ประมวลภาพสุดระทึก… ระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ในจีน สังเวยชีวิตไปแล้ว 112 ศพ!!!
เกิดเหตุการณ์สุดสลดกับประเทศจีน ที่ทำให้คนทั้งโลกตกตะลึง เมื่อเกิดระเบิดครั้งรุนแรงขึ้นที่คลังสินค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมเทียนจินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และทำให้มีเปลวไฟพุ่ง รวมไปถึงสารเคมีพิษ เช่น โซเดียมไซยาไนด์ กระจายฟุ้ง จนกระทั่งต้องสั่งกั้นรัศมีโดยรอบ 3 กม. จากจุดระเบิดเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า
ล่าสุดทางการจีนประกาศ ตัวเลขผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้เพิ่มขึ้นจาก 85 คน ไปอยู่ที่ 112 คน สูญหาย 95 คน ในขณะที่มีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ 721 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 33 คน และมีการพบผู้รอดชีวิตวัย 50 ปีห่างจากจุดระเบิดไปราว 50 ม. ในขณะที่ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้มีแถลงการณ์ออกมา เรียกร้องให้มีการปรับปรุงความปลอดภัยในที่ทำงานเพิ่มมากขึ้น
ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุระเบิดนิคมอุตสาหกรรมเทียนจินซึ่งเกิดขึ้นในวันพุธที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา และทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องจำเหตุการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียน
โดยทางการสามารถระบุร่างผู้เสียชีวิตไปแล้ว 24 ศพ และยังมี 88 ศพที่ต้องรอการพิสูจน์” กองกล่าวต่อ และยังพบว่ามีตัวเลขผู้สูญหายอีก 95 คน
เอเอฟพี ชี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนประสบความยากลำบากในการระบุถึงชิ้นส่วนที่พบในที่เกิดเหตุ ก่อให้ความสับสนและกังวลขึ้นในหมู่ประชาชนชาวเทียนจิน
สำนักข่าวซินหัว สื่อจีนรายงานเพิ่มเติมว่า ทางการจีนได้สั่งอพยพชาวบ้านที่แต่เดิมใช้โรงเรียนใกล้กับจุดเกิดเหตุเป็นศูนย์อพยพชั่วคราวให้ออกไป หลังจากนั้น กระแสลมได้เปลี่ยนทิศทาง และเกรงว่าจะทำให้สารเคมีพิษฟุ้งกระจายเข้ามายังบริเวณแผ่นดินใหญ่ แต่ยังไม่แน่ชัดในเบื้องต้นว่ามีจำนวนผู้ต้องอพยพออไปจำนวนเท่าใด
รอยเตอร์รายงานว่า การสั่งอพยพรอบใหม่เกิดขึ้นหลังจากมีเปลวไฟปะทุเกิดขึ้นในจุดที่เกิดเพลิงไหม้ในคลังสินค้า ซึ่งเป็นคลังสินค้าที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บสารเคมีอันตรายต่าง ๆ
นอกจากนี้ ชาวบ้านที่ต้องถูกสั่งให้เคลื่อนย้ายออกไปได้รับคำแนะนำจากทางการจีนให้สวมกางเกงขายาว และหน้ากากป้องกัน เพราะเป็นการอพยพที่เป็นไปอย่างเคร่งครัด อ้างอิงจากการรายงานไมโครบล็อกอย่างเป็นทางการของสำนักงานสุขภาพและการวางแผนครอบครัวในเทียนจิน และถนนในเทียนจิน
แต่ทว่าความสับสนอลหม่านยังคงเกิดขึ้นเนื่องจากครอบครัวของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจีนที่สูญหายในระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ต้องการคำตอบ ในขณะบรรดาเจ้าหน้าที่ต่างพยายามกันให้ช่างภาพนักข่าวออกไป เพื่อความสะดวกในการทำงาน และความปลอดภัยสำหรับนักข่าวอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูล และรูปภาพจาก รอยเตอร์/เอเอฟพี และ ASTVผู้จัดการออนไลน์
ขอขอบคุณรูปภาพจาก imgur
Leave a Reply