“ยิงเป้า” เปิดคุกบางขวาง “แดนประหาร” สถานที่ลับตา!!!! ที่ไม่ได้เข้ากันง่ายๆ
คนมักรู้จักที่นี่ ในฐานะที่ตั้งของเรือนจำนักโทษเดนตายในคดีอุกฉกรรจ์ของนักโทษที่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป จนถึงโทษประหารชีวิต
เรือนจำกลางบางขวางก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2476 บนเนื้อที่ 136 ไร่ ล้อมกำแพงสูง 6 เมตร มีรั้วไฟฟ้าแรงสูง มีหอคอยพร้อมพลแม่นปืนคอยเป็นเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง
แดนประหารเป็นเรือนหลังเล็กๆ ค่อนข้างเก่าภายในห้องของโรงเรือนหลังเล็ก จะเจอกับแท่นปืน 2 แท่น เล็งตรงไปยังหลักประหาร 2 หลัก ที่มีฉากกั้นสีน้ำเงินเข้มมีเสาไม้ขัดเป็นรูปเหมือนไม้กางเขน ด้านล่างเป็นช่องสลักสำหรับเสียบไม้เล็กๆเข้าไป
เจ้าหน้าที่เล่าว่า เอาไว้สำหรับปรับเป็นที่นั่งของนักโทษ ซึ่งมีขนาดของสรีระร่างกายไม่เท่ากันให้พอดีกับจุดเล็ง หรือจุดที่จะยิงเป้า เพื่อทำการประหาร ส่วนด้านหลังฉากกั้นเป็นกระสอบทรายบังไม่ให้กระสุนปืนทะลุผนังออกไปด้านนอก
ด้านข้างแท่นปืนมีธงสีแดงเสียบไว้ เป็นธงสำหรับให้สัญญาณการประหาร เมื่อเจ้าหน้าที่สลัดธงลง เพชฌฆาตก็จะลงมือเหนี่ยวไกทันที…
แต่ห้องนี้ปลดระวางการใช้งานมานาน 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2546 ที่มีการยกเลิกการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า หลังจากที่ทำหน้าที่ปลิดชีพนักโทษประหารมามากกว่า 200 ศพ กับอีก 100 ศพ ที่มีการยิงเป้าด้านนอกไม่ได้นำเข้ามาประหารในห้อง
มีตัวเลขระบุไว้ว่า นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนโทษการประหารชีวิตจากการตัดคอเป็นการยิงเป้าเมื่อ พ.ศ.2478 มีนักโทษเด็ดขาดถูกประหารชีวิตไปแล้ว 319 ราย เป็นนักโทษชาย 316 ราย และนักโทษหญิง 3 ราย
นักโทษแต่ละคนจะถูกยิงด้วยจำนวนกระสุนไม่เท่ากัน แต่ละชุดของกระสุนจะมี 8 นัด บางคนยิงแค่ชุดแรกก็สิ้นใจแล้ว แต่บางคนต้องยิงถึง 20 กว่านัดกว่าจะตาย
โดยนักโทษประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าคนสุดท้ายคือ น.ช.พันธ์ สายทอง ต้องโทษในคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 4 ขวบ น.ช.เดชา สุวรรณสุก ต้องโทษคดีฆ่าข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 4 ขวบ และ น.ช.สุดใจ ชนะ ต้องโทษคดียาเสพติด
ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์
Leave a Reply