เบื้องหลังตำรวจเมา!! ถูกถ่ายคลิป กลับมีความจริงที่ทำให้น้ำตาซึม…
คนเราทุกคน ก่อนที่จะแสดงพฤติกรรมออกมา ย่อมเกิดจากความคิดก่อน ซึ่งแต่ละความคิดนั้น ก็ย่อมมีความรู้สึกผิด ชอบ ชั่ว และดีเข้ามาปะปน
ในคราบของตำรวจจราจร ที่ดูเหมือนว่า เมาแอ๋! นั้น ใครจะรู้ว่า เบื้องหลังของเขากลับมีความจริงบางอย่างที่อาจทำให้เราน้ำตาซึมได้โดยไม่รู้ตัว
หลังจากที่โลกโซเชี่ยลได้นำเสนอตำรวจเมาในขณะปฏิบัติหน้าที่ไปเมื่อหลายวันก่อนนั้น วันนี้กลับกลายเป็นอุทธาหรณ์สอนใจอีกครั้ง กับกรณีของ ด.ต.จักรวาล วงศ์ชัย อายุ 51 ปี ผบ.หมู่งาน (จร.) สน.วังทองหลาง พูดจาโต้ตอบกับเจ้าของรถยนต์คันหนึ่งที่ทำผิดกฏจราจรและเป็นผู้ถ่ายคลิปไว้ โดยระหว่างการพูดคุย ด.ต.นายดังกล่าว มีสีหน้าและน้ำเสียงอ้อแอ้คล้ายมึนเมาตลอดเวลา
ล่าสุดบนโลกโซเชี่ยลได้มีการแชร์ว่า ความจริงแล้ว ปกติ ด.ต.จักรวาล มีบุคลิกคล้ายคนเมาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าหรือคำพูด ทั้งที่ไม่ได้ดื่มแอลกอออล์ คนที่ไม่คุ้นเคยก็จะคิดว่าเมามายมาแน่ แต่จริงๆแล้วเป็นคนตลกและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน เนื่องจากต้องดูแลลูกถึง 3 คน แถมคนสุดท้องยังป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอีก
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพักในแฟลตตำรวจ ทำให้พบ นางศิริอร วงศ์ชัย อายุ 33 ปี ภรรยากำลังดูแลลูกสาวที่มีอาการป่วยทางสมองอยู่ ก่อนที่ภรรยาจะเผยความจริงที่แสนรันทดทั้งน้ำตาว่า อยู่กินกับ ด.ต.จักวาล มานานกว่า 17 ปี และมีบุตรด้วยกัน 3 คน คนโตอายุ 14 ปี คนกลางอายุ 10 ปี และคนเล็ก อายุ 5 ปี โดยคนเล็กนั้นป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องให้อาหารทางช่องท้องทุกมื้อ ก่อนหน้านี้สามีไม่เคยแตะต้องแอลกอฮอล์เลย
นางศิริอร เผยอีกว่า แต่พอลูกคนเล็กคลอดออกมาแล้วไม่ปกติ จึงเกิดความเครียดมาก จากนั้นก็หันไปดื่มสุราแก้ความเครียด ประกอบกับฐานะครอบครัวไม่ค่อยจะดีนัก ผู้บังคับบัญชาต้องช่วยเหลือเป็นระยะ เช่น ให้ย้ายมาอยู่ที่นี่เพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่ก็ยังไม่พอ เพราะลูกสาวต้องไปพบหมอทุกเดือน ตนก้ต้องลาออกจากงานมาดูแลลูก สามีจึงต้องทำงานเพียงลำพัง
“ที่เห็นสามีคล้ายคนเมานั้น เจ้าตัวป่วยเป็นโรคกระดูกสันหลังอักเสบ จนยืดหลังไม่ได้ เวลาเดินหลังตรง ก็จะปวดมาก ยอมรับว่าแกเป็นคนชอบดื่ม แต่ก็จะไม่ดื่มถึงขนาดพูดจาไม่รู้เรื่อง และไม่เคยดื่มให้ลูกให้เมียเห็นต่อหน้า
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบหนักมาก ลูก 2 คนไม่กล้าไปโรงเรียน เพราะอายที่โดนล้อ หนูเองก็ทำได้แค่ให้กำลังใจ ว่ามันคงถึงคราวซวยที่สุดในชีวิตแล้ว ตลอดชีวิตการรับใช้ราชการ ก็คงพังในวันนี้ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
“อยากขอวิงวอนให้ทุกคนตำหนิได้ แต่อย่าให้ถึงขั้นด่ากราดแบบสาดเสียเทเสีย ตอนนี้กลัวเหลือเกิน กลัวว่าสามีจะถูกลงโทษทางอาญาสถานหนัก ขณะเดียวกันอยากให้มองอีกแง่มุมว่า ทำไมคนที่ถ่ายคลิปถึงถูกเรียกให้จอด ควรจับผิดทั้งสองฝ่ายดีกว่าจับผิดแค่ตำรวจฝ่ายเดียว” นางศิริอร เล่าทั้งน้ำตา
เชิญชมคลิป ที่เป็นต้นตอของความเจ็บปวดของครอบครัว “วงศ์ชัย” ได้ที่นี่
https://www.youtube.com/watch?v=1hGueIyUHDM
นี้คืออีกหนึ่งกรณีของผู้กระทำความผิด ที่มีเหตุผลเบื้องหลัง เช่นเดียวกับหลาย ๆ คนที่กระทำผิดในเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน เพียงแต่ว่า เขาอาจจะไม่ได้รับโอกาสในการอธิบายความจริง… ก็เท่านั้นเอง
ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก เดลินิวส์ออนไลน์
Leave a Reply