คนลืมไปแล้วว่า ทำไม “เกาหลีเหนือ” ถึงได้เกลียด “สหรัฐฯ” แบบสุดๆ!!! จนอยากก่อสงครามโลกครั้งที่ 3

คนลืมไปแล้วว่า ทำไม “เกาหลีเหนือ” ถึงได้เกลียด “สหรัฐฯ” แบบสุดๆ!!! จนอยากก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 

เกาหลีเหนือ อเมริกา

ต้นตอแห่งความเกลียดชัง มาจาก?

เบลน ฮาร์เดน จากสำนักข่าววอชิงตัน เล่าว่า ต้นตอของความเกลียดชังนี้ เริ่มมาจาก ‘สงครามเกาหลี’ ซึ่งเป็นสงครามที่ถูกลืม ในยุคระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 กับสงครามเวียดนาม กินระยะเวลากว่า 3 ปี ระหว่างปี 1950-1953 แต่ถ้าพูดถึงความโหดร้ายและความบ้าคลั่งของรัฐบาลเปียงยางทีไร เรื่องนี้กลับไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเลย ทั้งที่สงครามนี้ยังไม่จบลงเสียด้วยซ้ำไป เพียงแค่ถูกระงับด้วยข้อตกลงสงบศึก ไม่ใช่ข้อตกลงสันติภาพ ขณะที่การออกไปยุ่งกับเหตุความขัดแย้งในประเทศต่างๆ ของสหรัฐฯ ก็อาจยิ่งประทับภาพลักษณ์การเป็นผู้ประทำของสหรัฐฯ ในมุมมองของชาวเกาหลีเหนือในฝังลึกลงไปอีก

เกาหลีเหนือ สงคราม_NjpUs24nCQKx5e1Ba2eGbeNWX7GGjZfMNhxaJ07d2Zw

หลายคนคงรู้ว่า สงครามเกาหลีนปี 1950 เกาหลีเหนือเริ่มต้นสงครามก่อน ไม่ใช่สหรัฐฯ หรือเกาหลีใต้ พวกเขาภายใต้ความช่วยเหลือของจีนและโซเวียตบุกข้ามเส้นแบ่งเขตที่ 38 และหมายโค่นล้มรัฐบาลเกาหลีใต้ และยึดดินแดนได้เกือบหมดภายใน 2 เดือน จนกระทั่งสหรัฐฯ และสหประชาชาติ ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเกาหลีใต้จึงสามารถขับไล่เกาหลีเหนือออกไปได้ และทำข้อตกลงสงบศึกกัน มีผู้เสียชีวิตหลายแสนคน

สหรัฐฯไปทำอะไรเกาหลีเหนือ?

บรูซ คัมมิง นักประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชิคาโก เขียนในหนังสือ ‘The Korean War: A History’ ว่า “สิ่งที่ชาวอเมริกันแทบไม่เคยรู้หรือจำได้คือ เราปูพรมถล่มเกาหลีเหนือเป็นเวลา 3 ปี โดยแทบไม่สนความเป็นความตายของพลเรือนเลย” มีใครรู้บ้างว่า เครื่องบินรบสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดใส่เกาหลีเหนือมากถึง 635,000 ตัน ระเบิดความร้อนสูงหรือ นาปาล์ม อีก 32,557 ตัน มากกว่าระเบิดทั้งหมด (503,000 ตัน) เยอะกว่าที่สหรัฐฯ ใช้ในต่อสู้กับประเทศญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียอีก

เกาหลีเหนือ สงคราม_NjpUs24nCQKx5e1Ba2eGbeNWX7GGjZmZ8Hie2qBLvHW เกาหลีเหนือ สงคราม_NjpUs24nCQKx5e1Ba2eGbeNWX7GGjZgD84fwo1AtFgj

พลอากาศเอก เคอร์ติส เลอเมย์ หัวหน้ากองบัญชาการยุทธศาสตร์ทางอากาศของสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเกาหลีเปิดเผยว่า สหรัฐฯ สังหารชาวเกาหลีเหนือไป 20% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเท่ากับประชากรชาวโปแลนด์ที่ถูกองทัพนาซีสังหารก่อนเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว

เลอเมย์สารภาพว่า พวกเขาไปที่นั่นเพื่อทำสงคราม และในท้ายที่สุดก็ทำลายเมืองทุกแห่งในเกาหลีเหนือ … เชื่อกันว่า มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตในสงครามเกาหลีมีมากกว่า 3 ล้านคน เกือบทั้งหมดเป็นชาวเกาหลีเหนือด้วย

ขณะที่นายวิลเลียม โอ. ดักลาส อดีตผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐฯ เคยเดินทางไปยังเกาหลีเหนือในช่วงฤดูร้อนของปี 1952 และต้องตกตะลึงกับสภาพของเมืองที่เห็น เขาเล่าว่า “เกาหลีเหนืออยากแค้น, เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ, ความเจ็บปวด, ความทุกทรมาน, ความหิวโหย ที่เกิดจากการโจมตีทางอากาศของเครื่องบินรบสหรัฐฯ” “ผมเคยเห็นเมืองที่ถูกทำลายเพราะสงครามมามากมาย แต่ไม่เคยเห็นการทำลายล้างย่อยยับ จนกระทั่งได้เห็นเกาหลีเหนือ”

ความโหดร้ายของสงครามเกาหลียังไม่หมดเพียงเท่านี้?

ยังมี การฆาตกรรมหมู่ที่ โน กึน รี ผู้อพยพชาวเกาหลี 250-300 คนถูกอยู่ที่สะพานทางรถไฟใกล้หมู่บ้านโน กึน รี ถูกสังหารโดยเครื่องบินรบ และสมาชิกหน่วยทหารม้าที่ 7 ของสหรัฐฯ ความจริงของเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยออกมาในปี 1999 หลังจากสำนักข่าว เอพี ได้ไปสัมภาษณ์ทหารอเมริกันเกษียณอายุหลายสิบคนที่จำได้ว่าในตอนนั้น ผู้บังคับบัญชาของพวกเขาสั่งให้พวกเขาสังหารประชาชนให้หมดอย่างไร

นอกจากนี้ยังมี การฆาตกรรมหมู่กลุ่มสันนิบาต โบโด หรือ โบโด ลีก ซึ่งเป็นกลุ่มของผู้สนับสนุนคอมมิวนิสต์ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยในปี 1950 สมาชิกของโบโด ลีก รวมทั้งผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกจำนวนระหว่าง 100,000-200,000 คน ถูกประหารชีวิตตามคำสั่งของประธานาธิบดี อี ซึง-มัน แห่งเกาหลีใต้ ผู้มีแนวคิดต่อต้านคอมมิวนิสต์ และได้รับการแต่งตั้งโดยสหรัฐฯ

เกาหลีเหนือ สงคราม_NjpUs24nCQKx5e1Ba2eGbeNWX7GGjZjkmAAtzFWCGlh

ภาพถ่ายคู่กันระหว่างนายอี ซึง-มัน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และพลเอก ดักลาส แมคอาร์เธอร์ 

คนเจ็บยังฝังใจ แต่คนทำกลับลืมเลือน??

ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จำไม่ได้หรือไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น นาย ชาร์ลส์ อาร์มสตรอง นักประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เขียนในหนังสือของเขาว่า การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ได้ทิ้งความเจ็บปวดไว้ในใจของชาวเกาหลีเหนืออย่างมาก และทำให้พวกเขาเกลียดกลัวภัยคุมคามจากต่างชาติ

ไม่มีใครรู้ว่า เหตุการณ์ในอนาคตนี้จะลุกลามใหญ่โต จนกลายเป็นสงคราม หรือที่หลายฝ่ายจับตามองว่า อาจจะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ สงครามไม่เคยสร้างความสุข หรือยุติความแค้นได้เลยสักครั้งเดียว

ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก ไทยรัฐ