หื่นจัด!!! เชฟร้านดัง แอบช่วยตัวเอง แล้วใส่น้ำอสุจิในกระบอกน้ำพนักงานต้อนรับ
เมื่อความหื่นไม่เข้าใครออกใคร เชฟร้านอาหารชื่อดังรายหนึ่งก็เช่นกัน หลังพบจากกล้องวงจรปิดว่า เชฟคนนี้ได้มาสำเร็จความใคร่บริเวณล้อบบี้ของโรงแรม แล้วเดินงุ่นง่าน ๆ มองเห็นกระบอกใส่น้ำสีชมพูของพนักงานต้อนรับ แล้วคงนึกอะไรขึ้นมาได้บ้างอย่าง (อันที่จริงน่าจะนึกได้หลายอย่าง) จึงกรองน้ำอสุจิของตัวเองใส่ลงไปในกระบอกน้ำ เขย่า ๆ ให้ผสมกับน้ำที่มีอยู่ในกระบอก แล้วทิ้งไว้ที่เดิม!!!
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์มาเลเซีย “เดอะ สตาร์” รายงานจากเมืองปูชอง ประเทศมาเลซีย เมื่อวานนี้ว่า อาสาสมัครรักษาความสงบเรียบร้อยของชุมชนในเมืองปูชองของมาเลเซีย ได้เข้าจับกุมชายที่ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ วัย 29 ปี ทำอาชีพเป็นเชฟในร้านอาหาร “บันดาร์ ปูเตรี ปูชอง”
หลังจากตามสืบสวนมาตั้งแต่ช่วงวันที่ 22 เม.ย. หรือตั้งแต่หนุ่มโสดรายนี้ก่อเหตุสำเร็จความใคร่ตนเองบริเวณหน้าล็อบบี้โรงแรมในเมืองดังกล่าว จากนั้นเดินไป-มาด้วยความงุ่นง่านใจ สุดท้ายคว้ากระบอกน้ำสีชมพูของพนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์สาวของโรงแรม ซึ่งในช่วงเวลาที่เกิดเหตุไม่มีใครอยู่หน้าเคาน์เตอร์สักคน
เชฟหนุ่มสุดหื่นรายนี้ ใส่อสุจิของตนเองลงในกระบอกน้ำ จากนั้นเขาจึงเขย่าให้อสุจิเข้ากับน้ำที่อยู่ในกระบอกและนำไปตั้งที่เดิม แล้วเดินออกจากโรงแรมไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพนักงานสาวกลับมาที่เคาน์เตอร์ของตนแล้วดื่มน้ำในกระบอกน้ำของเธอเอง เธอรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จึงเปิดภาพจากกล้องวิดิโอวงจรปิดดูทำให้รู้ว่า ชายรายนี้แอบใส่อสุจิลงไปในน้ำที่เธอดื่มเข้าไปแล้ว เธอจึงแจ้งตำรวจ
ในที่สุดตำรวจก็สามารถตามจับกุมตัวเขามาดำนินคดีได้ ส่วนอาสาสมัครรักษาความสงบเรียบร้อยยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า เชฟรายนี้มีพฤติกรรมเข้าข่ายลามก อนาจารจนถูกจับมาแล้วถึงสองรอบ หนึ่งในนี้เขาเคยแอบแฝงตัวเข้าไปในห้องสุขาสตรีเพื่อแอบดูพวกเธอ ทำให้พวกเขาสงสัยว่า เชฟรายนี้เคยใส่สิ่งแปลกปลอมสุดอุบาทว์ลงไปในอาหารของลูกค้าด้วยหรือไม่
ชมคลิปสุดสลดใจได้ ที่นี่
https://www.youtube.com/watch?v=F2i4dzxQSMs
แอดมินรู้สึกเศร้าใจแทนสาวผู้โชคร้ายคนนั้นจริง ๆ คงรู้สึกหลอนกับการดื่มน้ำไปอีกนานนนนนแสนนาน ก็เล่นเจอความโรคจิตซะขนาดนั้น! ไม่แน่นะ ใครจะไปรู้ว่าเชฟคนนั้น เห็นลูกค้าสาวสวยเข้ามาในร้าน จิตวิปริตขนาดนี้ อาจจะเคยทำแบบนี้ใส่ลงไปในอาหารลูกค้าแล้วก็ได้
บอกได้คำเดียวว่า “อุบาทว์จริง ๆ”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์
Leave a Reply