ปิดตำนานสงคราม “คาเฟ่” จาก “เฮียเลี้ยง” ถึง “เสี่ยสมยศ”

ปิดตำนานสงคราม “คาเฟ่” จาก “เฮียเลี้ยง” ถึง “เสี่ยสมยศ”

1

ในอดีต “คาเฟ่” คือ เวทีแจ้งเกิดของตลกและนักร้อง สร้างชื่อเสียงและรายได้

ในสมัยนั้นประเทศไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มี 2 คาเฟ่ใหญ่ คือ วิลล่า คาเฟ่ และ พระราม 9 คาเฟ่

6

ปี 2541 เฮียเลี้ยง-บุญเลี้ยง อดุลยฤทธิกุล เจ้าพ่อคาเฟ่เมืองไทย เจ้าของดาราคาเฟ่และวิลล่าคาเฟ่ ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งสังคมรวมถึงตำรวจในสมัยนั้น ได้ตั้งปมสงสัยว่าการตายของเฮียเลี้ยง อาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในธุรกิจคาเฟ่ ในชื่อของ “สมยศ สุธางค์กูร” จึงอยู่ในข่ายต้องสงสัยของทั้งตำรวจและสังคม แต่ต่อมาคดีเป็นที่สิ้นสุด และคลายปมฆาตกรรมตรงที่ “เฮียเลี้ยง” เสียชีวิตจากการถูกชิงทรัพย์ ระหว่างจะขึ้นลิฟท์ไปหาภรรยาน้อย

5

หลังจากเฮียเลี้ยงเสียชีวิต วิลล่า คาเฟ่ก็ปิดกิจการ ทำให้เวทีและพื้นที่ของบรรดาตลกเหลือเพียงพระราม 9 คาเฟ่ของเสี่ยสมยศ สุธางค์กูร และ พระราม 9 คาเฟ่นั้น ซึ่งสมัยนั้นเป็นช่องทางที่มีอำนาจต่อพวกคณะตลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นคาเฟ่ชื่อดังที่สุดท้ายที่ยังเหลืออยู่

เมื่อปี 2541 เสี่ยสมยศ สุธางค์กูร ได้เปิดใจกับหนังสือพิมพ์ข่าวสด ถึงกรณีที่สังคมสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการสั่งฆ่าเฮียเลี้ยง รวมถึงเผยเบื้องลึกศึกคาเฟ่ ไว้อย่างน่าสนใจ

“เสี่ยสมยศ” หรือ “ทนายสมยศ” เล่าว่า “ผมรู้จักกับเฮียเลี้ยงมานาน ตั้งแต่ปี 2527 ต่อมาก็ร่วมหุ้นกันทำคาเฟ่ด้วยกัน ช่วงนั้นผมกับเฮียเลี้ยงสนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันจนคนล้อว่าเป็นคู่แฝด แม้แต่ผู้หญิงบางครั้งยังคนเดียวกันเลย แต่ต่อมาเกิดมีปัญหาขัดแย้งกัน จนนายสมยศ ถอนหุ้นออกมา และกลับไปเป็นทนายความอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะมาเปิดกิจการพระราม 9 พลาซ่า

3

ที่ตั้งพระราม 9 พลาซ่า เป็นที่ดินของลูกความคนหนึ่งของผมที่สนิทกัน เขาเห็นว่าผมว่าง ๆ ก็เสนอว่าอยากทำคาเฟ่หรือเปล่า ผมตัดสินใจทำ จึงเปิดพระราม 9 พลาซ่าขึ้นมา แต่หลังจากเปิดคาเฟ่ก็สร้างความไม่พอใจให้กับ “เฮียเลี้ยง” นายสมยศ อ้างว่า เฮียเลี้ยงหาทางกลั่นแกล้งตลอด เช่น กรณีของการลงคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง จะต้องถูกแซงหน้าทั้งๆ ที่ผมก็ติดต่อก่อนด้วยซ้ำ

2

ส่วนกรณีแย่งตัวดารา-นักร้องนั้น เป็นกรณีรุนแรงจนถึงขั้นใช้กำลัง เสี่ยสมยศ ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง เช่นกรณีของ “ไชยา มิตรชัย” หรือ ตลกดังอย่าง “โก๊ะตี๋” สำหรับกรณีของไชยา มิตรชัย เป็นที่ฮือฮามาก เพราะถึงขั้นที่ 2 คาเฟ่ส่งคนไปแย่งกันอุ้มตัว โดยเสี่ยสมยศยอมรับว่า เคยส่งคนไปอุ้มไชยา มิตรชัย จริง และเฮียเลี้ยง ก็ส่งคนไปอุ้มด้วยเช่นกัน แถมยังไปจ๊ะเอ๋กันเสียด้วย

“ผมเป็นคนสั่งผู้พันตึ๋ง หรือ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน ให้ไปอุ้มไชยา มิตรชัย เพราะไชยาไม่ยอมไปโชว์ตัวที่คาเฟ่ผม ทั้งที่รับคิวแสดงให้ที่ผมก่อน และผมก็ทุ่มโฆษณาไปหมดเป็นสิบๆ ล้าน วันนั้นนายบุญเลี้ยง ก็ส่งคนไปอุ้มไชยาด้วยเช่นกัน โดยคนของเฮียเลี้ยงไปถึงก่อน แต่ชุดของผมที่ส่งไปทีหลังเป็นชุดใหญ่กว่า ทำให้ชุดของเฮียเลี้ยงต้องกลับไป และผมก็ได้ไชยามาเล่นที่พระราม 9 พลาซ่า” เสี่ยสมยศ กล่าว

ทั้งนี้ หลังสิ้น “เฮียเลี้ยง” นายสมยศ ก็เป็นเจ้าพ่อผูกขาดวงการคาเฟ่ ตลก ดารา-นักร้องทุกคน ต้องอาศัยพระราม 9 พลาซ่าเป็นที่แสดงผลงานสร้างชื่อ โดยเสี่ยสมยศ เคยประกาศห้ามตลกตระกูลเชิญยิ้มขึ้นเวทีเรียกเสียงหัวเราะบนเวทีพระราม 9 พลาซ่าเด็ดขาด หรือตลกคณะใดที่ต้องการขึ้นเวที ก็ห้ามมีนามสกุลเชิญยิ้มต่อท้าย”

4

ดาราตลกชื่อดัง “หม่ำ จ๊กม๊ก” ขณะแสดงที่คาเฟ่

กาลเวลาผ่านไป จนกระทั่งหมดยุคคาเฟ่ไป นายสมยศ หันไปเล่นการเมือง เป็นส.ส.ประชาธิปัตย์ ลำดับที่ 33 ควบคู่ไปกับเปิดสำนักทนายความ และชื่อของ “สมยศ สุธางค์กูร” ก็เลือนหายจากสื่อสาธารณะไปนาน จนกระทั่งปรากฎเป็นข่าวเศร้า เมื่อเสี่ยสมยศ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตหลังรับประทานอาหารที่ภัตตาคารเจ้าประจำ เมื่อช่วงคืนวันที่ 29 มิ.ย. 2558 ที่ผ่านมา นับเป็นการปิดตำนานเจ้าพ่อคาเฟ่ประเทศไทยไปตลอดกาล

แอดมินจำได้ว่า สมัยยังเด็กมาก ๆๆๆๆ (เหมือนจะแก่) ยังได้ทันดูซีดีตลก ที่แสดงอยู่ในคาเฟ่ บรรยากาศของการแสดงตลกในคาเฟ่นั้น จะออกแนวทะลึ่งมากกว่าที่แสดงในจอทีวีทั่วไป ความยิ่งใหญ่อลังการที่เห็นในคาเฟ่ ทำให้รู้สึกว่า ในสมัยนั้นคนที่จะเข้าไปเที่ยว หรือดื่มดริ๊งในคาเฟ่ได้ ต้องเป็นคนที่บ้านมีฐานะพอสมควร เพราะทั้งนักร้องดังๆ รวมถึงตลกดังๆ ต่างก็แวะเวียนกันมาแสดงที่คาเฟ่ใหญ่ ๆ ด้วยกันทั้งนั้น แต่ปัจจุบัน คาเฟ่เหล่านั้น กลายเป็นตำนานไปแล้ว หลงเหลือไว้เพียงซากตึกเก่า ๆ และหักพังของ “พระราม 9 คาเฟ่” ที่ถนนพระราม 9 เอาไว้ให้คนได้ยลโฉม และกล่าวถึงตำนานความยิ่งใหญ่เหล่านั้นกันต่อไป

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก มติชน