ทำไม อิตาลี กว่าจะรู้ก็สาย กลายเป็นประเทศ โควิด-19 ระบาดหนักสุดในยุโรป

ทำไม อิตาลี กว่าจะรู้ก็สาย กลายเป็นประเทศ โควิด-19 ระบาดหนักสุดในยุโรป

ชาวอิตาลีต้องตื่นตระหนก ที่กลายเป็นประเทศในยุโรป พบผู้เสียชีวิตและติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 มากที่สุด นอกเหนือจากจีน โดยจนถึงบ่ายวันที่ 12 มี.ค.63 พบผู้ติดเชื้อทั้ง 20 แคว้นในอิตาลีมากถึง 12,462 คนและเสียชีวิตอยู่ที่ 827 รายแล้ว

ชาวอิตาลีต้องตื่นตระหนก ที่กลายเป็นประเทศในยุโรป พบผู้เสียชีวิตและติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 มากที่สุด นอกเหนือจากจีน โดยจนถึงบ่ายวันที่ 12 มี.ค.63 พบผู้ติดเชื้อทั้ง 20 แคว้นในอิตาลีมากถึง 12,462 คนและเสียชีวิตอยู่ที่ 827 รายแล้ว

นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต แห่งอิตาลีได้ประกาศใช้ ‘กฎเหล็ก’ ตั้งแต่ค่ำวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ขยายมาตรการกักกันคนทั่วประเทศถึงราว 60 ล้านคน ไม่ให้ออกนอกบ้านถ้าไม่มีเหตุจำเป็นฉุกเฉินจริงๆ ซึ่งแน่นอนว่า รัฐบาลอิตาลี ไม่เคยทำมาก่อน

ทำไม อิตาลี จึงกลายเป็นประเทศที่เผชิญการระบาดของโควิด-19 หนักหนาสาหัสที่สุดในยุโรป และเลวร้ายที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน

ตามรายงานของเว็บไซต์ itv ระบุว่า อิตาลียืนยันมีผู้ป่วยชายวัย 38 ติดเชื้อโควิด-19 คนแรก ในเมืองโคโดญโญ (Codogno) แคว้นลอมบาร์เดีย ทางภาคเหนือของอิตาลี เมื่อ 21 ก.พ. 63 ซึ่งเขาไม่เคยมีประวัติไปจีนมาก่อน

ทว่ากว่าจะมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรกนั้น เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แพร่กระจายติดต่อไปยังบรรดาแพทย์ พยาบาลและผู้ป่วยหลายคนในโรงพยาบาลที่ชายคนนี้ไปรักษาเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ 3 วันก่อนหน้า นับตั้งแต่ชายคนนี้เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการป่วยคล้ายไข้หวัด ก่อนผลการตรวจวินิจฉัยจะออกมาว่าเขาติดเชื้อโควิด-19

ตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดว่า เชื้อไวรัสโคโรนา อาจแพร่ระบาดทางภาคเหนืออิตาลี ตั้งแต่ช่วงราววันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมาแล้ว

รอยเตอร์ รายงาน เมื่อ 12 มี.ค.63 ทีมนักวิทยาศาสตร์ในมิลาน เชื่อว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาในอิตาลี อาจมาทางเยอรมนี ไม่ได้มาจากจีนโดยตรง ตามที่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากสันนิษฐานกันในตอนแรก ตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์อิตาลี กำลังตามหา ‘ผู้ป่วย รายที่ 0’ กันอยู่ หลังจากพบชายหนุ่มวัย 38 ติดเชื้อเป็นรายแรกที่เมืองโคโดญโญ แคว้นลอมบาร์เดีย ทว่า ยังไม่รู้ว่าเขาติดเชื้อมาจากใคร

หลังจากการวิเคราะห์อย่างเข้มข้น ทีมนักวิทยาศาสตร์ในมิลาน ยังไม่ได้ระบุถึงต้นตอที่มาที่ทำให้อิตาลีกลายเป็นประเทศที่พบการระบาดเลวร้ายสุดในยุโรป เพียงแต่พบว่า เชื้อไวรัสโคโรนาที่พบในอิตาลีมีพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิด-19 ที่โผล่ในเยอรมนี เมื่อ ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ป่วยติดเชื้อในเยอรมนีนี้ ได้ติดไวรัสโควิด-19 จากใครบางคนที่มาจากเซี่ยงไฮ้

นายมัสซิโม กัลลี หัวหน้ากลุ่มนักวิจัยของมหาวิทยาลัยในมิลาน และหัวหน้าหน่วยโรคติดต่อของโรงพยาบาล Sacco ในมิลาน ยังระบุว่า ผลการวิเคราะห์ แสดงให้เห็นถึงการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอิตาลี ต้องเริ่มต้นขึ้นในช่วงตั้งแต่ 25-26 มกราคม ที่ผ่านมาแล้ว ก่อนจะพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายแรกในอิตาลี เมื่อ 21 ก.พ.63

ความตื่นตระหนกของชาวอิตาลี ไม่ได้ลดน้อยลง แต่กลับทวีมากยิ่งขึ้น หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศไม่ได้ลดลง ถึงแม้รัฐบาลได้ประกาศปิดเมือง กักกันประชาชน 60 ล้านคนทั้งประเทศแล้วก็ตาม เนื่องจากได้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งพรวดแบบก้าวกระโดด ถึง 31% ในช่วง 24 ชั่วโมง จนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอิตาลีเพิ่มเป็น 12,462 คน

จนรัฐบาลอิตาลีต้องออกมาตรการเพิ่มเติม สั่งปิดร้านค้าทั้งหมด บาร์ และร้านอาหารภัตตาคารทุกแห่งทั่วประเทศ ยกเว้นแต่เพียง ร้านขายยา ร้านขายผักผลไม้เนื้อสัตว์ทำอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. จนถึงวันที่ 25 มี.ค. ส่วนแคนทีน หรือห้องอาหารในบริษัทต่างๆ สามารถเปิดขายได้ ถ้าสามารถรับประกันว่าลูกค้าแต่ละคน ต้องอยู่ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร

อย่างไรก็ตาม ภายใต้มาตรการล่าสุดควบคุมโรคโควิด-19 ระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟและรถโดยสารจะยังคงให้บริการตามปกติ เช่นเดียวกันการให้บริการที่มีความจำเป็น อย่างเช่น ช่างประปา ช่างเครื่อง และสถานีบริการน้ำมัน

ขณะนี้ อัตราของผู้ป่วยจากโรคปอดอักเสบติดเชื้อโควิด-19 ในอิตาลี อยู่ที่ 6.6% ซึ่งเป็นอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่สูงกว่าผู้เสียชีวิตประเทศอื่นๆ ซึ่งอยู่ที่ 2-3% จากจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ในอิตาลีสูงกว่าประเทศอื่นๆ อาจเป็นเพราะอิตาลี เป็นประเทศที่มีผู้สูงวัย ซึ่งอายุเกิน 65 ปี มากที่สุดในยุโรป เพราะคิดเป็นสัดส่วนถึง 23% ของประชากรในประเทศ

นายเทดรอส อันฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศการระบาดของโควิด-12 เป็นการระบาดทั่วโลกแล้วเมื่อ 11 มี.ค.จากจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 126,344 นคน ใน 118 ประเทศทั่วโลกและเขตบริหารพิเศษ และมีผู้เสียชีวิต 4,640 ราย

ผอ.องค์การอนามัยโลก ชี้ว่า ขณะนี้ อิตาลี และอิหร่าน เป็นสองประเทศแนวหน้าที่เผชิญการระบาดของโควิด-19 หนักที่สุด และกำลังได้รับผลกระทบมีผู้ป่วยติดเชื้อจากโควิด-19 มากที่สุด ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็จะมาถึงสถานการณ์เช่นนี้ภายในเร็วๆ นี้

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯได้ประกาศห้ามการเดินทางจากยุโรป ยกเว้นอังกฤษ มายังสหรัฐฯเป็นเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.63 เพื่อสกัดกั้นการระบาดของโควิด-19.

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : ไทยรัฐ