ตะลึง! ง่ายไปป่าว… เพียง 3 เดือน จาก “หนุ่มอ้วน” กลายเป็น “หนุ่มหล่อ” ได้ไง
คงต้องยอมรับกันว่า มีน้อยคนนักที่อยากจะเป็น “ทหาร” หรือตั้งใจจะรับใช้ชาติ เพราะชีวิตของชายชาติทหารนั้น แสนลำบาก ทั้งยังต้องพลีชีพเพื่อชาติอีก เรียกว่า ถ้าไม่ใช่คนใจเด็ดเดี่ยวจริง ๆ ก็คงเป็น “เหล่าทหารหาญ” ไม่ได้แน่ ๆ
แต่หนุ่มคนนี้ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากเป็นทหารหรอกค่ะ ในวันนั้นเขาเผอิญจับได้ใบแดง แต่แทนที่จะ “ทุกข์ใจ” เขากลับ “สุข” ไปตลอดชีวิต ติดตามอ่านกันได้เล้ย…
สวัสดีครับนี่ก็เป็นกระทู้แรกของผม ผมจะมาเล่าถึงชีวิตหลังจากโดนใบแดง ทหารบก ว่ามันจะเป็นยังไงกับชีวิตผมบ้าง และผมจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนเปลี่ยนไปในด้านไหนบ้าง แต่จะเล่าแบบย่อๆนะครับตะตัดรายละเอียดยิ๊บย่อยออกไป เพราะเล่าหมดก็คงไม่ไหว 555555
เอาหละครับงั้นมาดู หน้าตาของผมกันก่อนเลยย
ผมบอกก่อนเลยว่าผมเป็นเด็กอ้วนน้ำหนัก 105 ที่น่ารักมากๆคนนึง 555555
เป็นไงละครับน่ารักแบบที่บอกไปมั้ยละ หืมม 55
ตอนนั้นเป็นวันแรกที่จะเข้ามาในค่ายทหาร แต่เดี๋ยวก่อนนะครับพอเห็นรูปไม่ใช่ปิดกระทู้หนีรอดูก่อนฮะมันมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอนครับ
จริง ๆ ก็กลัวว่าเข้าไปแล้วเราจะเจออะไรบ้างจะอยู่ยังไงจะเป็นยังไงอีกอย่างเราก็อ้วนมาก ๆ ด้วยไม่เคยออกกำลังกายหนัก ไม่เคยวิ่งหนัก และก็เป็นโรค หอบ ด้วย!! แต่ก็ทำไงได้โดนแล้วมันก็ต้องอยู่ให้ได้ละวะ งั้นไปดูรูปต่อไปกันเลยครับ
รูปนี้คือผมได้เข้าไปผึกแล้ว 7 วันนั่นๆเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงละฮะ ดูนะครับ
ถ้าจะถามว่าอายมั้ยอายซิครับโคตรอายเพราะผมเผ็นคนที่อ้วนอันดับที่สองของเพื่อนๆทั้งหมดที่มาเลยผมไม่มีชุดจะใส่ถึงจะ XL แล้วมันก้ยังใส่ไม่ได้ มันโคตรแน่นเลยมันคือความอายที่อยู่ในใจจริงๆ แต่!! นั่นไงเห็นมั้ย 555555555555 น้ำหนักผมลดลงมาแล้ว จาก 105 เหลือ 100 พอดี แต่เอาจิงๆมันก้ดูไม่ออกหรอกครับว่ามันเปลี่ยนไปตัว อยั่งกับหมีควาย!! นั่น 555
วิธีที่ทำให้ผมลดลงมาได้ขนาดนี้ในเวลาแค่ 7 วันนั้นอาจเป็นเพราะ ทางค่ายได้ทำการฝึกทุกวันเดินทั้งวัน เริ่มมีการวิ่งรอบกองพันเข้ามาแล้ว วันละรอบถึงสองรอบ และก็เวลากินข้าวเค้าจะให้คนน้ำหนักเกิน 80 แยกกินครับ คือห้ามเติมข้าวกินได้แค่มื้อละ 1 จานไม่ว่าจะอิ่มหรือไม่อิ่มคือต้องอิ่มแล้วหละ แล้วก็ต้อง ซิทอัพก่อนดินข้าวทุกครั้งครั้งละ 50 ที่ทุกมื้อครับ!! ละก็ทำแบนี้ทึกวันเริ่มมีการฝึกที่หนักขึ้นอัพเลเวลทุกๆวันที่ฝึก เช่นการวิ่งก็อัพขึ้น จากวิ่งเช้าบ้างเย็นบ้างที่นี้วิ่งทั้งเช้าทั้งเย็นเลยครับ เริ่มจากครั้งละ 1 รอบ ไปจนมากสุดคือ 5 รอบ แต่ผมวิ่งไม่ค่อยครบหรอกครับเพราะอ้วนขารับน้ำหนักไม่ได้ปวดหัวเข่าแต่ก็จะพยามกัดฟันวิ่งให้ได้มากที่สุด เพราะครูฝึกบอกว่าให้ฝึกแล้วร่างกายจะชินเอง ทำไปเรื่อยๆ ละนอกเหนือจากการฝึกก็จะมีการเข้าป่า เกือบเดือน สวนสนามก่อนกลับบ้าน ระยะเวลาทั้งหมดที่ฝึกก็ราวๆ 3 เดือนละในที่สุดชีวิตและร่างกายผมก็เปลี่ยนไปแล้วฮะๆๆๆๆ พร้อมจะดูมั้ยครับ เอางี้ละกันไม่พูดมากละไปดูกันเลยครับ
เปลี่ยนมั้ยละครับ ตอนนี้น้ำหนักผมลดลงมาเหลือ 68 แล้วครับผม 5555555555 ผมว่ามันน่าตกใจนะ มันลดลงเยอะมาก อันนั้นรูปตอนเข้าป่าครับ รูปต่อไปก็จะให้ดูว่าผม ผอมลงแล้วจริง ๆ
อันนี้ตอนกลับมาบ้านครับ ทุกคนที่บ้านตกใจ คนแถวบ้านก็แอบถามยายว่าผมไปทำอะไรมาจำไม่ได้เลย 5555555
โอเคครับละนั่นก็คือผมทั้งหมด ที่ผมมาเล่าทั้งหมดให้ฟังครั้งนี้ก็เพียงเพราะว่า อยากให้รู้ว่าการมาเป็นทหารมันได้สิ่งดีๆในหลาย ๆ อย่างอย่าไปคิดเองเออเองว่ามันจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้อย่ากลัวหากยังไม่เคยลอง ได้ทั้ง วินัย เพื่อน ได้ความคิดใหม่ ๆ สังคมแบบใหม่ ได้ลองสิ่งที่ไม่เคยทำ ละสุดท้ายเลย ได้ชีวิตใหม่!!
สุดท้ายนี้ก็ ผมหวังว่าหากคนที่กำลังคิดจะลดความอ้วนและไม่มีกำลังใจผมหวังว่าคุณจะมีกำลังใจขึ้นเยอะจากกระทู้ของผมไม่มากก็น้อยหละ สู้ ๆ ครับ มันยากแต่ถ้าทำได้มันก็ดีกับตัวเองในทุก ๆ ด้านอยู่แล้ว ละนี่ก็คือรูปผม ปัจจุบันครับ
จริง ๆ ผมก็ไม่ได้ว่าผอมเลยทีเดียวมันเริ่มมีขึ้นมาบ้างละ แต่ก็ตั้งเป้าไว้ที่ 60 ครับยังไงก็ต้องทำให้ได้ เพราะตอนนี้มัน 68 อีกแค่ 8 โล จิ๊บๆ
เรื่องของผมมันก็ไม่ได้มีอะไรมาก มันก็อาจจะเป็นที่ว่า แค่คนเคยอ้วนคนนึง ละก็ผอมเพราะมาทหารแต่ก็นั่นหละครับ ผมแค่อยากให้ทุกคนรู้ไว้ว่าการโดนใบแดงมารับใช้ชาติมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย มันมีแต่ได้กับได้มันอยู่ที่ใจเราคิดมากกว่า มันไม่มีอะไรยากเกินใจ อย่ากลัวสิ่งที่ยังไม่เกิด
#ก็แค่อยากลองให้คนอ้วนๆมาสมัครทหารดู ถือว่าเข้าครอสลดความอ้วนไปในตัวฮะ 5555 :3
ไม่แน่ว่า อาชีพทหาร อาจกลายเป็นอาชีพ “ในฝัน” ของใครหลายคนไปซะแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เจ้าของกระทู้สมาชิกหมายเลข 2477234 และ Pantip.com
Leave a Reply