หญิงไทย… “บิล เกตส์” นับถือ ทั่วโลกยกย่อง… แต่คนไทยแทบไม่รู้จัก???
มีการแชร์โพสต์ ของ บิล เกตส์ Bill Gates เจ้าของไมโครซอฟรวยระดับโลก เขาได้ทำคลิปสั้นๆ ยกย่องหญิงไทยคนหนึ่งที่คนไทยแทบไม่เคยรู้จัก เพจ Drama-addict ได้แชร์ว่า
ไปชมคลิปวีดีโอ ที่ “บิล เกตส์” ออกมาทำคลิปสั้นเพื่อยกย่อง
อีกทั้งละครบรอดเวย์ ยังสร้างจากชีวิตจริงของ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรยิปซีไทย ไว้ด้วย
เภสัชกรยิปซีไทย ผู้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ (ซึ่งปัจจุบัน ไทยกำลังมีปัญหากับอเมริกา เพราะข้อขัดแย้ง เรื่องราคายา ที่ไทยไม่ยอมอเมริกา เรื่อง สิทธิบัตรยา)
ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรยิปซีไทย ผู้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ที่เดินทางไปทั่วเเอฟริกาจนเป็นที่รู้จัก ถึงขนาดอเมริกานำชีวิตเธอไปสร้างเป็นละครบรอดเวย์ ในขณะที่คนไทยไม่รู้จักเธอเลย!!!
ประวัติของ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์
ชื่อ – ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เป็นคนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีพี่น้อง 2 คน พ่อเป็นหมอ คุณแม่ เป็นพยาบาล
เรียน – นักเรียนประจำที่ รร.ราชินี แล้วไปต่อปริญญา คณะเภสัชศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ปริญญาโท สาขาเภสัชวิเคราะห์ ม.Strahclyde ปริญญาเอก สาขาเภสัชเคมี ม.Bath ที่อังกฤษ
ปี 2535 เริ่มมีผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก พบเอดส์ในไทยครั้งแรก ปี 2526 ทำไห้ตัดสินใจศึกษาวิจัยยาต้านไวรัสเอดส์ คิดค้นอยู่ 3 ปี แรกๆ ทำงานคนเดียวหมด ประเทศไทยจึงเป็นประเทศแรกของโลก ที่ผลิตยาชื่อสามัญว่า ยาเอดส์ ในปี 2538 ได้
จากนั้น ขึ้นศาลกับบริษัทยา(ชื่อของอจ. ถูกบรรจุอยู่ในแบล็กลิสต์ของบริษัทยาเกือบทุกบริษัท) เป็นเรื่องของผลประโยชน์ เพราะถ้าผลิตยาได้สำเร็จ ยอดขายของผู้ผลิตรายอื่นๆ ก็ตก เพราะราคาถูกกว่ามาก
คือ ยา ZIDOVUDINE (AZT) เป็นยาที่ลดการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก จาก แคปซูลละ 40 บาท เหลือ 7-8 บาท อีกตัวคือ จากเดิม ขาย แคปซูลละ 284 บาท เหลือ 8 บาท
ยาที่มีชื่อเสียงมาก คือ GPO-VIR สามารถทำให้ยา 3 เม็ดรวมอยู่ในเม็ดเดียว จากต้องทาน วันละ 6 เม็ด เหลือเพียง 2 เม็ดเท่านั้น
รัฐบาลไทย สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ จาก 1,000 คน เพิ่มเป็น 10,000 คน ค่ายา จาก คนละ 20,000 เหลือ 1,200 บาท
ปี 2545 ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา เพื่อจะไปช่วยเหลือทางแอฟริกาใต้อย่างเต็มตัว เพราะเห็นว่า ช่วงนั้นไทยเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ท่านไม่มีใครเซ็นให้ลาออก ทั้งยังให้ตำแหน่งสูงขึ้น
และให้เอายาไทยไปขายแอฟริกา แต่ท่านไม่เห็นด้วย มองว่า เราก็ควรสอนเขาตกปลาเอง ไมใช่ว่าเอาปลาไปให้เขากิน เพราะไม่อย่างนั้น เขาจะไม่มีวันพึ่งตัวเองได้ เมืองไทยไปจำหน่ายได้ มันจะมีประโยชน์อะไร เพราะมันไม่มีความยั่งยืน
ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เดินทางไปคองโก ทำทุกอย่าง วาดแปลนโรงงาน ที่จะผลิตยา ใช้เวลา 3 ปี โรงงานดังกล่าว ผลิต ยาต้านไวรัสเอดส์ ชื่อ AFRIVIR เหมือนเมืองไทยทุกอย่างได้สำเร็จ
ปี 2546 ผลิตยาที่ทวีปแอฟริกา ที่ดังมาก และขายดีที่สุดในประเทศแทนซาเนีย คือ ยามาลาเรีย (THAI-TANZUNATE) ยาราคาถูก จาก 360 บาท เหลือแค่ 36 บาทเท่านั้น
ที่แอฟริกา ท่านเดินทางไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีหลักแหล่ง บางทีก็มีคนช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายการเดินทาง บางทีออกเอง เพราะประเทศเขายากจน
เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นบ่อยๆ ที่คองโก อยู่ๆ ก็มีแสงสว่างวาบๆขึ้นมา ก็คิดในใจว่า ทำไมถึงสว่างเร็วจัง ปรากฏว่าไม่ใช่แต่เป็น ระเบิดที่เขายิงมา โดยมีเป้าหมายที่บ้านพักของดิฉัน แต่เขากะพลาดไปหน่อย เลยไปตกข้างๆบ้านแทน คิดว่าคงเป็นฝีมือของพวกที่เขาคิดว่าดิฉันเป็นศัตรูนั่นแหล่ะค่ะ
ที่ ไนจีเรีย ต้องเดินทางตอนตี 1 จากสนามบินเข้าที่พัก คนเดียว ไม่มีคนมารับ นั่งแท๊กซี่ถูกคนเอาปืนมาจี้ 5 ครั้ง ในคืนเดียว รอดมาได้หมดทุกครั้ง และไม่มีใครเอาทรัพย์สินไปเลยสักคนเดียว ด้วยเหตุผล ” ฉันมาช่วยคนในประเทศเธอน่ะ อยากได้อะไรก็เอาไปเลย” เลยไม่มีคนจี้ต่อ แต่เสียเวลาไป 4 ชั่วโมง กับการเดินทาง 20 กม. เพราะมัวแต่โดนจี้ ไป 5 ครั้ง
ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ได้รับความชื่นชมจากสื่อของฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นอย่างมาก จนนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ได้รับรางวัลจาก เทศกาลหนังเมืองคานส์ถึง 3 รางวัลเลยทีเดียว
จำชื่อท่านเอาไว้ให้ขึ้นใจนะครับ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรไทยที่สร้างคุณูปการไปทั่วโลก!!!!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก namprix และเพจ Drama-addict ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก Bill Gates
Leave a Reply