วิธีรักษาหลุมสิว… หายได้จริง!!!! แบบไม่หลอกลวง
หลายคนมีหลุมสิวที่ลึก และกินเนื้อจน เพราะรักษาไม่ถูกวิธี เช่น บีบ แกะ เจาะสิว หรือพลาดที่คลินิกรักษาสิว เช่นการฉีดสิวโดยใช้สเตรียรอยด์และยาแก้อักเสบที่มากเกินไป ส่งผลให้สิวยุบจริง แต่ผิวหนังก็จะยุบลงไปด้วยจนกลายเป็นหลุมสิวที่รักษายาก
เหตุผลที่เข้าใจง่ายๆ ของการเกิดหลุมสิวคือ การเกิดโพรงใต้ผิว สิวยุบ ผิวเลยยุบตามลงไปด้วย คอลลาเจนสร้างได้น้อย จึงทำให้ผิวฟูได้ไม่เรียบเท่าเดิม นานไปผิวหนังเกิดการสร้างผังผืดมาเกาะ ทำให้ผิวตรงนั้นเกิดหลุมต่ำกว่าผิวโดยรอบ
ดังนั้นวิธีการรักษาตามทฤษฏีคือ เมื่อผิวยุบตัวแล้วเกิดการสร้างผังผืดปิดบริเวณด้านบน ก็เซาะผังผืดออก แล้วใช้เครื่องที่สามารถเร่งการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกลับมาฟูเช่นเดิม ฟังดูง่าย แต่ทำจริงไม่ง่ายเลย
การรักษาหลุมสิวที่ถูกวิธี ควรรู้คือ
1. ไม่มี “ครีม” หรือ “เซรั่ม” ใดก็ตามที่ทาบนผิวหน้าแล้วสามารถ “รักษา” หลุมสิวหรือทำให้ผิวที่เป็นหลุมกลับมาฟูเท่ากับผิวโดยรอบได้ เพราะหลุมสิวเกิดจากผังผืด
2. ยากินหรือวิตามิน อาจพอที่จะ “มีผล” ได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถคาดหวังผลในการรักษาได้นะคะ วิตามินที่แนะนำให้กินเมื่อใช้การตัดผังผืดร่วมด้วยคือ วิตามินซี B5 และซิงค์
3. การรักษาโดยใช้วิทยาการสมัยใหม่ ซึ่งปัจจุบันก็มีเครื่องมือหลายชนิดที่สามารถหวังผลในเรื่องหลุมสิวได้
– Fractional CO2 Laser เป็นเลเซอร์ที่ได้ผลดี แต่รุนแรงมาก ผลของเลเซอร์ชนิดนี้จะตัดผังผืดแบบแนวดิ่งได้ดี แต่ก็ทำลายผิวชั้นบนไปมากเช่นกันจึงเห็นผลในการรักษาหลุมสิว คนที่คิดจะทำเลเซอร์ชนิดนี้ต้องทำใจว่าหน้าจะดำ ใช้เวลาพักฟื้นที่ยาวนาน แต่ได้ผลดีเกือบ 80%
– Fraxel Laser และ Fine Scan Laser ที่ต้องนำมารวมกันเพราะหลักการทำงานคล้ายๆกัน เพียงแต่ Fine Scan Laser เป็นเลเซอร์ตัวเลียนแบบของ Fraxel Laser หลักการทำงานคือการตัดผังผืดด้วยการการปล่อยคลื่นแสงในช่วง mid infrared ลงไปใต้ผิวเป็นจุดเล็กมากๆนับพันจุดต่อตารางเซนติเมตร สามารถปรับระดับความลึกตื้นเพื่อหวังผลในการรักษาริ้วรอยได้ด้วย สามารถคาดหวังผลหลุมสิวได้ 70-75 % (10 ครั้งขึ้นไป) ราคา Fraxel Laser ยังแพงอยู่ ส่วน Fine Scan จะถูกลงเพราะผลิตโดยคนไทย
– E-matrix ใช้คลื่นเสียงในการรักษาแทนคลื่นแสง ทำให้มีประโยชน์ในด้านการยกกระชับใบหน้าด้วย ส่วนตัวคิดว่าในปัจจุบัน E-matrix เป็นตัวที่หวังผลในการรักษาหลุมสิวได้มากที่สุด (Fractional CO2 Laser อาจจะได้ผลเทียบเท่าหรือดีกว่า แต่เสี่ยงกว่าและมี Effect หลังทำที่เยอะกว่ามาก) อาการข้างเคียงน้อย แต่ราคาแพง (มาก) สามารถคาดหวังผลหลุมสิวได้ 80-90 % (3-5 ครั้ง)
– Subcision คือการใช้มีดเลาะผังผืดด้วยมือแพทย์ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าเลาะได้ชัวร์ เลาะตรงจุด แต่ Subcision จะไม่มีอานุภาพในการกระตุ้นคอลาเจนใดๆนอกจากให้ร่างกายจัดการเอง การนำ Subcision มาใช้คู่กับเลเซอร์ชนิดต่างๆจึงทำให้ผลของการรักษาได้ผลดีขึ้น
สำคัญมาก อย่าลืมว่าการรักษาหลุมสิวต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูสภาพผิว หลังทำทันทีหรือ 1 อาทิตย์ต่อจากนั้น และผลอาจจะยังไม่ชัดเจน ต้องให้ร่างกายได้สร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูสภาพผิวโดยธรรมชาติร่วมด้วย ดังนั้นอาจใช้ครีม หรือกินวิตามินอย่างที่บอกข้างต้น เพื่อเป็นตัวเสริมให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้ดีขึ้นค่ะ
หลุมสิวรักษายาก แต่รักษาได้ ถ้าเข้าใจ และมีเงินค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เพจบันทึกของตุ๊ด
Leave a Reply