สังคมอย่าเพิ่งฟันธง!!! แม่น้องปืน ชี้ ตร. คู่กรณี “ตั้งใจยั่วยุก่อนถ่ายคลิป” เพื่อนบ้านยันไม่ใช่เด็กก้าวร้าว!!
ในกรณี นายพายุ แซ่โง้ว หรือ ปืน และแม่สราวรรณ หว่างตาล ในคลิปด่าทอตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ จนเป็นที่วิจารณ์อย่างหนักจากสังคม ต่อมาทั้งคู่จะถูกตั้งข้อหา ส่งผลให้สองแม่ลูกโดนโทษจำคุกคนละ 1 เดือน แต่ให้รอลงอาญา มีกำหนด 1 ปีนั้น
ล่าสุด แม่ของน้องปืน เปิดใจกับรายการต่างคนต่างคิด ถึงกรณีดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ 2 เดือน ลูกชายเคยถูกตำรวจ สน. ดังกล่าว เรียกจับในข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อกและไม่มีใบขับขี่ ขณะที่นำของมาส่งให้ตนไปขาย ซึ่งวันที่เกิดเหตุก็ถูกจับในข้อหาเดิม รวมถึงโดนค้นตัวหายาเสพติดด้วย ต่อมาตำรวจที่เคยมีปากเสียงกันก็ตามมาสมทบ พูดจายั่วยุว่า “เอามันเลย มันเคยหมิ่นกูไว้” จากนั้นก็มีการถ่ายคลิป ส่วนที่ลูกชายถ่มน้ำลายใส่ตำรวจคงเป็นเพราะลูกเห็นช่วงที่ตนถูกเจ้าหน้าที่ผลักอก
นางสาวสราวรรณ เล่าต่อว่า ครอบครัวตนจะทำมาค้าขายตามปกติ ตอนนี้อยากให้เรื่องจบ ที่ออกมาพูดไม่ได้อยากให้ใครเห็นใจ เพราะลูกตนนั้นผิดจริง แต่หากใครเจอเหตุการณ์เช่นนี้ก็คงจะเข้าใจ และตนก็พร้อมที่จะขอโทษตำรวจคู่กรณี
ฝ่ายพ่อน้องปืน นายธวัชชัย แซ่โง้ว เล่าว่า ที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนขยัน หาเงินจ่ายค่าเทอมเองตั้งแต่ ป.4 ด้วยการขายข้าวไข่เจียว ส่วนกรณีนี้ ลูกเป็นคนผิดจริง แต่ทุกอย่างมีเหตุมีผล ไม่อยากให้สังคมรีบตัดสิน และตนไม่เชื่อที่ตำรวจบอกว่ามีพลเมืองดีแจ้งเรื่องลูก เพราะคนทั่วไปคงไม่มีเบอร์ของตำรวจจราจร
ด้านน้องปืน ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอารมณ์โมโหที่ถูกยั่วยุ ขอสังคมอย่าด่วนตัดสินจากคลิป เพราะมีสิ่งที่เกิดก่อนหน้านี้มาแล้ว ระบุว่าตนถูกตรวจหาสารเสพติดจริง แต่ไม่พบสารใด ตอนนี้สงสารพ่อแม่ที่ถูกสังคมโจมตี ยืนยันว่าจากนี้จะกลับตัว และพร้อมขอโทษตำรวจคู่กรณีแบบต่อหน้า
ด้านนางสิริรักษ์ เพื่อนบ้านของนายพายุ เล่าว่า ครอบครัวนี้ขยันทำงานและมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนบ้านเสมอ ส่วน น้องปืน ก็เป็นเด็กกตัญญู ช่วยงานพ่อแม่ ตกเย็นก็กลับเข้าบ้านเสมอ และมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ ยังไม่เคยเห็นว่ามีพฤติกรรมก้าวร้าว ดังนั้นตนจึงตกใจมากที่เห็นคลิป
ไปชมคลิปเต็มๆ กันเลย
https://www.youtube.com/watch?v=JX-oZrDA8FY
ด้าน มาร์ค พิทบูล ก็แสดงความเห็นอย่างนี้
https://www.youtube.com/watch?v=Ar_u_G748Lg
ขอขอบคุณข้อมูล และภาพจาก AMARIN TVHD ขอขอบคุณคลิปวิดีโอจาก Pruesapa Ysm
Leave a Reply