“แม่ค้าขายปลาทู” กับ “พนักงานออฟฟิศ” วินาทีแรก… คุณเลือกเป็นแบบไหน!!!

“แม่ค้าขายปลาทู” กับ “พนักงานออฟฟิศ” วินาทีแรก… คุณเลือกเป็นแบบไหน!!!

1

เชื่อว่า หลายคนถ้าไม่ได้โกหกความรู้สึกตัวเอง ต่างก็คงอยากเป็นพนักงานออฟฟิศซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะดูจะเป็นงานที่สบายกว่า ลองอ่านประโยคข้างล่างดูว่า อ่านแล้วคุณอยากจะเปลี่ยนใจบ้างมั้ย???

แม่ค้าขายปลาทู : ใครเดินผ่านยิ้มเหม็นคาว ทั้งปลาทูทั้งคนขาย หาเกียรติหาศักดิ์ศรีทางสังคมไม่ค่อยได้ ขายปลาทูใครจะสนใจ!

แต่รู้มั้ย?? : ขายปลาทูเป็นเจ้าของกิจการ มีวันขายดีมีวันขายไม่ดีจะวันไหนก็ช่างยิ้มเหอะที่แน่ๆ มีวันร่ำรวยแน่นอน

พนักงานบริษัท : แต่งตัวสวยหอมตั้งแต่หัวจรดเท้า

รู้มั้ย??? สิ้นเดือนมาจ่ายค่าเครื่องสำอางที่เซ็นต์เค้าใว้เท่าไร?? ไหนจะค่าอีออน ยิ้มอีกเพียบ!

แม่ค้าขายปลาทูตื่นจากเตียงไปตลาดไปสั่งงานลูกน้อง

แต่พนักงานบริษัทที่แต่งตัวสวยๆตื่นออกจากบ้านไปรับคำสั่งคนอื่น!!

แม่ค้าขายปลาทูไปดาวน์รถกระบะ ใว้ส่งของให้ลูกค้าเกิดรายได้

แต่พนักงานคนสวยดาวน์รถเก๋งในฝันใว้ประดับฐานะทางสังคม

แม่ค้าขายปลาทูเอากำไรผ่อนรถกระบะ5ปีผ่านไปผ่อนรถหมด ได้ทั้งกำไรที่เป็นเงินกำไรที่เป็นรถ

แต่พนักงานคนสวย เอาเงินเดือนมาผ่อนรถ เงินเดือนมาจากค่าแรง+ot 5ปีผ่านไปได้รถเก่าๆ คันนึงกับเงินในบัญชีไม่กี่พันบาท

แม่ค้าขายปลาทู ลื่นล้มหัวแตกนอนโรงบาล กดโทรศัพท์สั่งงานลูกน้อง หัวแตกเงินยังเข้ากระเป๋า

พนักงานคนสวย ลื่นล้มเหมือนกัน นอนโรงบาลประกันสังคมจ่ายแต่!!ยิ้ม ค่าบัตรเครดิตค่าเครื่องสำอางที่ผ่อนไว้กูเจ็บกูก็ต้องจ่ายรายได้ เมื่อหยุดทำงานไม่ได้!!!

อ่านจบแล้ว คุณอยากเป็นแบบไหนคะ อยากเป็นแม่ค้าปลาทูเหม็นคาวปลา ทำงานงกๆ แต่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ หรืออยากเป็นพนักงานออฟฟิศกลิ่นหอมตลอดวัน แต่เป็นได้เพียงลูกจ้างคนอื่น และทำงานใช้หนี้ไปวันๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สังคม ก้มหน้า