จบ “ปริญญาเอก” จากเงิน 100ล้าน เหลือแค่ 2,000 บาท!!!
ที่ศูนย์การฝึกปฏิบัติงานวนเกษตรเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว จะได้พบ “ดร.เกริก มีมุ่งกิจ” ประธานกรรมการบริหารธนาคารต้นไม้ระดับชาติ และ ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ “คนกล้าคืนถิ่น” ที่ชวนกลับบ้านพัฒนาท้องถิ่น
ดร.เกริก เล่าย้อนความหลังว่า บ้านเกิดอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี อำเภอศรีมโหสถ ก็แค่ลูกเกษตรธรรมดา พ่อแม่ทำไร่ ทำนา ทำสวน ทำให้ผมชอบทำเกษตรตั้งแต่เด็ก ฐานะก็ยากจน แต่ท่านก็อยากให้เรียนหนังสือ เชื่อมั้ย…ว่าผมมีชุดนักเรียนแค่ชุดเดียว ต้องกลับบ้านและซักตากทุกวัน วันไหนอยากให้เสื้อเรียบ ก็พับไว้ใต้หมอน แทนการรีดผ้า…!
“พ่อผมไม่อยากให้ผมเป็นเกษตรกร เพราะงานเกษตรมันงานหนัก ช่วงหนึ่งผมไม่ไปเรียน ท่านจึงใช้งานผมอย่างหนักให้ทำงานตั้งแต่เช้าจนมืด ท่านไม่ได้โหดร้ายกับเรา แค่อยากจะบอกเราว่าทำเกษตรมันหนัก เหนื่อย และมันจน นี่คือ กุศโลบายที่อยากให้เรากลับไปเรียนหนังสือ ซึ่งก็ได้ผล ผมกลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง”
“ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ผมเรียนแย่มาก สอบตกแล้ว ตกอีก คือสอบตกเป็นว่าเล่น เพราะผมไม่ชอบเรียน ไม่เคยวางเป้าหมายเลยว่าชีวิตนี้อยากจะทำอะไร ก็เลยเรียนแย่แบบนี้มาตลอด แต่พอมาถึงจุดหนึ่งที่คิดว่า เราต้องเรียนแล้ว จึงคิดหาวิธี เรียนอย่างไรให้ได้ดี”
สมัยนั้น 1 วิชาจะมีหนังสือ 1 เล่ม/เทอม สมมติว่าหนังสือ 1 เล่มมี 100 หน้า จากนั้นก็มาคำนวณเวลาเรียนว่า 1 วิชาเราเรียนกี่ชั่วโมง เรียนกี่สัปดาห์ สมมติว่า 1 วิชาเรียน 100 วัน จากนั้นนำจำนวนหน้าหนังสือหารด้วยจำนวนวันที่เรียน ตัวเลขที่ได้ออกมาหมายถึง ผมต้องอ่านหนังสือวันละกี่หน้า เช่น 100 หาร 100 เท่ากับ 1 แสดงว่า ต้องอ่านหนังสือ วันละ 1 หน้า ใช้วิธีนี้กับทุกวิชา อ่านหนังสือทุกวัน อ่านไม่เข้าใจผมก็อ่านใหม่ อ่านซ้ำจนกว่าจะเข้าใจ
หลังจากเรียนจบ ม.6 ต่อ มศว บางแสน หรือ มหาวิทยาลัยบูรพา ในปัจจุบัน จากนั้นก็เรียนจนจบปริญญาตรี 4 ใบ เอกอังกฤษ เอกภาษาไทย นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ส่วนปริญญาโท จบคณะบริหารการศึกษา และปริญญาเอกที่ฟิลิปปินส์ สาขา “วนเกษตร”
ดร.เกริก หลังจากเรียนรู้ทางด้านเกษตรจบมาจากต่างประเทศ ก็ได้เริ่มอาชีพแรก คือ ครู ด้วยการสอนวิชาอังกฤษ ในขณะเดียวกัน ก็ทำอาชีพนายหน้าที่ดินด้วย จับมาขายไป รายได้เป็นกอบเป็นกำ จากคนเป็นครูสู่อาชีพนายหน้า ทำให้ ดร.เกริก กลายเป็น “เสี่ยเกริก” รวยอู้ฟู่นับร้อยล้าน
“แต่สุดท้ายก็ถูกลูกค้าหลอกจนขาดทุนย่อยยับ หมดตัว ไม่มีเงิน ผมก็แค่กลับมาอยู่ในสภาพเดิม
“ดีแล้วที่ตกลงมาจะได้เข็ดกับความโลภสักที”…นี่คือเสียงภรรยาที่เตือนสติในวันที่ไม่เหลืออะไร
ขาดทุนคือบทเรียนสอนชีวิตรู้จัก “พอ” วางแผน 3 ปี ยืดอกเป็น “เกษตรกร”
ดร. เกริก เล่าชีวิตหลังผ่านมรสุม ว่า จากเรื่องราวอันเลวร้าย ก็มาอยู่ที่จุดสมดุล จึงมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้เรามีความสุขในตอนนี้และบั้นปลายชีวิต จึงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของในหลวง นั่นคือ กลับไปทำเกษตร ผมเชื่อว่าเกษตรกรเป็นอาชีพที่มั่นคง ไม่ต้องไปแย่งใครทำ ไม่ต้องแข่งขัน และที่สำคัญคือ เป็นอาชีพที่ชอบมาตั้งแต่เกิด จากนั้นจึงเริ่มวางแผน โดยใช้เวลาถึง 3 ปี จึงก้าวมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว
สิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้คือ เผาถ่าน ทำน้ำส้มควันไม้ เพาะพันธุ์ต้นไม้ ปลูกข้าว ขณะนี้ทำมาได้ 9 ปีแล้วและเริ่มจะเข้าสู่แผนระยะยาว และจากการดำเนินตามแผนมา 9 ปี ผมได้พบกับความสุขที่แท้จริงแล้ว ผมรู้สึกว่า การทำเกษตรทำให้ผมอิ่มตัว ได้เจอความสมดุลในชีวิต เพราะผม พอมี พอใจ พอเพียง มีความสุข แค่นี้ผมก็พอแล้ว” ดร.เกริก กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์
Leave a Reply