หมู่บ้านนี้ ประหลาด!!! “ทารกแรกเกิดเป็นหญิง” โตขึ้น “กลายเป็นชาย” จนเป็นเรื่องปกติ???
เปิดเรื่องราวแปลกของหมู่บ้านในประเทศโดมินิกัน ที่ทารกจำนวนหนึ่งแรกเกิดเป็นหญิง แต่กลายเป็นชายโดยไม่ได้แปลงเพศ
หมู่บ้านนี้ชื่อว่า ซาลินาส ในจังหวัดบาราโฮนา ของประเทศโดมินิกัน เด็ก 1 ใน 90 คน ได้เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทางเพศ เปลี่ยนจากหญิงเป็นชายกันเป็นเรื่องปกติ ตามธรรมชาติ โดยเปลี่ยนแปลงในระดับยีน อันส่งผลให้มีความผิดปกติที่ทำให้เกิดมาคล้ายผู้หญิง ทั้งที่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นผู้ชาย
ไมเคิล มอสเลย์ นักข่าววิทยาศาสตร์เล่าถึงความผิดปกตินี้ว่า
“ลักษณะที่ทารกเกิดมาเป็นผู้หญิงแล้วโตไปเป็นผู้ชายของเด็ก ๆ ในหมู่บ้านซาลินาส เรียกว่าภาวะ “Guevedoces” แปลว่า องคชาตตอนอายุ 12 บ้างก็เรียกว่า “machihembras” อันแปลว่า เป็นหญิงก่อนแล้วจึงเป็นชาย โดยลักษณะอาการเช่นนี้มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า “ซูโดเฮอร์มาโฟรไดท์” (pseudohermaphrodite)”
ตัวอย่าง
จอห์นนี่ หนุ่มวัย 24 ปี เป็นหนึ่งในกลุ่ม Guevedoces เดิมเขามีชื่อว่า เฟเลซิเทีย ซึ่งเป็นชื่อของผู้หญิงและก็ถูกเลี้ยงดูมาแบบเด็กผู้หญิง จอห์นนี่บอกว่า แม่คลอดเขาที่บ้าน ไม่มีแพทย์ดูแล และคิดว่าได้ลูกสาว เพราะเห็นว่าเขาไม่มีองคชาต ไม่มีลูกอัณฑะ ทุกอย่างดูเรียบ ๆ ไปหมด จนกระทั่งย่างเข้าสู่วัยรุ่น เสียงก็เริ่มแหบห้าวแตกหนุ่ม ลูกอัณฑะโผล่ และองคชาตก็ปรากฏออกมา จึงได้รู้ว่าความรู้สึกลึก ๆ ที่ขัดกับสิ่งที่ตัวเองเป็นมาตลอดนั้น คือเรื่องจริง
เรื่องในหมู่บ้านซาลินาส ถูกศึกษาอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงปี 1970s โดยดอกเตอร์จูเลียน อิมเปราโต-แมคคินลีย์ นักต่อมไร้ท่อวิทยา จากวิทยาลัยการแพทย์คอร์เนล นิวยอร์ก สหรัฐฯ จากการวิจัยพบว่า อุบัติการณ์ทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของยีนบนโครโมโซม Y ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ทารกยังอยู่ในครรภ์ อันทำให้บรรดาเด็ก ๆ Guevedoces ขาดเอนไซม์ชื่อ 5-alpha-reductase ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นไดไฮโดร-เทสโทสเตอโรน จึงไม่เกิดการเจริญของลักษณะทางเพศ ทำให้คลอดออกมาคล้ายเด็กไร้เพศ เมื่อไม่มีทั้งองคชาตและลูกอัณฑะ จึงถูกเข้าใจว่าเป็นเด็กหญิงไปโดยปริยาย จนกระทั่งฮอร์โมนเพศพุ่งพล่านระลอกที่สองเมื่อย่างเข้าสู่วัยแรกรุ่น จึงเกิดการกระตุ้นภายในให้ลูกอัณฑะตกลงมาและองคชาตก็เจริญออกมาด้วยในที่สุด
แม้เป็นผู้ชายช้ากว่า แต่หนุ่มๆ ที่นี่ไม่มีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศนะจ๊ะ ฟิต!!! เหมือนเดิม เขาว่างั้น…
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ทวิตเตอร์ @DrMichaelMosley และ kapook
Leave a Reply