ย้อนรอยคดีโหด “ศักดิ์ ปากรอ” ฆ่าแขวนคอพ่อแม่ลูก 5 ศพ โทษประหาร สุดท้ายถูกปล่อยตัว!!!

ย้อนรอยคดีโหดศักดิ์ ปากรอฆ่าแขวนคอพ่อแม่ลูก 5 ศพ โทษประหาร สุดท้ายถูกปล่อยตัว!!! 

ศักดิ์ ปากรอ

หากย้อนกลับไปเมื่อปีพ.ศ. 2540 คดีที่สะเทือนขวัญคนไทยมากที่สุดคือ ฆาตกร ศักดิ์ ปากรอ กับคดีฆ่าแขวนคอ 5 ศพ ครอบครัวบุญทวี ที่จังหวัดสงขลา

เหตุการณ์ที่ยากจะลืมเลือน

เพื่อนร่วมงานของ นายประภาส บุญทวี หัวหน้าสถานีอนามัยบ้านระวะ ได้ไปตามนายประภาสที่บ้านแต่กลับไม่มีคนมาเปิดประตู เห็นผิดสังเกตจึงเข้าไปดูในตัวบ้านพบภาพน่าสยดสยองเป็นศพของครอบครัวบุญทวีถูกแขวนคอกับราวบันได

ศพ นายประภาส บุญทวี และลูกชาย 3 คนของเขา ประกอบด้วย ด.ช.กัมปนาท,ด.ช.ชัชวาลย์,ด.ช.ปรนนท์ ส่วนศพของ นางเจียมจิต บุญทวี ภรรยาของประภาส ถูกมัดมือมัดเท้าทุบศีรษะ และใบหน้าด้วยของแข็งตายอนาถอยู่บนเตียงนอนของครอบครัว

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาข้อมูลของครอบครัวบุญทวี แต่ก็ไม่พบปมแค้นใดๆที่นำมาสู่การฆ่ายกครัว เจ้าหน้าที่จึงสืบไปจนพบลุงอ่ำ อายุ 70 ปี เพื่อนบ้านครอบครัวบุญทวีที่กลายเป็นพยานสำคัญยอมเปิดเผยคดีว่า ตนได้เห็นคนร้ายจับเด็กในบ้านแขวนคอ โดยคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คนที่ไม่ใช่คนแถวนี้และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

ตำรวจจึงพุ่งเป้าไปเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ เนื่องจากข้าวของในบ้านถูกรื้อกระจุยกระจาย พระเครื่องหลายร้อยองค์ที่นายประภาสร่วมจัดสร้างกับเจ้าอาวาสวัดป่าขาด ใน อ.สทิงพระ หายไปทั้งหมดด้วย

ศักดิ์ ปากรอ_Untitled-3_5

ตำรวจวางแผนล่อซื้อเพื่อจับกุม

ในขณะเดียวกันตำรวจได้แจ้งมาว่ามีวัยรุ่น 2 คน เอาพระเครื่องรุ่นดังกล่าวไปให้ ผู้ใหญ่บ้านที่ อ.ธารโต จ.ยะลา

สอบถามจนพบว่าผู้นำมาขายคือ เรืองศักดิ์ ทองกุล หรือ ศักดิ์ ปากรอ

เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมไกลถึงจังหวัดกาญจนบุรี จนกระทั่งวันที่ 21 พฤษภาคม 2540 มีคนเห็นศักดิ์ ปากรอ กำลังยืนอ่านหนังสือพิมพ์ข่าวของตัวเองอยู่และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าล็อคตัวคาหน้าแแผงหนังสือ

ศักดิ์ ปากรอ_Untitled-6_4

ตำรวจแกล้งชม ฆาตกรได้ใจจึงยอมสารภาพ

จากการสอบสวน ศักดิ์ ปากรอ ปิดปากเงียบ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้หลักจิตวิทยา ทำเป็นชื่นชมว่า ศักดิ์ ปากรอใจกล้ามากๆ มันจึงยอมเปิดปากเล่าว่า ตนเป็นคนฆ่ายกครัวจริงๆ โดยร่วมมือกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง คอยดูต้นทางเพื่อปล้นเงิน เพราะทราบมาว่า นายประภาสผู้ตายขายวัวชนได้เงินมา 1ล้านบาท

ขั้นตอนการฆาตกรรม

เมื่อตอนเข้าไปในบ้านเห็นเด็ก 3 คนกลับมาบ้านจึงได้จับมัดมือมัดเท้า ต่อมาภรรยาประภาสกลับมาถึง ก็จับมัดมือมัดเท้าไว้ที่เตียงนอนในห้อง ตอนนั้นยังไม่ได้ลงมือฆ่าใคร

เมื่อหมอประภาสเข้ามาในบ้านก็จับล็อคตัว มัดมือมัดเท้าแล้วถามหาเงินแต่หมอประภาส ปฏิเสธว่าไม่มีเงิน จึงจับหัวเมียหมอประภาส โขกกับเตียงจนเสียชีวิต แต่นายประภาสก็ยังไม่ยอมบอกที่ซ่อนเงิน ศักดิ์ ปากรอจึงใช้เชือกแขวนคอลูกชายทั้งสามผูกกับบันไดแล้วถีบให้ตกลงไป สุดท้ายก็จับนายประภาสแขวนคอตายศพเรียงกันเมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่า ฆ่าคนตายแบบนี้ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ ศักดิ์ ปากรอ กลับตอบว่า ไม่นี่ ไม่เห็นเป็นไร คนจะตายมันก็ต้องตายตำรวจย้อนรอยไปจนทราบว่า ศักดิ์ ปากรอมีปัญหาเก็บกด ทั้งยังเคยจับวัวแขวนคอและมีปัญหากับครอบครัวในช่วงวัยเด็ก

ศักดิ์ ปากรอ_Untitled-4_2

ปมของฆาตกร

จากการตรวจสอบประวัติของนายศักดิ์ พบปูมหลังว่า สมัยเด็กนายศักดิ์น่าจะเป็นคนเก็บกดฝังใจ เนื่องจากถูกโจรปล้นบ้านมา 2 ครั้ง ตัวเองก็เคยถูกทำร้ายร่างกายด้วยการจับมัดมือมัดเท้า นอกจากนี้พอโตเป็นหนุ่มก็เคยทะเลาะกับเพื่อนบ้าน เรื่องวัวเข้ามากินผัก เลยได้แอบเอาเชือกไปมัดคอวัวดังกล่าว อีกทั้งยังเคยร่วมทีมปล้นฆ่าลูกเรือชาวประมง ด้วยการจับเหยื่อมัดโยนลงทะเล จึงมีความเชี่ยวชาญในการใช้เชือกเป็นพิเศษ

บทลงโทษของศาล

ศาลตัดสินให้ประหารชีวิต ศักดิ์ ปากรอ แต่เขาคำรับสารภาพเป็นประโยชน์จึงลดโทษให้เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิต วันเวลาผ่านไป ศักดิ์ ปากรอ ได้รับลดหลั่นโทษเรื่อยมาจนได้รับอภัยโทษในที่สุด รวมระยะเวลาในคุกเพียง 13 ปีเท่านั้น

ศักดิ์ ปากรอ_mSQWlZdCq5b6ZLkrlVk614ZwVWDkJjIZ

กรรมตามสนองเข้าจนได้

ภายหลังจากการได้รับอภัยโทษมา ศักดิ์ก็กลับมาสร้างครอบครัวอยู่ใน อ.สะเดา พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นนายเนติราษฎร์ นพวงศ์ มีลูกชาย 1 คน ซึ่งขณะนั้นอายุ 1 ขวบเศษ เขาเป็นคนกว้างขวางในวงการ ที่แผ่ขยายมาถึงด่านนอกเมืองท่องเที่ยวย่านชายแดนไทยมาเลเซีย มีข่าวพัวพันเรื่องการบุกรุกป่าและไม้เถื่อนในท้องที่บ้านควรตานี ต.สำนักแต้ว ระยะหลังผู้ตายหันมาทำธุรกิจบ่อดินลูกรังที่ตำบลปริก อ.สะเดา และธุรกิจไม่เปิดเผย จนกระทั่งมาถูกมือปืนยิงเสียชีวิต ซึ่งตำรวจคาดว่าน่าจะมาจากปมการพัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมายนั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูล และภาพจาก kapook และ ไทยรัฐ