Category: ย้อนรอยคดีสะเทือนขวัญ

สาวถูกรุมโทรม บนเกาะแรด 30 ปีก่อน… สุดท้ายโดนจับแต่งงานกับคนที่รุมโทรม (เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย) จากกรณีเด็กหญิงวัย 14 ถูกชายในหมู่บ้านเกาะแรดกว่า 40 คนรุมโทรมจนเป็นข่าวดังเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุด สำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ในหมู่บ้านเกาะแรด จ.พังงา  ได้พบข้อมูลใหม่ว่า มีสาวคนหนึ่ง ก็ถูกรุมโทรมบนเกาะนี้เมื่อ 30 ปีก่อนเช่นกัน สาวคนนี้เล่าต่อว่า ตัวเองคือหนึ่งในสองของหญิงสาวที่เคยเกือบตกเป็นเหยื่อถูกชายในหมู่บ้านนี้ประมาณ 5-6 คนรุมโทรม แต่รอดมาได้ โดยในวันเกิดเหตุมีการจัดเลี้ยงงานแต่งงานของบ่าวสาวคู่หนึ่ง ทำให้คนพลุกพล่าน พ่อของเธอตามเธอให้กลับบ้าน เช้าวันถัดมาทราบข่าวว่า มีหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายอายุ 16 ปี เป็นคนต่างถิ่น ถูกรุมโทรมแทน โดยคนก่อเหตุเป็นชายในหมู่บ้านราว 5-6 คน สุดท้ายเรื่องดังกล่าวถูกปกปิด เพราะกลัวหมู่บ้านเสื่อมเสียชื่อเสียง ต่อมาทราบว่าหญิงสาวคนนั้น ถูกจับให้แต่งงานกับชายในหมู่บ้าน เพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่มีใครอยากพูดถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นอีกเลย ไปชมคลิปกัน https://www.youtube.com/watch?v=KMsnCHuW51M&feature=share มนุษย์ทุกคนย่อมต้องการพื้นที่ความปลอดภัยสำหรับชีวิต และครอบครัวของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น หวังว่าเหตุการณ์อันโหดร้ายทารุณนี้จะไม่เกิดกับชีวิต และครอบครัวไหนอีกเลย ขอขอบคุณข้อมูล และคลิปวิดีโอจาก สํานักข่าวไทย TNAMCOT

รวม 3 ตำนาน “บ้านผีเฮี้ยน” ที่หลอนจนเป็นข่าวดัง… บ้านหลังแรก อาถรรพณ์บ้านเก่าแก่ ใจกลางกรุง ‘ผีพระยา’ เจ้าของบ้าน เป็น “บ้านไม้ทรงยุโรป” หลังหนึ่งในย่านสามเสน กรุงเทพมหานคร โดยมีเสียงร่ำลือกันว่า บ้านไม้ทรงยุโรปหลังนี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จำนวน 3 หลัง ซึ่งเดิมเป็นของ พระยาประเสริฐคมกฤษณ์ และถูกขายกันมาหลายทอด จนสุดท้ายอยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ ว่ากันว่าเป็นบ้านที่มีผีเจ้าของบ้านสิงอยู่ ลูกสะใภ้ของพระยาประเสริฐผูกคอตายขณะตั้งครรภ์ที่บ้านหลังนี้ และยังมีทหารนายสิบตายอีก ต่อมา นายโสภณ ดำนุ้ย รองผอ.องค์การสวนสัตว์ ได้ย้ายครอบครัวมาอยู่ นายโสภณเจอ ชายแก่นุ่งโจงกระเบน เสื้อราชปะแตนมาหา พร้อมด้วยลูกสะใภ้อุ้มเด็กหัวจุก มาทวงค่าเช่าที่ดิน นายโสภณจึงต้องเขียนเช็คจ่ายเงินค่าเช่าที่ นำไปวางไว้ที่ศาลเจ้าหลังบ้านทุกๆ เดือน ขณะที่ นายชนะ ประพันธ์วงศ์ เจ้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ก็ออกมายืนยันว่าเคยเห็น “ผีพระยา” เหมือนกัน ทั้งในความฝันและเห็นกับตา ดึกๆ ก็มักจะเห็นคนโบราณนั่งตำหมากอยู่เต็มสนามหญ้า พร้อมเล่าว่าครั้งหนึ่งผีเจ้าของบ้านยังเคยช่วยชีวิตเอาไว้ ตอนเครียดกับปัญหาเศรษฐกิจ เตรียมปืนจะมายิงตัวตาย…

แพะม่าอีกหรือไม่??? ย้อนรอย “คดีน้องแอปเปิ้ล” นักเรียนม.6 ที่ถูกแทงด้วยมีด รวม 17 แผล พร้อมลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด!!! ปัจจุบันคดีของน้องแอปเปิ้ล กำลังอยู่ในระหว่างสืบพยานโจทก์ ทั้งในศาลจังหวัดระนองและ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง เพราะคดีนี้มีจำเลยที่เป็นเยาวชนถึง 2 ใน 4 คน ซึ่งกำลังจะมีการนัดสืบพยานครั้งต่อไปในวันที่ 8 และ 9 สิงหาคม 2560 นั้น เราไปย้อนดูคดีนี้กันอย่างละเอียดกัน ญาติผู้ต้องสงสัย(ที่หลายคนมองว่าเป็นแพะ) ร่วมฟังการพิจารณาคดี  วันที่ 28 กันยายน พศ.2558 เวลาประมาณ 19.50 น. กู้ภัยเมืองระนองได้รับแจ้งเหตุว่า มีคนนอนตายบริเวณริมทางถนนด้านข้างซอย สะพานปลา เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ก็ได้พบเด็กสาวนอนจมกองเลือดอยู่ ทราบชื่อภายหลังว่า นางสาวอรวี สำเภาทอง หรือ น้องแอปเปิ้ล อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสตรีระนอง 20 ต.ค.2558 ตำรวจ สภ.เมืองระนองรวบตัวพม่า…

ย้อนรอยเกาะเต่า “3 ปี” นักท่องเที่ยวต่างชาติตาย 7 ราย สื่อนอกขนานนามว่า “เกาะแห่งความตาย” แฉยับตำรวจรับใช้มาเฟีย แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ถึงการเสียชีวิตปริศนาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายที่ 7 กับกรณีสาวเบลเยี่ยมแขวนคอเสียชีวิตบนเกาะเต่า เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตยังติดใจในหลายประเด็น ทั้งสาเหตุการเสียชีวิต และผลพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพราะไม่เชื่อว่ามีเหตุจูงใจที่น.ส.เอลิเซ่ โซฟี วินซีน เอ็นมานูเอล หรือเอลิส จะฆ่าตัวตายในขณะที่ใกล้จะกลับประเทศของตัวเองแล้วด้วยซ้ำ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ต้องออกคำสั่งโดยด่วนมอบหมายให้ให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามลงพื้นที่ไปคลี่คลายข้อสงสัยที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ทันที แม้จะถูกสื่อต่างชาติตั้งฉายา “เกาะฆาตกร” เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม รอยไปในปี 2557-2560 ถือเป็นเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตมาก่อนหน้านี้ถึง 6 ราย คือ – คดี นายเดวิด มิลเลอร์ และ น.ส.ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ ซึ่งถูกฆาตกรรมเมื่อเดือนกันยายน 2557 ถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญมากที่สุด – คดีนายซูเตอร์ ฮานส์ปีเตอร์…

ย้อนรอยคดีโหด “ศักดิ์ ปากรอ” ฆ่าแขวนคอพ่อแม่ลูก 5 ศพ โทษประหาร สุดท้ายถูกปล่อยตัว!!!  หากย้อนกลับไปเมื่อปีพ.ศ. 2540 คดีที่สะเทือนขวัญคนไทยมากที่สุดคือ ฆาตกร ศักดิ์ ปากรอ กับคดีฆ่าแขวนคอ 5 ศพ ครอบครัวบุญทวี ที่จังหวัดสงขลา เหตุการณ์ที่ยากจะลืมเลือน เพื่อนร่วมงานของ นายประภาส บุญทวี หัวหน้าสถานีอนามัยบ้านระวะ ได้ไปตามนายประภาสที่บ้านแต่กลับไม่มีคนมาเปิดประตู เห็นผิดสังเกตจึงเข้าไปดูในตัวบ้านพบภาพน่าสยดสยองเป็นศพของครอบครัวบุญทวีถูกแขวนคอกับราวบันได ศพ นายประภาส บุญทวี และลูกชาย 3 คนของเขา ประกอบด้วย ด.ช.กัมปนาท,ด.ช.ชัชวาลย์,ด.ช.ปรนนท์ ส่วนศพของ นางเจียมจิต บุญทวี ภรรยาของประภาส ถูกมัดมือมัดเท้าทุบศีรษะ และใบหน้าด้วยของแข็งตายอนาถอยู่บนเตียงนอนของครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาข้อมูลของครอบครัวบุญทวี แต่ก็ไม่พบปมแค้นใดๆที่นำมาสู่การฆ่ายกครัว เจ้าหน้าที่จึงสืบไปจนพบลุงอ่ำ อายุ 70 ปี เพื่อนบ้านครอบครัวบุญทวีที่กลายเป็นพยานสำคัญยอมเปิดเผยคดีว่า ตนได้เห็นคนร้ายจับเด็กในบ้านแขวนคอ โดยคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คนที่ไม่ใช่คนแถวนี้และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ตำรวจจึงพุ่งเป้าไปเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ เนื่องจากข้าวของในบ้านถูกรื้อกระจุยกระจาย พระเครื่องหลายร้อยองค์ที่นายประภาสร่วมจัดสร้างกับเจ้าอาวาสวัดป่าขาด ใน…

ย้อนรอย “คดีสุสานทารก 2,002 ศพ” ณ วัดไผ่เงิน คดีสุดสะเทือนใจคนไทย แถมดังไปทั่วโลก!!! ช่วงปีพ.ศ. 2553 เหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญคนไทยมากที่สุด เห็นทีจะหนีไม่พ้น “คดีสุสานทารก 2,002 ศพ”  ที่วัดไผ่เงินโชตนาราม ย่านบางคอแหลม กรุงเทพฯ เรื่องแดงขึ้น เมื่อสุนัขคาบถุงพลาสติกห่อศพทารกมาแทะกลางตลาดนัด ส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ ชาวบ้านมาเห็นถึงกับผงะ จึงตามสุนัขไปหยุดที่โกดังเก็บศพช่องที่ 17 ของวัด พอเปิดโกดังก็เจอถุงพลาสติกห่อศพทารกกองเป็นพะเนินเหม็นเน่า ชาวบ้านตกใจและขวัญผวากันมาก รีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ตะลึง! ศพทารกนับร้อยกองพะเนิน??? ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ลงพื้นที่ตรวจสอบพบศพเด็กทารก 348 ศพ ยัดใส่ถุงพลาสติกหลากหลายสีกว่า 250 ถุง สภาพศพถูกแยกสิ้นส่วนสมอง กะโหลก แขน และขา ซึ่งบางศพคาดว่ามีอายุประมาณ 7-8 เดือน อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมคลอด น่าอนาจใจที่ศพถุงเล็กถุงน้อยเหล่านี้ เยอะมากและกองทับถมกันจนทลายล้นออกมา ตำรวจสืบเบาะแสจนไปถึง นายสุเทพ ชะบางบอน หัวหน้าสัปเหร่อ และนายสุชาติ ภูมิ ผู้ช่วยสัปเหร่อ…

ตำนาน… “นิวเวิลด์” ห้างถล่มกลางกรุง ที่หลายคนลืม!! หลายคนอาจไม่รู้จักห้าง “นิวเวิลด์” ห้างแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตเมื่อปี 2526 เจ้าของห้างคือ “แก้ว ผูกทวนทอง“ หลังจากเปิดให้บริการก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง นอกจากจะมีสินค้าให้เลือกมากมายแล้ว ยังเป็นห้างใจกลางบางลำพูที่มีความโดดเด่น เพราะมีลิฟต์แก้วอยู่หน้าห้าง ต่อมาห้างได้ขออนุญาตต่อเติม 2527 แต่ทาง กทม. ไม่อนุญาต แต่ทางห้างกลับฝ่าฝืนคำสั่งและเปิดดำเนินการตามปกติ ปี 2528 ทาง กทม. ได้ทำการฟ้องศาลเพื่อสั่งให้ทางห้างรื้อถอนตั้งแต่ชั้น 5 ถึงชั้นที่ 11 เนื่องจากพบว่า เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติกรุงเทพมหานคร และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แต่ทางห้างยื้อเวลา จนกระทั่งมีคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 466/2547 ให้ห้างรื้อถอนส่วนต่อเติมชั้น 5-11 และทางผู้บริหารห้างขณะนั้น คือ นายสิทธิ ประถมทอง ได้ดำเนินการรื้อถอนอย่างล่าช้า แถมยังให้ร้านที่เช่าพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 1-4 เปิดค้าขายตามปกติ ทางกรุงเทพมหานคร จึงยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอรื้อถอนเอง แต่ทางเจ้าของห้างอ้างว่า ค่ารื้อถอนของทาง กทม. เสนอมา คือ…

สังคมไทยช็อค… เด็ก 11 ขวบ ใช้ตะเกียบลนไฟจี้ตัวเอง – วางยาฆ่าย่าที่เลี้ยงมา บอก… ไม่รักใครเลย!!!! สังคมไทยถึงกับช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเห็นเด็กชายวัยเพียง 11 ขวบ หนีออกจากบ้านในสภาพร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล เด็กน้อยอ้างว่าพ่อแม่ตายไปแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพบว่าพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ และคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ขอประกาศเลยว่า ไม่สามารถจะรับลูกคนนี้กลับมาเลี้ยงได้อีกแล้ว เพราะชอบหนีออกจากบ้าน ทำร้ายคนในครอบครัวด้วยการวางยา จนคุณย่าเสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน!!!! นายศักดิ์ชาย  พ่อน้องเอ (นามสมมติ) บอกมีลูก 5 คน เดิมทีน้องเออยู่กับคุณย่า และถูกเลี้ยงดูแบบตามใจ มักมีพฤติกรรมก้าวร้าว ชอบขโมยของ และชอบเรียกร้องความสนใจ เมื่อถูกขัดใจก็ชอบทำร้ายตัวเอง ครอบครัวก็เพิ่งมาทราบทีหลังว่า น้องเอ เคยวางยาคุณย่าด้วยการนำน้ำยาล้างห้องน้ำผสมให้กิน โดยเจ้าตัวพูดออกมาว่า “แต่ก่อนให้ย่ากินประจำไม่เห็นจะเป็นอะไร” จนกระทั่งคุณย่าป่วยหนักกินไม่ได้อยู่ 3 เดือน ก่อนจะเสียชีวิต นายศักดิ์ชาย ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า น้องเอจะใช้เงินวันละประมาณ 200-300 บาท ถ้าไม่พอก็จะหาลักขโมยกับพี่สาว พ่อก็ต้องเอาไปใช้คืนให้ มันเป็นพฤติกรรมที่ทำแล้วเหมือนได้ใจ เหมือนไม่มีความผิด ถ้าดื้อมากพ่อก็ตี เพราะชอบหนีออกจากบ้าน บ่อยครั้งเข้าพ่อก็ให้หน่วยงานรับไปปรับพฤติกรรม…

ตำนาน “อำแดงอยู่” ใช้ทาสบำบัดความใคร่… คดีหึงอำมหิตในตำนาน ที่ต้องลงโทษด้วยการตายตามกันไป!!!! เรื่องราวของ “อำแดงอยู่” นั้น เป็นเรื่องอื้อฉาวในสมัยรัชกาลที่ 5 อีอยู่ไม่ใช่ผู้หญิงชาวบ้านธรรมดา แต่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงเมียคุณพระ ทั้งยังเป็นเมียพระราชทานด้วย แต่นางก็มีอารมณ์หึงหวงอย่างรุนแรง ก่อกรรมอำมหิตอย่างวิตถาร จนคดีนี้ร้ายแรงถึงพระกรรของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เดิมทีอำแดงอยู่ เป็นบุตรของ จีนเอี่ยม กับ อำแดงพุ่ม ซึ่งทั้งแม่และยายเป็นชาวเครื่องเสวยในพระบรมมหาราชวัง อำแดงอยู่จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาทำเครื่องเสวยคาวหวานด้วย พอโตเป็นสาวได้เข้าเป็นชาวเครื่อง ในสังกัดท้าวพิพัฒโอชา เมื่ออายุ 17 ปีเต็ม ก็พบรักกับหม่อมราชวงศ์สริ แต่ชีวิตครอบครัวไม่ราบรื่น อยู่กันได้ประมาณ 2 ปีกว่า ก็ทะเลาะกันรุนแรง อำแดงอยู่เลยหนีไปอยู่กับนายเก่าในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาอำแดงอยู่ได้พบรักใหม่กับหลวงแผลงสท้าน ซึ่งได้ทูลขออำแดงอยู่เป็นภรรยาต่อสมเด็จพระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดีในรัชกาลที่ 4 ซึ่งสมเด็จฯก็ทรงพระราชทานให้ตามปรารถนา หลวงแผลงสท้านจึงพาเมียไปอยู่บ้านที่ริมคลองคูเมือง ใกล้โรงไหม ย่านพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ หอศิลป ในปัจจุบัน ชีวิตคู่ของอำแดงอยู่ราบรื่น อยู่กินกันมาถึง 20 ปีกว่า จนมีบุตรด้วยกัน 3 คน เป็นชายสองหญิงหนึ่ง เว้นแต่ว่าทุกคนแต่เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยทั้งหมด ต่อมาหลวงแผลงสท้านได้เลื่อนบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็น…

ย้อนรอยคดีสะท้านโลก… “เจ้าหญิงไดอาน่า” การสิ้นพระชนม์ที่ค้างคาใจคนทั้งโลก!!! ที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2540 การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่ายังคงเป็นปริศนาค้างคาใจคนทั้งโลก  ผนวกกับข่าวการอภิเษกสมรสใหม่ของ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ กับ คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ แม้เจ้าหญิงไดอาน่าจะลาโลกไปหลายปีแล้ว แต่กระบวนการยุติธรรมยังคงเดินหน้าต่อ มีการเปิดเผยไดอารีส่วนพระองค์ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า “ชีวิตของเจ้าหญิงกำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง และพระองค์อาจสิ้นพระชนม์ด้วยการถูกปองร้ายโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพื่อเปิดทางสะดวกให้พระสวามีได้อภิเษกสมรสใหม่” ในขณะนั้นหนังสือพิมพ์อังกฤษหลายฉบับ ตั้งข้อสงสัยความผิดปกติหลายจุด  1. การเปลี่ยนเส้นทางรถยนต์ไปยังอุโมงค์ Pont de L’Alma อย่างไม่มีเหตุผล ทั้งๆ ที่จุดหมายเดิมของเจ้าหญิงกับสหายผู้รู้ใจ “โดดี้ อัล ฟาเยด” ทายาทมหาเศรษฐี เจ้าของห้างสรรพสินค้าแฮร์รอดส์แห่งอังกฤษ คือการเดินทางไปยังอพาร์ตเมนต์ของฝ่ายชาย  2. จู่ๆ วิทยุสื่อสารของตำรวจในกรุงปารีสก็ใช้งานไม่ได้ โดยไม่ทราบสาเหตุ ในขณะที่รถยนต์พระที่นั่งของเจ้าหญิงเดินทางเข้าสู่อุโมงค์ จนเกิดเหตุร้ายและไม่สามารถติดต่อสื่อสารขอความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที   3. กล้องวิดีโอวงจรปิดภายในอุโมงค์เกิดเหตุใช้การไม่ได้ ขึ้นมากะทันหัน!! จนทำให้ไม่มีภาพหลักฐานยืนยันความชัดเจนของอุบัติเหตุนี้  4. มีพยานผู้ร่วมเหตุการณ์บางรายกล่าวว่า เขาได้เสียงดังสนั่น คล้ายเสียงปืน  5. เพราะอะไรรถพยาบาลจึงต้องใช้เวลาถึง…