รวม 3 ตำนาน “บ้านผีเฮี้ยน” ที่หลอนจนเป็นข่าวดัง…

รวม 3 ตำนาน “บ้านผีเฮี้ยน” ที่หลอนจนเป็นข่าวดัง…

บ้าน ผี เฮี้ยน

บ้านหลังแรก อาถรรพณ์บ้านเก่าแก่ ใจกลางกรุง ‘ผีพระยา’ เจ้าของบ้าน

เป็น บ้านไม้ทรงยุโรป หลังหนึ่งในย่านสามเสน กรุงเทพมหานคร โดยมีเสียงร่ำลือกันว่า บ้านไม้ทรงยุโรปหลังนี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จำนวน 3 หลัง ซึ่งเดิมเป็นของ พระยาประเสริฐคมกฤษณ์ และถูกขายกันมาหลายทอด จนสุดท้ายอยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์

ว่ากันว่าเป็นบ้านที่มีผีเจ้าของบ้านสิงอยู่ ลูกสะใภ้ของพระยาประเสริฐผูกคอตายขณะตั้งครรภ์ที่บ้านหลังนี้ และยังมีทหารนายสิบตายอีก

ต่อมา นายโสภณ ดำนุ้ย รองผอ.องค์การสวนสัตว์ ได้ย้ายครอบครัวมาอยู่ นายโสภณเจอ ชายแก่นุ่งโจงกระเบน เสื้อราชปะแตนมาหา พร้อมด้วยลูกสะใภ้อุ้มเด็กหัวจุก มาทวงค่าเช่าที่ดิน นายโสภณจึงต้องเขียนเช็คจ่ายเงินค่าเช่าที่ นำไปวางไว้ที่ศาลเจ้าหลังบ้านทุกๆ เดือน

ขณะที่ นายชนะ ประพันธ์วงศ์ เจ้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ก็ออกมายืนยันว่าเคยเห็น “ผีพระยา” เหมือนกัน ทั้งในความฝันและเห็นกับตา ดึกๆ ก็มักจะเห็นคนโบราณนั่งตำหมากอยู่เต็มสนามหญ้า พร้อมเล่าว่าครั้งหนึ่งผีเจ้าของบ้านยังเคยช่วยชีวิตเอาไว้ ตอนเครียดกับปัญหาเศรษฐกิจ เตรียมปืนจะมายิงตัวตาย พอเผลอหลับไป เจ้าของบ้านก็มาเตือนไม่ให้ทำอะไรโง่ๆ ต่อมาไม่นานยังให้ลาภก้อนโต หลังฝันเห็นเลข 2 ตัว ลอยมาจากตอไม้ จึงนำไปซื้อหวยใต้ดิน ถูกได้เงินถึง 300,000 บาท

บ้านหลังที่ 2 บ้านโบราณขุนพิทักษ์ถูกทิ้งร้อยปี ไม่มีคนอาศัย

เป็นบ้านโบราณของขุนนางเก่าแก่หลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ละคืนมักจะมีเหตุการณ์ประหลาด ทั้งเสียงโหยหวนของผู้หญิง ชาวบ้านบางคนเคยเห็นหญิงสาวใส่ชุดขาวออกมายืนบริเวณหน้าต่าง ขนาดนกยังไม่กล้ามาเกาะหลังคา ทั้งที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านร้าง ไม่มีใครอยู่มานานหลายสิบปี

นายชัยกร นิยมไกร ชาวบ้านในละแวกนั้น เล่าว่า บ้านของตนอยู่ห่างจากบ้านหลังดังกล่าวประมาณ 100 เมตร ซึ่งตนอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยเห็นใครมาดูแลบ้านหลังนี้ ทุกครั้งที่ตนมองผ่านมาที่บ้านหลังนี้ก็จะรู้สึกวังเวงน่ากลัว เดิมทีทราบว่า เจ้าของบ้านชื่อขุนพิทักษ์ ขุนนางสมัยรัชกาลที่ 5 หลังจากเสียชีวิตก็ได้ยกบ้านหลังนี้ พร้อมที่ดินหลายไร่ให้กับราชพัสดุ จากนั้นก็ไม่มีใครเข้าอยู่อาศัยร่วมร้อยปีมาแล้ว

ทั้งนี้ ตนเคยชวนเพื่อนข้ามไปดูในบ้านก็ต้องแปลกใจอย่างมาก เมื่อพบว่าภายในบ้านมีความสวยงาม ประตูหน้าต่างมีลวดลายแกะสลักอย่างประณีตบรรจง ที่สำคัญ ทุกซอกทุกมุมของตัวบ้าน และพื้นกระดาน ซึ่งเป็นไม้แผ่นใหญ่ ดูสะอาดเหมือนกับมีคนคอยทำความสะอาด ไม่มีหนูหรือนกไปทำรัง เหมือนกับบ้านร้างทั่วๆ ไป

นายชัยกร กล่าวอีกว่า ชาวบ้านที่นี่เคยเจอเหตุการณ์ประหลาดจากบ้านหลังนี้เป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นใกล้พลบค่ำจะเห็นผู้หญิงสวมชุดขาวเปิดหน้าต่างชั้นบนออกมา บางครั้งมีเสียงผู้หญิงร้องโหยหวน และเสียงเปิดปิดประตูดังปังหลายๆ ครั้ง ทั้งที่รอบๆ ไม่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่แต่อย่างใด

นอกจากนี้ เมื่อครั้งที่ตนเข้าไปดูในบ้านยังเห็นมีห้องใต้ดินอยู่ด้วย แต่เมื่อเดินลงไปไม่กี่ก้าวก็รู้สึกเย็นมาก จนต้องออกมา

บ้านหลังที่ 3 คฤหาสน์ตั้งฮั้ว ลูกฆ่าพ่อ

ในคฤหาสน์ของนายไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และส.ส.อุบลราชธานี เสียชีวิต เพราะถูกถูกลูกชายคนโต เป็นหนุ่มปริญญาโทจากอเมริกา ร่วมกับลูกน้องคนสนิท วางแผนชั่วก่อคดีปิตุฆาตบุกสังหารพ่อบังเกิดเกล้าอย่างสุดอำมหิต ด้วยการใช้มีดโบวี่ฟันร่างยับเยินตายคาห้องนอน เนื่องจากต้องการมรดกนับพันล้าน

ต่อมานายวิชัย แสงกล้า อดีตคนรับใช้ ได้ก่อคดีสยองใช้ค้อนปอนด์ทุบกะโหลกนางหนูรัตน์ วงศ์อุดม ภรรยาเจ็บสาหัส แล้วผูกคอตัวเองเสียชีวิตคาห้องพัก ในรั้วบ้านของนายไชยศิริ หรือเสี่ยตั้งฮั้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกนายจำเนียร มนทิลอาจ คนสวนมาสอบปากคำ ได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุนายวิชัยกับพวก ตน รวมทั้งนางหนูรัตน์ตั้งวงกินข้าวมื้อเย็นอยู่ที่หน้าห้อง นายวิชัยบ่นปวดศีรษะกินข้าวไม่ลง แล้วลุกไปซื้อบุหรี่ และก็เข้าห้องตามหลังภรรยาที่เข้าไปนอนก่อน จนกระทั่ง 2 ทุ่มเศษ ก็ได้ยินเสียงร้องอย่างโหยหวนเจ็บปวดของนางหนูรัตน์ พวกตนมองลอดกระจกบานเกล็ดเห็นนางหนูรัตน์ร้องครวญครางกุมแผลที่ศีรษะเลือดไหลมาก จึงรีบเข้าไปช่วยส่งโรงพยาบาล

ด้าน พ.ต.ต.เพชรยืนยง สวส.สน.บางซื่อ เผยว่าได้มีโทรศัพท์อ้างชื่อ พ.ต.กรันต์ สถิตยุทธการ เจ้าของบ้านฝั่งตรงข้ามบ้านเสี่ยตั้งฮั้ว เล่าว่า เคยมีเหตุฆ่ากันตายในบริเวณรั้วบ้านของเสี่ยตังฮั้วมาแล้วหลายราย ก็เลยตัดสินใจย้ายบ้านไปที่อื่นจะดีกว่า

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน…

ขอขอบคุณข้อมูล และภาพจาก ไทยรัฐ