รวมคดีดัง “เหี้ยมโหด” ทำไมไม่โดนประหาร เพราะ???
ช่วงที่ผ่านมาได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง เปรียบเทียบกับคดีฆ่าคนตายสะเทือนขวัญที่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทย กระทำกับเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม แต่บทลงโทษต่างกัน กลับไม่โดนโทษประหาร เกิดเป็นคำถามคาใจของหลายคน?
คดีฆ่าหั่นศพ แอ๋ม วริศรา โดยกลุ่มนางสาวเปรี้ยว
ฆ่าหั่นศพครึ่งตัว แล้วนำไปฝังดินทิ้งไว้เพื่ออำพรางคดี ซึ่งทั้ง น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว รวมถึง น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ รอดโทษประหารชีวิต เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีพฤติการณ์ไม่ใช่การฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่เป็นการฆ่าโดยเจตนา
สรุปคดีนี้ เปรี้ยว และเอิร์น ถูกจำคุกตลอดชีวิต แต่ให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้หนึ่งในสาม คงเหลือจำคุก 34 ปี 6 เดือน ส่วนแจ้ จำคุก 33 ปี 9 เดือน ขณะที่นายวศิน นามพรม จำคุก 23 ปี 4 เดือน 20 วัน และ น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนซ์ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา
คดีอุ้มฆ่าแม่ลูกศรีธนะขัณฑ์ “ป๋าลอ” ได้อิสรภาพ
หากไปปี 2532 ในคดีเพชรซาอุฯ เมื่อ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ผู้รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ ถูกมอบหมายออกติดตามเครื่องเพชร และจับกุมนายเกรียงไกร เตชะโม่ง ชาวจังหวัดลำปาง โดยให้การว่า ได้ขายเครื่องเพชรให้ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ เสี่ยเจ้าของร้านเพชร จากนั้นทีมสอบสวนของ พล.ต.ท.ชลอ พยายามขอให้ส่งเครื่องเพชรคืน แต่นายสันติไม่ยอม จนนำไปสู่มีการนำตัวนางดาราวดี ศรีธนะขัณฑ์ ภรรยาของนายสันติ และ ด.ช.เสรี ศรีธนะขัณฑ์ ไปกักขัง เพื่อสอบเรื่องเพชร นำไปสู่การฆ่าปิดปากสองแม่ลูกอย่างโหดเหี้ยม พร้อมการจัดฉากเหมือนอุบัติเหตุรถชนเพื่ออำพรางคดี
คดีนี้ยืดเยื้อมานาน ในที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินให้ประหารชีวิต พล.ต.ท.ชลอ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2552 แต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษหลายครั้ง ได้พักโทษเพราะอายุมาก ทุกวันนี้ได้รับอิสรภาพแล้ว รวมถูกขังกว่า 19 ปี
คดีฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร โดย “หมอวิสุทธิ์“
ปี 2544 นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ วางแผนฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ ภรรยาของตนเอง โดยผสมยานอนหลับในอาหารของ พญ.ผัสพร จนเกิดอาการมึนงง ก่อนนำตัวภรรยาไปขังในห้องพัก อาคารวิทยนิเวศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนใช้ของแข็งมีคมฆ่า พญ.ผัสพร และใช้มีดผ่าตัดแล่ชิ้นเนื้ออวัยวะต่างๆ นำไปทำลายในสถานที่ต่างๆ พร้อมทั้งแจ้งความกับตำรวจว่าภรรยาหาย ปลอมหนังสือลางาน และจดหมาย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ได้พิพากษาให้ประหารชีวิต และช่วงที่ นพ.วิสุทธิ์ ถูกขังในเรือนจำได้รับการอภัยโทษหลายครั้ง เนื่องจากปฏิบัติตัวดี และเป็นผู้ต้องขังชั้นเยี่ยม ระหว่างต้องโทษทำประโยชน์ด้วยการช่วยดูแลผู้ป่วย จนได้รับอิสรภาพเมื่อ 4 ส.ค. 2557 จำคุก 10 ปี 7 เดือน
คดีฆ่าหั่นศพน.ส.เจนจิรา โดยหมอเสริม
นายเสริม สาครราษฎร์ นศ.แพทย์ ชั้นปีที่ 2 ในขณะนั้น วางแผนฆ่าหั่นศพ น.ส.เจนจิรา พลอยองุ่นศรี แฟนสาว นศ.แพทย์ชั้นปี 5 เพราะถูกบอกเลิก จึงเกิดความแค้น ใช้ปืนยิงศีรษะ น.ส.เจนจิรา จนเสียชีวิต จากนั้นใช้มีดผ่าตัดชำแหละศพ แยกชิ้นส่วนอวัยวะทิ้งลงชักโครก นำกะโหลกศีรษะทิ้งแม่น้ำบางปะกง คดีนี้นายเสริมรับสารภาพ ถูกจำคุกตลอดชีวิต ปฏิบัติตัวดี ได้รับการอภัยโทษ 5 ครั้ง กระทั่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2554 รวมจำคุก 13 ปี 9 เดือน
ผู้พันตึ๋ง พร้อมสมุน ฆ่าโหด ผู้ว่าฯ ยโสธร
พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง พร้อมสมุน ร่วมฆ่านายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร อย่างโหดเหี้ยม ใช้มีดเชือดคอ ปืนยิงศีรษะ ในห้องพักโรงแรมย่านพระราม 9 ถูกพิพากษาให้ประหารชีวิตผู้พันตึ๋ง และลูกน้องอีก 2 คน แล้วลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต และต่อมาผู้พันตึ๋งได้รับการอภัยโทษ 4 ครั้ง ออกมาเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 และเมื่อออกมาได้ทำผิดเงื่อนไขพักโทษในปี 2559 จึงติดคุกต่ออีก 2 ปี 9 เดือน
คดีแทงน้องมะปินชิงมือถือ
นายวศิน เหลืองแจ่ม หรือ ”น้องมะปิน” นักศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ถูกแทงเสียชีวิต เพื่อแย่งชิงไอโฟน คดีนี้ศาลอุทธรณ์เพิ่งตัดสินไปเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ลดโทษนายกิตติกร วิดาหะ หรือต้อม จากประหารชีวิต เหลือจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากให้การรับสารภาพโดยละเอียด เป็นประโยชน์ต่อตำรวจและยอมรับผ่านสื่อว่าสำนึกผิด มีเหตุบรรเทาโทษ อย่างไรก็ตามคดีนี้ยังไม่จบ ยังมีต่อในชั้นฎีกา
คดีข่มขืนฆ่าน้องแก้ม สุดเหี้ยม
ปี 2557 ”ไอ้เกม” นายวันชัย แสงขาว พนักงานปูเตียงนอนรถไฟ ข่มขืนและฆ่าน้องแก้ม วัย 13 ปี โยนร่างจากขบวนรถไฟลงข้างทาง โหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม ศาลตัดสินประหารชีวิต แม้จะรับสารภาพ แต่เพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน ปัจจุบันไอ้เกมยังถูกขังในเรือนจำกลางบางขวาง โดยต้องติดตามว่าจะรอดจากการประหารหรือไม่?
เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ประหารชีวิต ศาลจะออกหมายเด็ดขาดให้ประหารชีวิตส่งไปยังเรือนจำ เมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวจำเลยหรือผู้ต้องคำพิพากษาให้ประหารชีวิตไปทำการประหารชีวิต
แต่ถ้าจำเลยได้ยื่นฎีกาขอให้พระราชทานอภัยโทษ ภายใน 60 วัน นับแต่วันมีคำพิพากษา ทางราชทัณฑ์ต้องรอฟังพระราชวินิจฉัย หากมีพระราชวินิจฉัยลงมาให้ยกฎีกา ทางราชทัณฑ์ต้องทำการประหารชีวิตจำเลยคนนั้นในทันที
แต่หากมีพระราชวินิจฉัยให้อภัยโทษ เช่น ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ต้องบังคับโทษไปตามโทษจำคุกตลอดชีวิต และหากภายหลังจำเลย สมควรได้ลดโทษตามวิธีของราชทัณฑ์ จะแปลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุก 50 ปี เพื่อนำมาเป็นตัวตั้งในการคำนวณลดโทษต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูล และภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์
Leave a Reply