Category: ย้อนรอยคดีสะเทือนขวัญ

ฆ่าโหดลูกสาวคนดัง “น้องแจน” จับฆาตกรได้แล้ว สารภาพแรงจูงใจมาจากเงินแค่ 1,500 บาทก็ฆ่าคนได้!!! วานก่อน สถานีตำรวจเมืองมหาสารคาม รับแจ้งเหตุ พบศพหญิงสาวเสียชีวิตที่บริเวณพงหญ้าข้างถนนบายพาสรอบเมืองมหาสารคาม หลังตลาดเกษตร ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง จึงรีบรุดมายังที่เกิดเหตุ ในพงหญ้า พบศพหญิงสาว สภาพศพเริ่มขึ้นอืดนอนหงาย บริเวณใบหน้าถูกของแข็งทุบอย่างแรงจนเขียวคล้ำตาถลนออกมาจากเบ้าตาทั้ง 2 ข้าง สวมเสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงยีนส์ขาสั้น ที่แขนขวามีรอยสัก ทาเล็บมือและเท้าสีเหลือง ในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ฟีโน่ สีดำชมพู หมายเลขทะเบียน ขคง 777 มหาสารคาม จอดอยู่ และพบรองเท้าผ้าใบ ยี่ห้อดัง Onitsuka Tiger สีดำ ตกอยู่ข้างรถ 1 คู่ พร้อมพบร่องรอยการต่อสู้บริเวณพื้นหญ้ากระจุยกระจาย แพทย์ลงความเห็นว่า น่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตน่าจะถูกทุบด้วยของแข็งที่บริเวณใบหน้าจนกะโหลกใบหน้ายุบ นายสมชาติ อมรศรีรัตนชัย หรือ “เล็ก สารคาม” รองประธานบริหารพระเครื่องภาคอีสานเขต 2 ได้เดินทางมาดูศพ และยืนยันว่าผู้ตาย…

สาวใหญ่… “สามีตาย” จึงมีสามีใหม่ สุดท้าย “สามีใหม่ตายอีก” คดีสุดสยอง!!! หลายคนคงเคยได้ยินคำโบราณที่ว่า สาวกิน ผ สระ อัว กันมาบ้างแล้ว แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นจริง ไม่เฉพาะแค่ในประเทศไทย มกราคม ปี 2009 ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้น เมื่อ คานาเอะ คิจิม่า วัย 37 ปี สาวร่างท้วมที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตาย โดยเหยื่อของเธอส่วนใหญ่เป็นชายวัยกลางคนที่มีฐานะค่อนข้างดี เริ่มต้นคานาเอะได้นัดพบพวกเขา จากเว็บไซต์หาคู่ ลวงเอาเงินก่อนแล้วจึงฆ่าทิ้ง โดยการอำพรางคดีว่าเหยื่อฆ่าตัวตาย ตำรวจคาดว่า มี 3 ศพที่เป็นฝีมือของคานาเอะ แต่เธอก็ไม่ได้สารภาพว่ายังมีศพอีกหรือไม่ สองคนแรกได้รับสารพิษคาร์บอนมอนอกไซด์จำนวนมากเกินไป ส่วนรายสุดท้ายเสียชีวิตเพราะจมน้ำ จุดเริ่มต้นของการสืบคดีเกิดขึ้นเมื่อตำรวจพบพิรุธเกี่ยวกับผู้ตายทั้งหมดว่ารู้จักกับคานาเอะ ก่อนที่จะสืบสวน และพบชื่อของเธออยู่ในเว็บไซต์หาคู่ ในเว็บเธอสร้างภาพว่าตัวเองเป็นสาวไฮโซ มีรายได้ดี และต้องการเป็นเจ้าสาวในอนาคต ซึ่งอันที่จริงแล้วเธอเป็นเพียงแค่หญิงสาวร่างอวบธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น คานาเอะใช้อุบายเหล่านี้หลอกล่อเหยื่อให้เข้ามาติดกับ จนกระทั่งตำรวจได้เข้าจับกุมคานาเอะที่อพาร์ทเมนต์ของเธอ ในนั้นตำรวจได้พบยาเสพติดจำพวกออกฤทธิ์ให้ง่วงนอนจำนวนมาก คาดว่าคานาเอะน่าจะใช้สารเสพติดเหล่านี้ในการสังหารเหยื่อ ก่อนอำพรางคดีให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุหรือการฆ่าตัวตาย ซึ่งตรงกับผลการชันสูตรศพที่พบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสามคนล้วนมีร่องรอยการใช้ยาเสพติดจริง การพิจารณาคดีของคานาเอะในชั้นศาล อัยการได้กล่าวว่าคานาเอะสังหารเหยื่อโดยเจตนาเพื่อหวังชิงทรัพย์ในขณะที่ทนายของคานาเอะพยายามแก้ต่างให้เธอว่า เหยื่อทั้งหมดเสียชีวิตเนื่องจากฆ่าตัวตาย เพราะถูกคานาเอะปฏิเสธรัก!!!…

“นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน” นักโทษประหารหญิง ถูกยิงแต่ไม่ยอมตาย!!! นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน เธอเป็นนักโทษประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของไทย ซึ่งที่ผ่านมามีนักโทษประหารหญิงเพียงไม่กี่คน เรื่องราวของนางกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน เชื่อกันว่า มาจากหนังสือที่เชาวเรศน์ จารุบุณย์ เพชฌฆาตคนสุดท้ายที่ลั่นกระสุนปืนประหารชีวิตนักโทษหลายราย ก่อนที่การประหารชีวิตไทยจะเปลี่ยนเป็นฉีดยาพิษเข้าเส้นเลือดแทน ซึ่งหนังสือดังกล่าวถูกตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้คนต่างชาติรู้เรื่องการประหารชีวิตยิงเป้าของคนไทยมากกว่าคนไทยรู้เองซะอีก นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนินเป็น พี่เลี้ยงเด็กชาวโคราชเข้ามาหางานทำที่กรุงเทพ ครอบครัวที่ไว้ใจได้ชวนเธอมาเลี้ยงเด็กชายอายุ 6 ขวบ ในวันที่เกิดเหตุนั้นเธอได้ไปรับเด็กชายที่โรงเรียน ซึ่งคุณครูก็ไม่ได้รู้สึกผิดแปลกอะไร เพราะเป็ตกิจวัตรประจำวันของเธอ แต่วันนี้นางกิ่งแก้วได้ร่วมมือกับพวกโจร (2 คน) จับเด็กชายไปเรียกเงินค่าไถ่จากพ่อแม่เด็ก แผนการคือ พ่อแม่เด็กจะต้องโยนเงินออกจากรถไฟที่กำลังแล่นให้ใกล้กับธงที่ผู้ร้ายกำหนด ปัญหาคือเวลาส่งมอบเงินเป็นช่วงกลางคืน ผู้ปกครองเด็กมองไม่เห็นธง และส่งเงินผิดพลาดไม่ตรงจุดที่กำหนด ทำให้การเลือกเปลี่ยนเงินค่าไถ่ล้มเหลว พวกโจรโกรธแค้นและแทงเด็กตายเพื่อปิดปาก แม้ว่านางกิ่งแก้วพยายามห้ามพวกโจรไม่ทำร้ายเด็ก แต่สุดท้ายเธอกลับกลายเป็นคนที่แทงเด็กตายและนำศพไปฝัง ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี (จากการชันสูตรศพต่อมาพบว่ามีเศษดินในปอดแสดงให้เห็นว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่ หลังฝังศพของเขาบนดินแล้ว) ด้วยการกระทำของเธอในการฆาตกรรมเด็กชาย หลังจากโดนจับได้นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนินถูก ตัดสินประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า โดยการยิงเป้าของไทยนั้น นักโทษถูกผ้าปิดตาและผูกติดกับเสาหลักรูปไม้กางเขนฟันหน้าเข้ากับกำแพง ไม่ว่าจะเป็นเอว หน้าอก ข้อศอกทั้งสองข้างต้องติดกับไม้กางเขนทั้งสองด้าน และที่ข้อมือมีลักษณะพนมมือโอบรอบเสา ซึ่งต้องมัดให้แน่นจนนักโทษขยับตัวไม่ได้ และจากนั้นก็ตั้งปืนไรเฟิลอัตโนมัติชี้ไปยังหัวใจบริเวณแผ่นหลังของนักโทษประหาร…

10 อันดับ “วิทยาศาสตร์” ที่ “ทำการทดลองกับมนุษย์” ได้โหดที่สุดในโลก!!!! แม้ปัจจุบันการทดลองในมนุษย์ยังเป็นสิ่งต้องห้าม เช่นเดียวกับในอดีต แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์หลายคนที่พยายามจะทดลองกับมนุษย์โดยตรง จนกลายเป็นความโหดร้ายที่กล่าวขานกันไปทั่วโลก เริ่มต้นกันด้วยอันดับที่ 10 การทดสอบคุกสแตนฟอร์ด (Stanford Prison Experiment) เป็นการทดสอบทางจิตวิทยา เพื่อการศึกษาการตอบสนองของมนุษย์ เมื่อถูกจับกุมและผลกระทบต่อพฤติกรรมเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังในเรือนจำ เป็นการทดลองในปี 1971 โดยนักจิตวิทยา “ฟิลิป ซิมบาโด (Philip Zimbardo)” ของมหาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยให้อาสาสมัครเป็นนักศึกษาทั้งหมด 20 คน มาเล่นบทนักโทษและผู้คุม (ทั้งหมดไม่รู้จักกันมาก่อน)ในคุกจำลองในชั้นใต้ดิน ของอาคารจิตวิทยาสแตนฟอร์ด 8 คนที่ถูกสุ่มจะได้เป็นผู้คุมจะได้ชุดฟอร์มและอุปกรณ์ครบมือ อีก 12 คนที่เหลือเป็นนักโทษ ซึ่งไม่มีสิทธิในฐานะความเป็นมนุษย์ใดๆทั้งสิ้น การทดลองจะทำใน 14 วันหรือสองสัปดาห์ แต่ปรากฏว่าล้มเหลวใน 6 วันเท่านั้น เนื่องจากบทบาทของอาสาสมัครเกินขอบเขต อันตรายและมีผลกระทบทางจิตใจ ทั้งที่ตอนแรก พวกเขายังยิ้มแย้มหยอกล้อเล่นหัวกันแบบเพื่อน แต่เมื่อการทดลองนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าอาสาสมัครแต่ละคนแต่ละฝ่าย ค่อยๆ อินกับบทบาทสมมติของตนมากขึ้นเรื่อยๆ  1 ใน 3…

“ผู้หญิง” ที่ถูกขนานนามว่า “โหดเหี้ยมอำมหิตที่สุดในโลก”!!!! หมายเหตุ รูปภาพด้านบนเป็นรูปภาพเหมือนของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ของเธอเพียงรูปเดียวที่มีอยู่ เขียนขึ้นในปี ค.ศ.1585 ขณะที่เธอมีอายุ 25 ปี แต่เป็นที่น่าเสียดายที่รูปภาพต้นฉบับถูกขโมยไปในช่วงปี 1990 ปัจจุบันยังคงหาไม่พบ ผู้หญิงคนนี้ชื่อ “อลิซาเบธ บาโธรี่” (Elizabeth Bethory) หญิงสาวที่เกิด ในตระกูลบาโธรี่ (Bethory Family) ตระกูลขุนนางชั้นสูงของฮังการี่ (Hungary) และสืบสายมาจากตระกูลแฮบสเบิร์กอันเก่าแก่ของยุโรป ตระกูลบาโธรี่นี้ร่ำรวยและมีอำนาจมากมาย ปกครองแคว้นทรานซิลวาเนียมาหลายต่อหลายยุคสมัย  แต่ถึงอย่างนั้น ตระกูลนี้ก็เป็นตระกูลเก่าแก่ที่มีการแต่งงานกันเองในหมู่เครือญาติเพื่อรักษา ทรัพย์สมบัติและอำนาจเอาไว้ ซึ่งนั้นทำให้เกิดความบกพร่องทางพันธุ์กรรมขึ้น ภาพจำลองปราสาทของอลิซาเบธ บาโธรี่ ผู้รู้สันนิษฐานว่า “อลิซาเบธ” เองก็ติดโรคนี้เช่นกัน เพราะเธอมีอาการป่วยเป็นโรคปวดหัวเรื้อรัง มีคำกล่าวว่า “มีอยู่ครั้งหนึ่ง อลิซาเบธ บาโธรี่ เกิดปวดหัวอย่างหนัก ซึ่งทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้เธอกัดเนื้อของสาวรับใช้จนขาด ทำให้สวยใช้ร้องด้วยความเจ็บปวด และเป็นที่น่าประหลาดใจคือ อลิซาเบธ บาโธรี่ ก็หายปวดหัวในทันที” และนั้นเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ของ ฆาตกรหญิงที่อำมหิตที่สุดในโลก ด้วยจำนวนเหยื่อที่คาดว่าสูงถึง…

7 ดาราไทยที่เคย “เฉียดตาย” แต่ “รอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ”!!! ลองย้อนกลับไปดูเหตุระทึกขวัญ 9 เหตุการณ์ ที่ครั้งหนึ่งเหล่าดาราคนดังเฉียดเข้าใกล้ ความตาย จนต้องบันทึกเอาไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ของวงการบันเทิงไทย คนที่ 1 เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ วันที่ 11 ธันวาคม 2541 ได้เกิดอุบัติเหตุกับเที่ยวบิน TG261 สายการบินไทย กำลังมุ่งหน้าสู่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งประสบอุบัติเหตุตก หลังพยายามนำเครื่องลงจอดอยู่หลายครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น “เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” เป็นผู้โดยสารและเป็น 1 ใน 45 คนที่รอดชีวิต โดยได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย จนได้รับฉายาในเวลานั้นว่า “เจมส์กระดูกเหล็ก” เพราะผ่านประสบการณ์เครื่องบินตกแต่ไม่ตาย คนที่ 2 บี้ KPN วันที่ 11 กรกฎาคม 2555 นักร้องหนุ่มลูกครึ่ง “บี้ ธรรศภาคย์ ชี” หรือ “บี้ KPN”…

พบต้นเหตุแล้ว!!! ไฟนรกเผาหอพัก นร. “7ศพ” เสียชีวิตมรณะ เพราะสิ่งนี้??? พ่อแม่เด็กถึงกับอึ้ง หลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญคนทั้งประเทศ กับกรณีเพลิงนรกย่างสด 17 นักเรียน คาหอพักโรงเรียนที่เชียงราย ด้วยอายุแค่ 5-12 ปี บาดเจ็บอีก 21 คน เผยเด็กน.ร.กำลังนอนในหอพัก ก่อนเกิดไฟลุกไหม้จากชั้นล่างลามขึ้นชั้นบน ครู-น.ร.ใช้ผ้าผูกโรยตัวหนีตายอลหม่านจากอาคาร แต่บางคนออกมาไม่ทันตาย 17 เจ็บอีกเพียบ ด้านน.ร.หญิงเห็นเหตุการณ์ที่เป็นผู้รอดชีวิต ด.ญ.สุชาดา กองอาสา หรือน้องพลอย อายุ 11 ขวบ กล่าวว่า “ก่อนเกิดเหตุทุกคนหลับกันแล้วเกือบทั้งหมด แต่ตนได้ไปเข้าห้องน้ำและสังเกตเห็นเปลวไฟลุกไหม้มาจากชั้นล่าง จึงไปบอกเพื่อนแต่ละห้อง แต่บางส่วนกลับไม่เชื่อและปิดประตูห้องเพื่อนอนหลับต่อ จึงไปบอกครูและแจ้งคนอื่นๆ ให้หลบหนี แต่เนื่องจากไฟได้ล้อมด้านล่างหมดแล้ว จึงจำวิชาลูกเสือเนตรนารีที่ครูเคยสอน ด้วยการนำผ้ามาผูกเป็นเชือกยาวๆ แล้วห้อยตัวลงมาทีละคน ซึ่งก็มีบางคนตกลงมาได้รับบาดเจ็บ บางคนก็รอดมาได้ แต่เจ็บเล็กๆ น้อยๆ ส่วนหลายคนที่ไม่เชื่อก็ติดค้างอยู่ด้านบน ส่วนครูผู้หญิงที่ช่วยกันผูกผ้าได้ตกลงมาช่วงห้อยตัว ทำให้บาดเจ็บที่หลังและขา” พฐ.ชี้ต้นเหตุจากขาหลอดไฟนีออนหลวม ทำให้หลอดไฟร้อนจนละลาย หยดใส่ผ้าที่กองไว้จนลุกไหม้ ขณะที่รมว.ศธ.สั่งโรงเรียนทั่วปท.ทบทวนมาตรการป้องกันเหตุ หวั่นเกิดเหตุสลดซ้ำ โดยเฉพาะโรงเรียนสูง…

สาวไปปาร์ตี้เผลอเมาหลับ โดนเพื่อนตัวเองข่มขืน ยังไม่พอมาทำแบบนี้อีก รู้แล้วจะช็อก!! เว็บไซต์ เร็นทีวี ของรัสเซียรายงานว่า ขณะนี้ในโลกออนไลน์มีเดียมีการเผยแพร่ภาพวัยรุ่นชายเปลือยกายล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวบนเตียงนอน เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองตูเมน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัสเซีย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มวัยรุ่นชายและหญิงสาวจัดงานปาร์ตี้กันในห้องพักเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ จนกระทั่งเพื่อนหญิงเมาหนักแล้วนอนหลับไป เพื่อนชายจึงช่วยกันถอดเสื้อหญิงสาวออกจนหมด จากนั้นวัยรุ่นชายคนหนึ่งในกลุ่มจัดการเปลื้องผ้าตัวเองก่อนลงมือข่มขืนกระทำชำเราเพื่อนหญิง โดยเพื่อนคนอื่นๆ ช่วยกันถ่ายภาพแล้วนำไปโพสต์ลงในโซเชี่ยลมีเดีย ไม่มีใครห้ามใครเลย โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตรายหนึ่งกล่าวว่า เด็กสาวในภาพเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับวัยรุ่นชายกลุ่มนี้ ซึ่งมีพฤติกรรมชอบเพศสัมพันธ์กับเพื่อนผู้หญิงแล้วถ่ายภาพเก็บไว้ โดยตำรวจกำลังติดตามวัยรุ่นทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก ren.tv

ปิดตำนานลูกทุ่งชื่อดัง “แดง จิตกร” อย่างสงบ… คลี่ปมดราม่าเงินบริจาค จนถึงเรื่องการจากไปที่ไม่มีวันหวนกลับของแดง จิตกร “แดง จิตกร” อดีตลูกชาวนาจบ ป.4 ก้าวขึ้นสู่เวทีนักร้องลูกทุ่งอีสานชื่อดัง! แต่แล้วชีวิตพลิกผัน จากที่เคยรุ่งโรจน์สุดขีด กลับพบว่าตัวเองป่วยหนักเป็นมะเร็งลำคอ ระยะสุดท้าย ต้องทิ้งไมค์ร้องเพลงแล้วเอาเงินที่มีอยู่ไปรักษาจนหมดตัว กระทั่งเสียชีวิตด้วยวัย 46 ปีเท่านั้น “แดง จิตกร” หรือนายสมจิต เกตภูเขียว นักร้องลูกทุ่งอีสานชื่อดัง และเป็นเจ้าของตำนาน “ตีป่าล้อมเมือง” ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งลำคอระยะสุดท้าย เมื่อเวลา 20.40 น.วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ประวัติส่วนตัว “แดง จิตกร”  ภูมิลำเนาเป็นคน จ.ขอนแก่น ปัจจุบันอายุ 46 ปี จบการศึกษาเรียนหนังสือชั้น ป.4 เพราะพ่อแม่เลิกกัน จึงอยู่กับยายมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่เป็นลูกหลานชาวนาชาวไร่ ทำให้มุมานะอดทนขยันทำงานสารพัด แต่ด้วยใจรักเสียงเพลงและมีพรสวรรค์ จึงพยายามผลักดันตัวเองเข้าไปสมัครเป็นคอนวอยวงดนตรีชื่อว่า “วงชุมแพ คอมพิวเตอร์” ด้วยใจที่คิดฝันว่าสักวัน หัวหน้าวงจะให้โอกาสร้องเพลงบ้าง แต่แล้ววันหนึ่งโชคของเข้าข้างแดง เมื่อนักร้องประจำวงป่วยกะทันหัน…

ช็อกทั้งแดนประหาร!!! คำสารภาพของนักโทษ แต่งงานได้ 2 วันเขาทำสิ่งเลวร้ายแบบนี้ ทำไม!!?   นักโทษชาย อำไพ ใสโพธิ์ อายุ 26 ปี ได้ก่อคดีพรากผู้เยาว์ ฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายและเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน เหตุเกิดพื้นที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเม.ย. ปีพ.ศ. 2541 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าหลานสาวชื่อ ด.ญ. กุลธิดา ใจกล้า อายุ 2 ขวบ 3 เดือน พ่อแม่ทำงานอยู่ที่กทม. เด็กน้อยได้หายออกไปจากบ้านเมื่อตอนสายๆ มีคนเห็นว่าเธอไปซื้อขนมที่ร้านค้า กับผู้ชายที่อยู่ในอาการมึนเมา แล้วนั่งรถมอเตอร์ไซต์หายไปทางท้ายหมู่บ้าน กลัวว่าจะถูกล่อลวงไปทำมิดีมิร้าย เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันออกค้นหาตัว ด.ญ.ทันที จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน ทุกคนต้องตกตลึงเบือนหน้าหนีภาพดังกล่าวทันที เมื่อพบว่าบริเวณข้างจอมปลวก มีร่างของด.ญ.กุลธิดานอนเปลือยกายเสียชีวิตอยู่ สภาพศพถูกตีด้วยของแข็งจนกะโหลกยุบ เลือดและเศษสมองกระจายเกลื่อนส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง บริเวณอวัยวะเพศมีร่องรอยถูกข่มขืนจนฉีกขาด เลือดไหลนอง เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าด.ญ.กุลธิดาน่าจะเสียชีวิตไม่เกิน 1 ชั่วโมง และคนร้ายน่าจะยังหนีไปได้ไม่ไกล จึงได้วิทยุแจ้งให้ช่วยกันออกติดตามจับกุมโดยด่วน เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้ซุ่มอยู่บริเวณท่ารถในตลาด และได้พบชายต้องสงสัยอยู่ในอาการมึนเมา จึงได้เข้าตรวจค้น ชายคนดังกล่าวเมื่อรู้ตัวว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ ก็มีอาการหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด…