คุก… “คืนคนดีสู่สังคม” หรือ “แหล่งเพาะอาชญากร”???
พ.ต.อ ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์คนใหม่ เรียกประชุมผู้บริหารและมอบนโยบายให้ผบ.เรือนจำทั่วประเทศ กล่าวว่า
“งานเราไม่มีวันหยุด และเป็นงานที่ท้าทายมาก สังคมจึงเคลือบแคลงสงสัยการปฏิบัติงานของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเรือนจำบางแห่งมีอายุมากกว่า 100 ปี โครงสร้างอาคารต่างจากมาตรฐานสากล… อีกทั้งสถานการณ์ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่พ้นโทษและกลับไปกระทำความผิดซ้ำเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์มีนโยบายคืนคนดีสู่สังคม แต่จากสถานการณ์กลับกลายเป็นว่าคืนคนเดิมสู่สังคม
“การกระทำผิดซ้ำเป็นปัญหาหลักและปัญหาสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ ทั้งการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขังให้สมดุลกับการดูแลความปลอดภัยให้สังคม ไม่ควรเน้นผลักดันผู้ต้องโทษกลับคืนสู่สังคมเพียงอย่างเดียว ต้องให้สำนึกผิด ได้รับโทษและเกรงกลัวต่อบาปด้วย
“… การมีมีผู้ต้องขังล้นเรือนจำ ทำให้ผลของการปรับพฤตินิสัยของผู้ต้องขังไม่ค่อยได้ผล เมื่อแก้ไขฟื้นฟูเยียวยาไม่ได้ผล ทำให้สภาพภายในเรือนจำมีลักษณะเป็นเหมือนเรือนเพาะชำอาชญากร ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุใดผู้ต้องขังหลายรายที่มีโทษถึงประหารชีวิต แต่กลับถูกคุมขังจริงเพียง 10 ปี เรื่องดังกล่าวจึงเป็นโจทย์ที่ต้องคิดแก้ไข
“กรมราชทัณฑ์จะยึดตามแนวทางตามนโยบาย 5 ก้าวย่างของพล.อ ไพบูลย์ คุ้มฉายา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เคยให้ไว้ คือ ห้ามลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามต่างๆเช่น มียาเสพติด โทรศัพท์มือถือ เข้าไปในเรือนจำ… พร้อมวางกรอบแนวทางแก้ไขปัญหา กลั่นกรองจำแนกจัดชั้นผู้ต้องขัง พักและลดโทษให้กำลังใจ และให้กลับตัวเพื่อคืนคนดีกลับสู่สังคมต่อไป”พ.ต.อ ณรัชต์ กล่าว
เป็นกำลังใจให้ครับท่าน เพราะนี่คือก้าวที่สำคัญอีกก้าว ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติพัฒนาได้อย่างยั่งยืน
ขอขอบคุณข้อมูล และภาพจาก posttoday
Leave a Reply