คดีเกาะเต่า ตำรวจไทยให้การสับสน! งงมีหลักฐานอะไรบ้าง อ้างDNAใช้หมดแล้ว
กลายเป็นคดี “ไทยแลนด์ออลี่” ไปแล้ว กับคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า ภายหลังถูกวิพากวิจารย์ทั้งทางปากต่อปาก และในโลกโซเชียลว่า เป็นคดีจับแพะ ที่น่าขายหน้าไปไกลถึงประเทศอังกฤษ และทั่วโลก
จากรายงานของเดอะเทเลกราฟ เมื่อวานนี้ (8 กรกฎาคม) ศาลได้เริ่มการสืบพยานในคดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวสหราชอาณาจักร ฮันนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ วัย 23 ปี และเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปี ซึ่งเกิดขึ้นบนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีเมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว โดยมีจำเลยเป็น 2 แรงงานอพยพชาวเมียนมาร์ ที่ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาของพนักงานอัยการ
วันนี้ซึ่งเป็นการพิจารณาคดีในวันที่สองก็เกิดปัญหาติดขัดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดสับสนไม่รู้ว่าทางสำนักงานมีวัตถุพยานอะไรในครอบครองบ้าง
พ.ต.ท.สมศักดิ์ หนูรอดพนักงานสอบสวนกล่าวว่าเขาต้องเดินทางกลับไปยังเกาะเต่าอีกครั้งเพื่อดูว่าตำรวจมีวัตถุพยานอะไรบ้างพนักงานอัยการจึงต้องขอให้ผู้พิพากษาระงับการสืบพยานไว้ก่อน
หลักฐานสำคัญที่ถูกนำมาใช้ปรักปรำจำเลยชาวเมียนมาทั้งสองรายคือดีเอ็นเอที่ถูกพบบนบุหรี่และถุงยางอนามัยที่ถูกพบใกล้กลับจุดเกิดเหตุรวมทั้งดีเอ็นเอบนร่างเหยื่อผู้เสียชีวิตที่ถูกนำมาใช้เทียบเคียง
อย่างไรก็ดีเอเอฟพีรายงานว่าพ.ต.ท.สมศักดิ์ ได้กล่าวกับทีมทนายจำเลยนอกห้องพิจารณาคดีว่า “ดีเอ็นเอ บนบุหรี่มันหมดแล้ว”
“ตัวอย่างดีเอ็นเอที่เก็บจากร่างผู้เสียชีวิตไม่ได้อยู่ในหน้าที่ผม ตอนนี้มันอยู่ที่กรุงเทพฯ”
ทีมทนายจำเลยกล่าวกับเอเอฟพีว่า ศาลจะมีคำสั่งในวันศุกร์นี้ว่า จะอนุญาตให้ทำการตรวจสอบตัวอย่างดีเอ็นเอซึ่งถูกเก็บไว้ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ในกรุงเทพฯหรือไม่
“หากพวกเขาบอกว่ามันไม่มีแล้ว,ก็คือไม่มีบางทีผู้เชี่ยวชาญ(ด้านการพิสูจน์หลักฐาน)ของเราต้องต่อสู้ว่าหลักฐานดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ยันกับจำเลยไม่ได้หรือไม่ ตรงนี้ผมยังไม่รู้” นายนคร ชมพูชาติ หัวหน้าทนายฝ่ายจำเลยกล่าว
ย้อนรอยไปอีกครั้ง เมื่อหมอพรทิพย์ แพทย์ชันสูตรก็ยังไม่เชื่อมั่นในคดีนี้
https://www.youtube.com/watch?v=Uy9dnq43-Vk
ขอฝากไว้ตรงนี้ว่า ถ้าคิดว่าดีก็ทำต่อไป แต่ถ้ารู้ว่าตัวเองผิด ก็ควรรีบรับผิดเสียก่อนที่จะอับอายขายขี้หน้าไปทั่วโลก จนกลายเป็นขี้ปากให้ใคร ๆ จากทั่วโลกพูดได้ว่า
“กระบวนการยุติธรรมของไทย” เหมาะสมไหมกับคำว่า “ยุติธรรม”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก มติชนออนไลน์ และ Youtube Listeriaumbrella
ขอขอบคุณเครดิตภาพจาก ผู้จัดการออนไลน์ และ แนวหน้า
Leave a Reply