“รากราคะ ” หรือ “ว่านดอกทอง” มีอยู่จริง!!! ไม่ใช่แค่ในตำนาน

“รากราคะ ” หรือ “ว่านดอกทอง” มีอยู่จริง!!! ไม่ใช่แค่ในตำนาน

0

เชื่อว่า หลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของ “รากราคะ” กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนคงเคยได้ยินมาจากละครหลังข่าว และอาจเคยสงสัยว่าว่านดอกทอง หรือรากราคะ นี้ มีดียังไงกันแน่ ทำไมชื่อถึงได้น่าสนใจขนาดนี้

“รากราคะ” หรือ “ว่านรากราคะ” หรือ “ว่านดอก/ทอง” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma spp. เป็นพืชอยู่ในตระกูลเดียวกับขิง ถือเป็นว่านโบราณหายาก และใกล้จะสูญพันธุ์

ถ้าเป็นตัวเมียจะเรียกอีกอย่างว่า ดินสอฤาษี ลักษณะต้นและใบจะไม่มีสีแดงเจือปน เมื่อหักหัวออกจะมีกลิ่นคาวจัดคล้ายอสุจิของมนุษย์ ทั้งยังมีกลิ่นรุนแรงมาก เนื้อในหัวมีสีขาว ดอกมีสีขาว เกสรสีเหลือง นอกจากนี้ ยังมีดอกทองกระเจา ที่มีดอกเป็นรูปกรวย และมีกลิ่นคาวเช่นกัน แต่ไม่เท่าดินสอฤาษี

ดอกจะออกในช่วงฤดูร้อนต่อเนื่องจนถึงฤดูฝน คล้ายดอกกระเจียว แต่ไม่มีก้านดอก อยู่ติดกับพื้นดิน โดยแทงดอกขึ้นจากเหง้าหลักที่อยู่ใต้ดินก่อนการงอกของใบ

ในประเทศไทยสามารถพบ “รากราคะ” ได้ที่ภาคตะวันตก และภาคเหนือ เช่น ในจังหวัดกาญจนบุรี ตาก และลำปาง

1

ลักษณะของรากราคะ

“รากราคะ” จะมีลำต้นใต้ ดินเป็นเหง้ากลม แตกแง่งเป็นไหลเล็กยาว 5 – 10 นิ้ว รากเป็นเส้นใหญ่สีน้ำตาล ไม่แตกรากฝอย ลำต้นประกอบด้วยกาบของก้านใบหลายกาบซ้อนกัน ถ้าเป็นตัวผู้ เนื้อในหัวจะมีสีเหลือง ส่วนตัวเมียจะเรียกอีกอย่างว่า “ดินสอฤาษี” ลักษณะต้นและใบจะไม่มีสีแดงเจือปน เมื่อหักหัวออกจะมีเนื้อสีขาว มีกลิ่นคาวจัดคล้ายอสุจิของคน

ใบของ “รากราคะ” เป็นรูปหอกสีเขียวมีขนาดเล็ก เส้นกลางใบมีสีแดง ทั้งต้นสูงประมาณ 1 ฟุต  ดอกของ “รากราคะ” จะออกในช่วงฤดูร้อนต่อเนื่องฤดูฝน ลักษณะคล้ายดอกกระเจียว มีสีขาวอมเหลือง แต่ไม่มีก้านดอก อยู่ติดกับพื้นดิน โดยแทงดอกขึ้นจากเหง้าหลักที่อยู่ใต้ดินก่อนการงอกของใบ

สรรพคุณของรากราคะ

ตามตำราโบราณ บอกเอาไว้ว่า “รากราคะ” เป็นว่านที่ทำให้เกิดพลังทางเพศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะผู้หญิง ถ้านำหัว ใบ หรือต้นรากราคะ ใส่โอ่งน้ำหรือบ่อน้ำ และทานเข้าไปจะมีความรู้สึกทางเพศรุนแรงมาก หรือเพียงแค่ปลูกไว้แล้วได้กลิ่นดอกโชยมา ก็ชวนให้หลงใหลในโลกีย์ได้แล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการเด็ดดอกของ “รากราคะ” ออกเสีย

ในสมัยโบราณ ชายหนุ่มมักจะเสาะแสวงหา “รากราคะ” มาเก็บสะสมไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้ทาตัว หรือบดรวมกับสีผึ้งไว้ทาปากในเวลาที่จะไปพบหญิงสาว เพราะเชื่อกันว่า หากหญิงใดได้กลิ่น หรือต่อคารมด้วยจะใจอ่อนคล้อยตามได้ง่าย แต่จะนิยมเก็บ “รากราคะ” ก่อนที่ดอกจะบาน

2

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อที่ว่า “รากราคะ” สามารถสร้างเมตตามหานิยมได้ด้วย หากปลูกไว้ที่บ้าน จะเป็นศิริมงคลแก่บ้านเรือน ใครเห็นใครก็รัก หากปลูกไว้ที่ร้านค้า ก็จะทำให้มีลูกค้ามาอุดหนุนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำมาหากินคล่อง

เชื่อหรือไม่ก็ใช้วิจารณญาณของแต่ละคน ถ้าทำตัวไม่น่ารัก ทำตัวไม่ดี ต่อให้ใช้ยอดของรากราคะ ก็คงไม่สามารถทำให้สาวที่ตนรักหันมารักกลับได้ แต่อาจจะได้สาวประเภทอื่นแทนก็เป็นได้ ทั้งนี้และทั้งนั้น ควรใช้สติ และปัญญาก่อนตัดสินใจเชื่อเรื่องใด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก frynn และขอขอบคุณเครดิตภาพจาก dooqo