5 ศพ 5 คดี ฆาตกรต่อเนื่อง ได้ทั้ง “เซ็กส์” และ “สังหาร”!!!
ใครว่าเมืองไทยไม่มีฆาตกรต่อเนื่อง ข่าวเมื่อไม่นานมานี้ฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งได้ฆ่าหมอนวดไปมากถึง 5 ศพ ด้วยการใช้มีดคมกริบ!!!
ช่วงปี 2548 คดีอาชญากรรมที่โด่งดังและสะเทือนขวัญที่สุด เห็นจะไม่มีคดีใดเกินคดีฆาตกรรมต่อเนื่องหมอนวดและนักร้องคาเฟ่ 5 ศพรวด โดยฝีมือของนายสมคิด พุ่มพวง ซึ่งได้รับฉายา “คิด เดอะริปเปอร์” โดยฉายา “เดอะริปเปอร์” หมายถึงการหั่นหรือฉีก เพราะการลงมือของฆาตกรในประวัติศาสตร์รายนี้จะใช้มีดคมกริบเป็นอาวุธ
นายสมคิดก่อเหตุลวงนักร้องคาเฟ่ และหมอนวดไปร่วมหลับนอน ก่อนลงมือสังหารด้วยวิธีต่างๆ ทั้งรัดคอ หรือจับกดน้ำ จากนั้นปลดทรัพย์สินหลบหนี สักพักก็ก่อเหตุลักษณะเดิมอีก ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2548 คิด เดอะริปเปอร์ก่อเหตุถึง 5 คดี ที่น่าตระหนกก็คือในเดือนมิถุนายนเดือนเดียว หมอนี่ฆ่าเหยื่อถึง 4 รายรวด เรียกว่าลงมือทุกสัปดาห์!!!
กระทั่งกองปราบปรามได้รับมอบหมายให้เข้ามาทำคดี เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุในหลายจังหวัดทำให้ตำรวจท้องที่มีปัญหาในการประสานข้อมูล จึงส่งเรื่องให้กองปราบฯ ที่มีอำนาจสืบสวนจับกุมทั่วประเทศรับหน้าที่นี้แทน
หลังจับกุมคนร้ายพร้อมคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตัดสินใจแยกสำนวนเป็น 5 คดี และส่งฟ้องคดีที่สมบูรณ์ที่สุดไปก่อน กระทั่งวันที่ 21 สิงหาคม 2552 ศาลมีคำพิพากษาคดีแรก คือ ฆ่าน.ส.วารุณี พิมพะบุตร นักร้องคาเฟ่ ที่ จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นศพแรกจากฝีมือของคิด เดอะริปเปอร์ ศาลตัดสินประหารชีวิตก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากผู้ต้องหาสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี
จนต่อมาเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดี น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ อายุ 25 ปี อาชีพหมอนวดแผนโบราณ ซึ่งถูกนายสมคิดลวงเข้าพักในอาคารปิยะแมนชั่น จ.บุรีรัมย์ ร่วมหลับนอน ก่อนบีบคอจนขาดใจตาย แล้วปลดทรัพย์สินหลบหนีไป เหตุเกิดระหว่างวันที่ 20-21 มิถุนายน 2548 น.ส.สมปอง เป็นเหยื่อรายที่ 5 หรือรายสุดท้ายของ “คิด เดอะริปเปอร์” เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันตำรวจก็ตามจับกุมนายสมคิด ได้สำเร็จ
คดีน.ส.สมปอง ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้รวดเร็วกว่า แถมมีพยานบุคคล และภาพจากกล้องวงจรปิดมัดตัว จึงส่งฟ้องแยกไปก่อน ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวน และอัยการนำเสนอแล้ว ฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนเดียวที่อยู่กับผู้ตายในห้วงเวลาดังกล่าว ที่จำเลยต่อสู้อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกลั่นแกล้ง เพราะเป็นสายลับคดียาเสพติดนั้นเป็นคำกล่าวอ้างลอยๆ ฟังไม่ขึ้น “พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดจริงตามฟ้องฐานฆ่าผู้อื่นลงโทษประหารชีวิต ฐานลักทรัพย์ลงโทษจำคุก 1 ปี คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ลดโทษหนึ่งในสาม คงเหลือจำคุกตลอดชีวิตและให้ชดใช้เงิน 1 หมื่นบาทคืนญาติผู้ตาย”
ก่อนหน้านี้ นายสมคิด พุ่มพวง เคยถูกตำรวจ จ.นครราชสีมา จับกุมในคดีอ้างเป็นแมวมองของค่ายเพลงชื่อดังหลอกสาวๆ เข้าโรงแรม จากนั้นก็หลบหนีโดยไม่จ่ายค่าห้อง กระทั่งถูกจับได้และทำประวัติเอาไว้ ที่ทำให้ตำรวจและสังคมต้องตื่นตระหนก เมื่อได้ภาพและรูปพรรณก็ให้สงสัยว่านายสมคิด จะพัวพันคดีฆาตกรรมเหยื่อมาแล้วหลายรายด้วยกัน!!!
เหยื่อส่วนใหญ่เป็นหมอนวดและถูกฆ่าคล้ายๆ กับรายน.ส.สมปอง กองปราบปราม รับคดีมาทำเพราะเกิดเหตุหลายพื้นที่ทั่วประเทศ หากให้แต่ละโรงพักทำกันเองคงมีปัญหาเรื่องการประสานงาน เมื่อเห็นภาพและชื่อตำรวจก็จำได้ทันทีว่าไอ้หมอนี่คือนายสมคิด ที่เคยมาป่วนคดีฆ่านายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าฯ ยโสธร ซึ่งกองปราบฯ จับกุม”ผู้พันตึ๋ง”พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ กับพวกเป็นผู้ต้องหา เมื่อปี 2544 นายสมคิด โผล่มาเป็นพยานอ้างว่ารู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยระบุว่าฆาตกรเป็นคนโน้น คนนี้ โดยไม่เกี่ยวกับผู้พันตึ๋ง!!! แต่ท้ายที่สุดตำรวจสอบบี้จนเผยพิรุธออกมา และยอมรับว่ามีคนจ้างมาให้การเท็จเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาตัวจริง ตำรวจส่งดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จ ศาลลงโทษจำคุก 6 เดือน จากนั้นนายสมคิด ก็หายหน้าหายตาไป
กระทั่งตำรวจกองปราบฯ มารับทราบว่าเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวข้องคดีฆาตกรรมลักษณะเดียวกัน เพื่อหาหลักฐานและเบาะแสของนายสมคิด กระทั่งพบว่าไอ้หมอนี่ฆ่าผู้หญิงมาอย่างน้อย 5 รายในเวลาเพียงครึ่งปี โดยเฉพาะเดือนมิถุนายน 2548 เดือนเดียวก่อเหตุถึง 4 คดีซ้อน จากการสอบสวนพบว่า
ฆาตกรรมรายแรก เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2548 เหยื่อคือ น.ส.วารุณี พิมพะบุตร นักร้องคาเฟ่ ถูกมัดและกดน้ำเสียชีวิตในห้องพักโรงแรมพลอยพาเลซ ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร เหยื่อถูกปลดทรัพย์สินไปจนหมด
ฆาตกรรมรายที่สอง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2548 ก่อเหตุฆ่า น.ส.ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย หมอนวดแผนโบราณ ตายคาห้องพัก 604 โรงแรมเวียงลคอร ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง ใช้วิธีบีบคอ
ฆาตกรรมรายที่สาม เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2548 ฆ่านางพัชรีย์ อมตนิรันดร์ นักร้องคาเฟ่ เหยื่อฆ่ารัดคอด้วยสายไฟเสียชีวิตภายในห้องพัก 505 โรงแรมธรรมรินทร์ธนา ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง
ฆาตกรรมรายที่สี่ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน คือ น.ส.พรตะวัน ปังคะบุตร หมอนวด ถูกกดน้ำตายในห้องพัก 1126 โรงแรมเจริญศรีแกรนด์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ปีเดียวกัน
และฆาตกรรมรายที่ห้าคนสุดท้าย คือ น.ส.สมปอง เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2548 ก่อนหน้านี้ตำรวจไม่ได้เอะใจว่าคนร้ายเป็นคนๆ เดียวกัน เพราะเกิดเหตุคนละจังหวัด แถมเมื่อตรวจสอบชื่อผู้เปิดห้องพักเกิดเหตุพบว่าไม่ซ้ำกันเลย โดยมีทั้งชื่อสมคิด พุ่มพวง, ชูชาติ กิ่งแก้ว, ชูชาติ ชาญชัย และณรงค์ นิลเนตร!?? จนมาถึงรายของน.ส.สมปอง ที่มีภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้ทุกอย่างเฉลยออกมา เจ้าหน้าที่กองปราบปรามตามแกะรอยไปยังบ้านและสถานที่ต่างๆ ที่นายสมคิดเคยไปปรากฏตัวพร้อมตรวจหาทรัพย์สินของเหยื่อไปด้วย กระทั่งวันที่ 29 มิถุนายน 2548 ตำรวจพบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือของเหยื่อรายหนึ่ง ที่ถูกขโมยไปหลังโดนฆาตกรรม!?? โทรศัพท์ดังกล่าวโทร.ออกจากจ.ชัยภูมิ ทีมกองปราบฯ เดินทางไปทันทีและเจอนายสมคิด มากบดานอยู่ที่นี่จริงๆ
“เจ้าฆาตกรสารภาพว่าลงมือสังหารเหยื่อทั้งหมด แต่อ้างว่าทำไปเพราะบันดาลโทสะ เนื่องจากเมื่อร่วมหลับนอนแล้วผู้หญิงจะขอค่าตัวเพิ่ม” แต่ตำรวจไม่เชื่อในคำให้การนี้ เพราะจากหลักฐาน นายสมคิดน่าจะวางแผนไว้ตั้งแต่แรก ยิ่งเมื่อทำแล้วตำรวจจับไม่ได้ จึงย่ามใจก่อเหตุซ้ำอีกหลายครั้ง
หลังจากคดีแรกขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาล นายสมคิดขอกลับคำให้การขอปฏิเสธ อ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง เพราะเคยเป็นสายคดียาเสพติด แล้วตอนหลังเลิกเป็น!?? แต่พยานหลักฐานที่ปรากฏ ทำให้ศาลเชื่อถือการทำงานของอัยการและตำรวจมากกว่า จึงตัดสินจำคุกตลอดชีวิตไปถึง 2 คดี ยังเหลืออีก 3 คดีที่รอการพิจารณาอยู่ อย่างไรก็ตามหากดูเวลาของการพิจารณาคดีทั้งหมด บวกกับการต่อสู้จนครบ 3 ศาลน่าจะกินเวลาอีกยาวนาน ไม่นับว่าหากต้องโทษในเรือนจำอีก
หวังว่าฆาตกรต่อเนื่องรายนี้จะหมดโอกาสออกมาสัมผัสอิสรภาพอีก ตลอดชั่วชีวิตนี้!!!
ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก pakyok
Leave a Reply