่เพียงใช้รำลึกถึงเรื่องดีๆ และเรียนรู้จากสิ่งที่เคยผิดพลาด แล้วนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นเท่านั้น อดีตไม่ได้มีไว้เพื่อจมปรักอยู่กับความทุกข์ที่เคยเกิด เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ อดีต แต่คือ ปัจจุบัน หากคุณทำปัจจุบัน ทุกวินาทีให้มีความสุข อดีตซึ่งเป็นผลพวงจากปัจจุบันก็จะมีแต่ความสุขด้วยเช่นกัน
- อย่ามัวแต่สงสารตัวเอง
การมัวแต่รู้สึกสงสารตัวเอง โดยไม่พัฒนาให้ตัวเองดีขึ้นนั้น ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะนอกจากจะทำให้คุณตรอมตรมอยู่กับความทุกข์แล้ว ชีวิตของคุณก็จะไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ฉะนั้นเปลี่ยนจากความสงสาร เป็นความสงสัยในตัวเอง แล้วพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นแทนจะดีกว่า
- จดจำแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต
สิ่งที่น่าจดจำที่สุด ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่คุณเคยได้รับ แต่เป็นเรื่องดีๆ ทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณต่างหาก คุณควรจดจำสิ่งดีๆ ที่คุณเคยได้รับ หรือเคยมอบให้กับใคร ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเล็กน้อยสักเพียงไหนก็ตาม เช่น วันนี้ชีวิตของคุณเร่งรีบเหลือเกิน แต่คุณก็ยังแวะซื้อขนมที่คุณแม่ชอบติดมือมาฝากท่าน ความดีเล็กน้อยนี้ เมื่อนำหลายความดีมารวมกัน ก็จะเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ พอนึกทีไร คุณก็จะอมยิ้มเปี่ยมสุขได้ทุกที
หวังว่าทั้ง 9 วิธีนี้ จะนำความสุขมาสู่ชีวิตคุณได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
Leave a Reply