ถึงจะออกกำลังกายไปกินขนมไป น้ำหนักเราก็ลดไป 17 โลนะ ไม่ได้เป็นหมูที่แข็งแรงซะหน่อย!
สาวๆ หนุ่มๆ ที่เคยผ่านการลดน้ำหนักมาก่อน คงทราบดีว่า การลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หรือในเกณฑ์ที่เราต้องการนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เลย หรือจะเรียกว่า สุดทรมาน! ก็คงไม่ผิดนัก
แต่สาวคนนี้ เขาบอกว่า เขาลดน้ำหนักไปด้วย กินขนม กินไอศกรีมไปด้วย สบายๆ ไม่เครียด แต่เขาก็ลดได้
เขามีวิธีการอย่างไร เชิญอ่านได้เลยค่ะ
ใครว่าออกกำลังไปด้วย กินขนม และใช้ชีวิตไปด้วย จะทำให้ผอมไม่ได้ เจ้าของกระทู้พันทิปท่านนี้ มีวิธีลดความอ้วนแบบสนุก และสบายใจมาฝากค่ะ
สวัสดีค่ะ : )
เมื่อ หลายวันก่อนเราเห็น quote นึงกระจายอยู่เต็มหน้าเฟซบุ๊คไปหมด เป็น quote ที่พูดว่าตราบใดที่เธอลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย แต่ยังกินเหมือนเดิม เธอก็คือหมูที่แข็งแรง
มันแรงม๊ากกกกกกก!
รู้สึกว่าน้ำหนัก 17 กิโลที่ลดลงไปของเราถูกหมิ่นเกียรติอย่างรุนแรง! เราต้องกู้ศักดิ์ศรีของมันคืน!
ก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้นี่แหละค่ะ
//งานสร้างกำลังใจ สาระไม่ค่อยมี
เจ้าของกระทู้ตอนนี้อายุกำลังจะ 30 ในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว
สูง 165 cm น้ำหนักปัจจุบัน 61 kg สัดส่วน 34-28-37 ค่ะ เอวยังหนาอยู่มาก ยังต้องลดอีกรัวๆ
แต่เมื่อก่อนก่อนที่จะลดน้ำหนักเคยหนักถึง 77-78 kg สัดส่วนเมื่อก่อน 37-31-41 เรียกว่าอ้วนมาก ทำไมถึงอ้วนได้ขนาดนั้น! รูปทางซ้ายนี่ค่ะ อ้วนมาก (เมื่อก่อนไม่แต่งหน้าด้วย พังค่ะพัง ><)
จริงๆเราก็เป็นคนจ้ำม่ำตั้งแต่เด็กนะ ไม่เคยผอมเลย มีแต่อวบ อวบมาก อวบระยะสุดท้าย จนกลายเป็นอ้วนอย่างที่บอกนั่นแหละค่ะ เราไม่ได้อ้วนกรรมพันธุ์ ไม่ได้กินเก่ง คือกินปกติแหละ แต่ไม่เลือกกิน ชอบกินขนม ชอบกินน้ำอัดลมมาก แล้วก็เป็นคนชอบอยู่เฉยๆค่ะ ไม่ active ไม่ออกกำลังกาย แถมยังโยโย่เพราะเคยลดน้ำหนักผิดวิธีด้วย
คือสารพัดปัจจัยที่จะอ้วนรวมอยู่ที่เราหมดเลย
เรามาเริ่มออกกำลังกายด้วยการเข้าฟิตเนสเมื่อเดือนธันวา 2556 ค่ะ ถึงวันนี้ก็ประมาณปีครึ่ง สารภาพว่าตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะลดน้ำหนักหรอก เราเล่นเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองอ่อนแอมาก เราเป็นไมเกรนค่ะ เคยเป็นหนักมาก หมอบางท่านบอกเส้นประสาทอักเสบด้วย มีอาการคล้าย office syndrome ด้วย คือปวดหมดตั้งแต่หัวถึงเอว ถ้าเริ่มปวดที่ไหนซักที่ จะหัว สะบัก หรือเอว มันจะลามไปปวดหมดเลย แล้วก็รู้สึกใจสั่นๆ แต่ด้วยความที่เป็นคนกลัวหมอก็เลย เอาวะ! ขอลองออกกำลังกายก่อน ถ้าไม่ดีค่อยไปหาหมอละกัน
พอเริ่มเล่น งานลดน้ำหนักก็ตามมาค่ะ
เราเล่นแบบมี personal trainer ตั้งแต่แรก เพราะเราไม่สบายอย่างที่บอก ก็เลยคิดว่าถ้ามีคนช่วยดูก็น่าจะดีกว่า ปลอดภัยกว่าค่ะ จริงๆเราอะอยากเล่นให้แค่ร่างกายแข็งแรง แต่ PT เราบอกว่าไอ้แข็งแรงน่ะมันแข็งแรงขึ้นอยู่แล้ว ก็ลดน้ำหนักไปด้วยเลยแล้วกัน
อะ เอาก็เอา แต่ก็ไม่คิดหรอกนะว่าจะลดได้ 555
การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก แน่นอนว่าต้องเน้น cardio อยู่แล้วค่ะ แรกๆที่เล่นเราจะเบิร์นครึ่งชั่วโมง ต่อด้วยทำ PT 1 ชั่วโมง แล้วก็มาเบิร์นต่ออีกครึ่งชั่วโมง เท่านี้ก็จะตายแล้วค่ะ! เล่นไปเล่นมาก็ค่อยๆเพิ่มความหนัก เพิ่มระยะเวลามากขึ้น ทุกวันนี้เราเล่นวันละประมาณ 3-4 ชั่วโมง เป็นเบิร์น 2 ชั่วโมง ทำ PT 1 ชั่วโมง (เป็น functional training + weight training ค่ะ ขออนุญาตไม่เขียนรายละเอียดนะคะ เดี๋ยวจะยาวไปอีก แต่หลังไมค์มาถามได้ค่ะ) อาจจะเข้าคลาสอะไรอีกซักชั่วโมงนึง บางวันอยากจะฟิตก็อาจจะสอง (หนึ่งในสองจะเป็นโยคะ) สัปดาห์นึงเล่น 3-4 วัน
หลายคนบอกเราเล่นหนัก … ค่ะ หนักค่ะ เราเล่นให้หนักให้เยอะเพื่อชดเชยกับการแทบจะไม่ควบคุมอาหารเลยของตัวเอง
นอกจากมื้อเย็นที่เรามักกินสลัด(แต่ก็ยังน้ำข้นบ้างอยู่ดี) กับการพยายามกินกับเยอะๆกินข้าวน้อยๆ เราลดน้ำหนักมาได้ 17 กิโลโดยที่ยังกินน้ำอัดลม เค้ก มาการอง หมูทอด พิซซ่า และกับข้าวฝีมือยายที่อร่อยที่สุดในสามโลก คือกินอย่างที่อยากกินอยู่ค่ะ แต่ไม่ได้กินเยอะ เราเป็นคนไม่ได้กินเยอะอยู่แล้ว แต่ชอบกินอะไรที่มันอ้วนนะค่ะ ไม่ค่อยเลือกกิน ไม่เคยนับแคลอรี่ (เรามีเพื่อนสาวที่กินน้อย เลือกกินแต่ผัก ไม่กินของทอดของมัน ดูเป็นวิถีสาวสวยมากเลย แล้วเราก็มีเพื่อนที่นับแคล ชั่งน้ำหนักอาหาร ดูแลโภชนาการดีมาก พอเทียบกับสองนางนี้แล้วคือเราดูเป็นคนกินไม่เลือกไปเลย ><)
ใช่ค่ะ การออกกำลังกายและควบคุมอาหารเป็นสุดยอดสูตรลดน้ำหนักที่ถูกต้อง ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว ถ้าทำได้ก็ควรอย่างมากที่จะทำค่ะ (เราก็อยากทำ จะพยายามค่ะ) แต่สิ่งที่เราอยากจะบอกคือถ้าคุณยังอยากกิน ยังมีความสุขกับการกิน การไม่ควบคุมอาหารไม่ได้แปลว่าคุณจะลดน้ำหนักไม่ได้
ตราบใดที่คุณออกกำลังกายมากพอ
คุณแค่ต้องทำมากกว่าคนที่เค้าควบคุมอาหารแค่นั้นเอง
(เราถ่ายรูปเหมือนๆกันทุกๆ 1 เดือนเอาไว้เทียบตัวเองค่ะ)
คิดง่ายๆ กินไปร้อย เอาออกไปศูนย์ มันก็เหลือร้อย แต่กินไปร้อย เอาออกไปบ้าง ยังไงมันก็น้อยลง จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับที่คุณเอาออกนั่นแหละ กินได้ค่ะแล้วไปเอาออกด้วย
อยากให้กำลังใจ อยากโยนข้ออ้างของทุกคนทิ้ง อยากชวนมาออกกำลังกายกัน นี่อาการป่วยเราก็ดีขึ้นมากนะ ไมเกรนไม่หายหรอกค่ะ แต่มันจำกัดวงเหลือปวดแค่ที่หัวแล้ว
ขนาดเราที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะทำได้ ยังทำได้ (และยังทำต่อ) คุณก็ต้องทำได้สิ!
มาออกกำลังกายกันนะคะ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ โมโนว เจ้าของกระทู้ Pantip.com
Leave a Reply