เรื่องจริงที่ถูกปิด!!!…ใครคือ กษัตริย์อยุธยาที่โหดที่สุดในประวัติศาสตร์
กษัตริย์อยุธยาที่โหดที่สุดในประวัติศาสตร์คือ พระเจ้าเสือ พระองค์ครองราชย์อยู่ 7 ปี จนถึง พ.ศ. 2251 แล้วจึงสวรรคตด้วยพระชนมายุอายุ 45 พรรษา
พระเจ้าเสือ มีโอรส 2 พระองค์ คือ เจ้าฟ้าเพชร เป็นพระมหาอุปราช และเจ้าฟ้าพร เป็นพระบัณฑูรน้อย
ตลอดระยะเวลาการครองราชย์ 7 ปี พระเจ้าเสือไม่มีพระราชกรณียกิจที่สำคัญเลย มีแต่ตกปลา ล่าสัตว์ ราคา ตัณหา และต่อสู้ เคยปลอมตัวไปชกมวยกับชาวบ้าน
พระองค์โปรดปรานการกินเพดานปากปลากระโห้ และไปตกปลาที่สาครบุรี(สมุทรสาคร) บริเวณน้ำกร่อยมีปลากระโห้ชุกชุม
พระเจ้าเสือคือ กษัตริย์ที่ประหารพันท้ายนรสิงห์ หลังจากประหารแล้วก็โปรดให้ขุดคลองมหาชัยเป็นเส้นตรง
ให้พวกฝรั่งส่องกล้องจากปากน้ำสาครบุรีมาเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยาที่พระประแดง จะได้ไปตกปลากระโห้มากินได้สะดวกกว่าเดิม
ส่วนเรื่องตัณหาราคะก็เคยประสงค์จะได้เมียของเจ้าพระยาวิชเยนทร์(คอนสแตนตินฟอลคอน)มาเป็นภรรยาของตนเอง ตั้งแต่เมื่อครั้งรัชสมัยพระนารายณ์
นอกจากนี้ ในพงศาวดารไทยฉบับหนึ่งระบุว่า พระเจ้าสือชอบเสพสมกับเด็กสาวที่ยังไม่มีระดู สำหรับนางที่โดนถองยอดอกตาย “แล้วให้เอาโลงเข้ามาใส่ศพนางนั้นออกไปทางประตูพระราชวังข้างท้ายสนมเนืองๆ และประตูนั้นก็เรียกประตูผีออก มีมาปราบเท่าทุกวันนี้”
ยิ่งไปว่านั้น พระองค์ยังทรงโหดร้ายกับลูกของตัวเองอย่าางไม่ไว้หน้า ครั้งหนึ่ง พระเจ้าเสือเสด็จนครสวรรค์ไปจับช้างป่า เส้นทางเสด็จมีบึงน้ำขวางหน้า จะอ้อมไปก็ไกล จึงรับสั่งให้โอรสทั้งสองพระองค์เกณฑ์คนไปสร้างทางข้ามบึงให้เสร็จภายในคืนเดียว ต้องใช้คน 10,000 คนในงานครั้งนี้ แต่ก็สำเร็จจนได้ ตอนนั้นพระเจ้าเสือประทับช้างนำขบวนข้ามบึง แต่ช้างตกลงไปในหล่ม แม้จะข้ามหล่มนั้นไปได้ แต่พระเจ้าเสือพิโรธโกรธพระโอรสทั้งสองมาก หาว่าลูกจะคิดกบฏ แกล้งทำหลุมไว้ให้พ่อตกหล่มแล้วจะฆ่าแย่งราชบัลลังก์
เมื่อช้างเหยียบถึงฝั่ง พระเจ้าเสือก็หันมาหาโอรสทั้งสองแล้วไล่ฟันด้วยของ้าวไปที่เจ้าฟ้าเพชร พระมหาอุปราช แต่เจ้าฟ้าพรยกดาบขึ้นกันพี่ชายไว้ แล้วพากันขี่ช้างหนีพ่อขอตัวเอง ยิ่งทำให้พระเจ้าเสือโกรธจัดไล่ฟันจนจะตามลูกชายทั้ง 2 พระองค์ทันอยู่แล้ว แต่ควาญช้างท้ายพระที่นั่งแอบเอาขอเกี่ยวท้ายช้างไว้ให้วิ่งช้าลง จึงร้องสั่งให้ทหารตามไปจับลูกชายทั้ง 2 พระองค์มาแทน พอจับได้พระเจ้าเสือก็สั่งให้ทหารทำโทษพระโอรสทั้งสองพระองค์ โดยการโบยคนละยก (30 ครั้ง) แล้วให้จองจำไว้ นอกจากนี้ยังให้โบยรับเสด็จออกทุกเช้า-เย็น จนกว่าจะเสด็จกลับถึงอยุธยา
ยังนับว่าเป็นบุญของพระโอรสทั้งสองที่มีคนไปกราบทูลเจ้าแม่วัดดุสิต (กรมพระเทพามาตย์ ซึ่งเป็นพระอัยกี – แม่ของเจ้าพระยาโกษาขุนเหล็ก และพระยาโกษาปาน และยังเป็นแม่นมของพระนารายณ์) เจ้าแม่วัดดุสิตจึงมาอ้อนวอนขอรับตัวโอรสทั้งสองกลับไปได้สำเร็จ
ช่วงก่อนสวรรคต พระเจ้าเสือประชวรหนัก ด้วยที่ไม่ชอบเจ้าฟ้าเพชร (ลูกชาย) เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงมอบราชสมบัติให้เจ้าฟ้าพร แต่เจ้าฟ้าพรกลับมอบราชสมบัติคืนให้พี่ชาย เจ้าฟ้าเพชรจึงได้ขึ้นครองราชย์ได้ชื่อว่า สมเด็จพระภูมินทรราชา ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ขุนหลวงท้ายสระ และพระองค์ตั้งเจ้าฟ้าพรเป็นพระมหาอุปราช เป็นอันสิ้นสุดรัชกาลของพระเจ้าเสือ ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้านและขุนนาง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก netsuthep และ pantip ขอขอบคุณภาพจาก Patcharodom Singhavasin
Leave a Reply