ย้อนรอยเกาะเต่า “3 ปี” นักท่องเที่ยวต่างชาติตาย 7 ราย สื่อนอกขนานนามว่า “เกาะแห่งความตาย” แฉยับตำรวจรับใช้มาเฟีย
แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ถึงการเสียชีวิตปริศนาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายที่ 7 กับกรณีสาวเบลเยี่ยมแขวนคอเสียชีวิตบนเกาะเต่า เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตยังติดใจในหลายประเด็น ทั้งสาเหตุการเสียชีวิต และผลพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพราะไม่เชื่อว่ามีเหตุจูงใจที่น.ส.เอลิเซ่ โซฟี วินซีน เอ็นมานูเอล หรือเอลิส จะฆ่าตัวตายในขณะที่ใกล้จะกลับประเทศของตัวเองแล้วด้วยซ้ำ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ต้องออกคำสั่งโดยด่วนมอบหมายให้ให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามลงพื้นที่ไปคลี่คลายข้อสงสัยที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ทันที
แม้จะถูกสื่อต่างชาติตั้งฉายา “เกาะฆาตกร” เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม
รอยไปในปี 2557-2560 ถือเป็นเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตมาก่อนหน้านี้ถึง 6 ราย คือ
– คดี นายเดวิด มิลเลอร์ และ น.ส.ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ ซึ่งถูกฆาตกรรมเมื่อเดือนกันยายน 2557 ถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญมากที่สุด
– คดีนายซูเตอร์ ฮานส์ปีเตอร์ ชาวสวิส หายตัวไปจากเกาะเต่าเมื่อพฤศจิกายน 2557 และภายหลังสืบทราบว่าจมน้ำและถูกคลื่นซัดไปเกยหาดที่ จ.ชุมพร
– คดีน.ส.คริสตินา อันส์ลีย์ ชาวอังกฤษ วัย 23 ปี เสียชีวิตในห้องพักแห่งหนึ่งที่หาดทรายรีบนเกาะเต่าเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2558
– คดีนายลุค มิลเลอร์ ชาวอังกฤษ ถูกพบเป็นศพในสระน้ำของโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะเต่าในเดือนมกราคม 2559
– คดีนางสาววาเลนตินา โนวอเชินโนวา ชาวรัสเซียซึ่งมาดำน้ำที่เกาะเต่าและหายตัวไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา
ผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้สร้างความไม่น่าเชื่อถือ กระทบการท่องเที่ยวต่อเกาะเต่าเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าประเทศไทยก็ถูกมองในด้านลบ มากขึ้นเป็นทวีคูณอีกด้วย ทั้งที่การท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศไทยแบบนี้ หากไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนและเร่งด่วนแล้ว ก็คงไม่มีนักท่องเที่ยวชาติไหนกล้าเข้ามาเที่ยวในเกาะเต่า รวมถึงไทยอย่างแน่นอน
Leave a Reply