10 กษัตริย์ ยุคกลางที่ “สวรรคต (ตาย)” ได้แปลกที่สุดในประวัติศาสตร์โลก!!!

10 กษัตริย์ ยุคกลางที่ “สวรรคต (ตาย)” ได้แปลกที่สุดในประวัติศาสตร์โลก!!!

เราๆ ท่านๆ ต่างคิดกันเสมอว่า กษัตริย์น่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่หรูหรากว่าคนทั่วไป แต่นั่นอาจไม่ใช่ความจริงนัก ไม่เชื่อก็ลองอ่าน 10 กษัตริย์นี้ดูสิ

พระองค์ที่ 1. กษัตริย์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งสก็อตแลนด์

คืนหนึ่งพระองค์ออกเดินทางไปตามลำพังกับ Yolande ผู้เป็นภรรยา แต่โชคร้ายที่เขาถูกจับโยนลงจากม้าและฆ่าจนเสียชีวิตทันที

พระองค์ที่ 2. กษัตริย์วิลเลียมที่ 2

ขณะที่พระองค์ออกไปล่าสัตว์กับกลุ่มเพื่อน ก็กลับถูกเพื่อนยิงจนเสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ ด้วยความตกใจเพื่อนๆ จึงรีบหนีกลับเข้าไปในปราสาท แต่กว่าจะตั้งสติและวกกลับมารับอีกที ศพก็เริ่มเน่าเปื่อยแล้ว

พระองค์ที่ 3. กษัตริย์จอร์จที่ 5

พระองค์เสียชีวิตอย่างช้าๆ เพราะปอดล้มเหลว เมื่อแพทย์มาถึงก็ทำการฉีดโคเคนและมอร์ฟีนให้ เขาเสียชีวิตในตอนเช้าและตอนเย็นก็กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วในขณะนั้น

พระองค์ที่ 4. กษัตริย์เจมส์ที่ 2 แห่งสก็อตแลนด์

พระองค์ถูกฆ่าตายด้วยปืนใหญ่ของตัวเอง เริ่มจากพระองค์ตัดสินใจที่จะยืนใกล้ๆ กับปืนใหญ่พร้อมกับหญิงคนรัก แต่นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก

พระองค์ที่ 5. กษัตริย์วิลเลียม

ขณะที่พระองค์ทรงม้าอยู่ในสนามรบ ปรากฎว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นทำให้อุปกรณ์ขี่ม้าไปติดกับอวัยวะภายในของกษัตริย์ จนเสียชีวิตในที่สุด

พระองค์ที่ 6. กษัตริย์จอร์จที่ 2 

พระองค์เสียชีวิตในห้องน้ำ เพราะท้องผูก

พระองค์ที่ 7. กษัตริย์จอร์จที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ 

พระองค์หายไปในป่า และกินลูกพีชบาร์เรลเป็นอาหาร จนทำให้ถ่ายท้องจนเสียชีวิต

พระองค์ที่ 8. กษัตริย์เจมส์ 

พระองค์เสียชีวิตหลังจากถูกมือสังหารหลายคนแทง ก่อนที่มือสังหารเหล่านั้นจะไล่พระองค์ให้เข้าไปอยู่ในท่อระบายน้ำที่เต็มไปด้วยอุจจาระ และเสียชีวิตอยู่ในนั้น

พระองค์ที่ 9. กษัตริย์เฮนรี่ 

พระองค์เสียชีวิตเพราะกินปลา lamprey ซึ่งเป็นปลาปรสิต และเป็นอันตรายต่อมนุษย์อย่างยิ่ง

พระองค์ที่ 10. กษัตริย์เฮนรี่ที่ 8

พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่เป็นนักกีฬาตัวยง อีกทั้งยังหล่อเหลาเอาการด้วย แต่ช่วงสุดท้ายของชีวิตกลับหนักถึง 400 ปอนด์ และมีฝีขาที่รักษาไม่หายและเขาก็เสียชีวิตในที่สุด แม้ว่าจะนำศพของเขาใส่โลงแล้ว แต่น้ำเหลืองก็รั่วไหลออกมาจากโลงอย่างน่าสยดสยอง

ไม่ว่าจะเกิดเป็นใคร ความตายก็ไม่เคยปราณีเสมอ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก boredomtherapy และ clipmass