Category: สุขภาพดีป้องกันได้
-
หญิงลีไม่ยอมแพ้!!! แม้ “ป่วย” ก็เร่งสร้างรีสอร์ทให้พ่อแม่…
หญิงลีไม่ยอมแพ้!!! แม้ “ป่วย” ก็เร่งสร้างรีสอร์ทให้พ่อแม่… หญิงลี ศรีจุมพล คืออีกตัวอย่างของสาวสู้ชีวิต เธอขยันทำงานหาเงินแม้วันที่เจ็บป่วย เพื่อธุรกิจให้ครอบครัว ในการสร้างรีสอร์ทที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งใกล้จะแล้วเสร็จ ให้พ่อกับแม่ได้ดูแล เกิดเป็นธุรกิจของครอบครัวและญาติๆ ของเธอนั่นเอง ล่าสุด เมื่อหญิงลี โพสต์รูปภาพพ่อกับแม่จ่ายเงินคนงานก่อสร้าง ที่เธอเพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก และรู้สึกปลื้มใจมาก กับข้อความที่บอกว่า “พึ่งได้เห็นการจ่ายเงินค่าแรงช่างของพ่อแม่ ดีค่ะทำกันไปลูกหาเงินส่งให้ ช่วยกันค่ะ เย็นนี้หญิงกลับกรุงเทพเพื่อหาหมอพรุ่งนี้ค่ะ” คนกตัญญูไม่มีวันอดตายแน่นอนจ้า ขอขอบคุณข้อมูล และรูปภาพจาก IG yinglee_lalla
-
แค่ “จัดฟัน” ชีวิตก็เปลี่ยน!!!! (นี่สิของจริง!)
แค่ “จัดฟัน” ชีวิตก็เปลี่ยน!!!! (นี่สิของจริง!) ใครที่ฟันเก ฟันไม่สวย คงจะอินกับเรื่องนี้แบบสุดๆ ไปเลยครับ เพราะแค่จัดฟันชีวิตก็เปลี่ยนไปจริงๆ (ไม่ใช่คำฮิตอย่างที่ดาราไทยหลายคน ที่ไปทำศัลยกรรม แล้วโบ้ยมาว่าแค่จัดฟัน! หรอกนะครับ) แต่พวกเขา “แค่จัดฟัน” แล้วชีวิตก็เปลี่ยนจริงๆ ไปชมภาพกันเลย คนล่างสุดนี่ ไม่น่าเชื่อว่า แค่จัดฟันจะหล่อซะขนาดนี้!!! ขอขอบคุณเครดิตภาพจาก boredpanda
-
ความลับที่หลายคนสงสัย… “จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค” หายไปไหน???
ความลับที่หลายคนสงสัย… “จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค” หายไปไหน??? หายหน้าจากวงการบันเทิงไปนานทีเดียวสำหรรับ จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค ล่าสุดเธอปรากฏตัวในนามของ “หน้ากากหงส์ดำ” รายการ The Mask Singer ที่ทำให้แฟนคลับอึ้งกันไปเลย ล่าสุด จอย ศิริลักษณ์ เธอเปิดใจกับรายการ APOP ว่าสาเหตุหลักที่หายไปเพราะ มุ่งศึกษาเรียนปริญญาโท และอาการป่วย สาวจอยได้ศึกษาปริญญาโท มหาลัยธรรมศาสตร์ สาขาวิชาอาชญาวิทยาการบริหารงานยุติธรรมและสังคม คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ จบแล้วจึงศึกษาต่อปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยมหิดล เรียนได้ไม่นานเริ่มป่วย สาวจอยเป็นโรคเส้นประสาทดึงรั้งผ่านต้นคอ สาเหตุเกิดจากการนอนไม่พอ และการจัดท่านั่งผิดธรรมชาติ จนเกิดสะสมกลายเป็นโรค จุดเปลี่ยนคือกินข้าวที่ต่างประเทศ จู่ๆ เกิดอาการควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ จนเข้าโรงพยาบาลและกลับมารักษาต่อที่ประเทศไทย จากนั้นไม่นานก็มีโรคเข้ามาซ้ำคือ โรคปอดติดเชื้ออีกนาน 3 เดือน เพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง บวกกับร่างกายที่อ่อนแอ พอหายไม่ทันไร ถัดมาอีก 3 เดือนก็เจอ ก้อนเนื้อบริเวณหน้าอก เมื่อไปตรวจพบว่ามีขนาดเกือบ 2 เซนติเมตร จึงเข้ารับการผ่าออกเรียบร้อย จนปัจจุบันหายป่วยเรียบร้อยแล้ว…
-
“เล่นมือถือในห้องน้ำ” “เล่นมือถือตอนกินข้าว” อาจป่วยหนัก!!!! ไม่ใช่เล่นๆ
“เล่นมือถือในห้องน้ำ” “เล่นมือถือตอนกินข้าว” อาจป่วยหนัก!!!! ไม่ใช่เล่นๆ ผลการสำรวจพบว่าคนสหรัฐ ร้อยละ 75 ชอบเอามือถือเข้าไปเล่นระหว่าง “ทำธุระ” ในห้องน้ำ ส่วนตัวเลขของคนออสเตรเลียอยู่ที่ร้อยละ 41 ตัวเลขนี้รวมถึงผู้ชายที่ยอม “นั่งลง” ทำธุระ เพื่อให้เล่นมือถือได้สะดวก แพทย์หญิง Anchita Karmakar ในออสเตรเลียได้ออกมาเตือนว่า “เคสโทรศัพท์โดยเฉพาะที่ทำจากยางนั้นเป็นแหล่งอุดมไปด้วยเชื้อไวรัส เช่น แซลโมเนลลา หรือเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคทางเดินอาหาร, อีโคไล, ชิเกลลา และแคมพัยโรแบคเตอร์ และความเสี่ยงที่จะป่วยจากการนำมือถือไปเล่นในห้องน้ำจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวหากเป็นห้องสุขาสาธารณะ” จึงไม่แปลกถ้าเล่นมือถือระหว่างรับประทานอาหารก็เสี่ยงจะได้รับเชื้อโรคที่เกาะติดอยู่ที่มือถือเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายๆ เลยทีเดียว วิธีป้องกันคือ 1 ไม่เอามือถือเข้าไปเล่นในห้องน้ำ 2 ไม่เล่นมือถือทานอาหารไป 3 ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังเสร็จกิจธุระ ป้องกัน ย่อมดีกว่าแก้ไขนะจ๊ะ ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก dailymail
-
จำเด็กคนนี้ได้ไหม? “อดีตสิงห์อมควันจิ๋ว” อายุ 2 ขวบสูบบุหรี่ 40 มวนต่อวัน กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว?!!!
จำเด็กคนนี้ได้ไหม? “อดีตสิงห์อมควันจิ๋ว” อายุ 2 ขวบสูบบุหรี่ 40 มวนต่อวัน กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว?!!! ภาพปัจจุบันของ “Ardi Rizal” เด็กชายชาวอินโดนีเซีย ที่เคยเป็นข่าวดังครึกโครมเมื่อ 7 ปีก่อน ตอนที่เขาอายุเพียงแค่ 2 ขวบ ในฐานะสิงห์อมควันตัวน้อยสูบบุหรี่มากถึง 40 มวนต่อวัน เพราะเลียนแบบพฤติกรรมมาจากพ่อที่ติดบุหรี่อย่างหนัก เรื่องเริ่มมาจาก สิงห์อมควันตัวน้อยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านบนเกาะสุมาตรา พ่อเริ่มให้เขาทดลองสูบบุหรี่ครั้งแรกตอนอายุ 18 เดือน กระทั่งถึงขั้นเสพติดอย่างหนัก มีอาการหงุดหงิดถ้าหากวันไหนไม่ได้สูบ จนหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก และได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแก้ไข ต่อมาหลังจากเขาเลิกบุหรี่ได้แล้ว กลับหันไปติดอาหารขยะ จนน้ำหนักตัวเพิ่มสูงขึ้นเกินมาตราฐาน กลายเป็นเด็กอารมณ์ร้อน และขี้โมโหเช่นเดิม มาดูภาพปัจจุบันกัน อดีตสิงห์อมควันตัวน้อยตอนนี้เขาอายุ 9 ขวบแล้ว มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และไม่น่าเป็นห่วงเหมือนเมื่อก่อน ดีใจกับหนูน้อยด้วยจริงๆ จ้า ขอขอบคุณข้อมูลจาก morning-news
-
“โค้ก” ต่างจาก “เป็ปซี่” ตรงไหน??? ชาวเน็ตมาเปิดเผย ซึ่งเราอาจไม่สังเกต!?
“โค้ก” ต่างจาก “เป็ปซี่” ตรงไหน??? ชาวเน็ตมาเปิดเผย ซึ่งเราอาจไม่สังเกต!? แฟนของเป็ปซี่ในต่างประเทศคนหนึ่งได้กล่าวในทวิตเตอร์ว่า “เป็ปซี่มีรสชาติที่ยอดเยี่ยมกว่าโค้กและคุณคงคิดผิดแล้วล่ะ ถ้าไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้“ ตามมาด้วยเสียงของแฟนพันธ์ุแท้ของเป็ปซี่อีกหลายเสียงที่ยืนยันว่า เป็ปซี่ดื่มแล้วสดชื่นกว่า ในขณะที่แฟนของโค้กก็กล่าวว่าโค้กเป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีรสชาติคลาสสิกที่สุดเช่นกัน “Malcolm Gladwell” นักเขียนชื่อดัง ได้อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างโค้กและเป็ปซี่ไว้ในหนังสือ “Blink: The Power of Thinking Without Thinking” ในปี 2005 ด้วยประโยคสั้นๆ ว่า “เป็ปซี่มีลักษณะเป็นกลิ่นและรสเปรี้ยวซึ่งแตกต่างจากโค้กที่มีกลิ่นวนิลาผสมอยู่“ ในขณะที่ชาวเน็ตต่างชาติบอกให้เราดูส่วนผสมของทั้งเป็ปซี่และโค้กให้ดี ปรากฎว่าเป็ปซี่มีกรดซิตริก(citric acid ) อยู่ด้วย ซึ่งกรดซิตริกนี้เป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ใช้อย่างกว้างขวางในอาหารและเครื่องดื่ม ใช้ปรุงแต่งกลิ่นรสอาหารให้มีรสเปรี้ยวนั่นเอง ในขณะที่ส่วนผสมของโค้กก็เหมือนกับเป็ปซี่ทุกอย่าง ยกเว้นไม่มีกรดซิตริก (citric acid ) แต่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลแทน สาวกโค้ก หรือสาวกเป็ปซี่ ควรดื่มแต่พอดีนะจ๊ะ เพราะแน่นอนว่า สร้างโทษให้ร่างกายได้เหมือนกันถ้าดื่มในปริมาณที่มาก และต่อเนื่อง ขอขอบคุณข้อมูลจาก catdumb
-
ชีวิตจริงของ… ชายคนนี้ “ประสบอุบัติเหตุ” เหลือแค่ “ครึ่งตัว” แต่มีชีวิตรอด และมีความสุข??!!
ชีวิตจริงของ… ชายคนนี้ “ประสบอุบัติเหตุ” เหลือแค่ “ครึ่งตัว” แต่มีชีวิตรอด และมีความสุข??!! ผู้ชายคนนี้ชื่อ “เป็ง ชุ่ยหลิน” เขาสูงแค่ 78 ซม.เท่านั้น เดิมทีเขาเกิดที่จังหวัดหูหนาน ประเทศจีน ในปี 1995 ที่ เซินเจิ้น รถบรรทุกได้หั่นร่างของเขาไปครึ่งหนึ่ง แพทย์บอกว่า ร่างกายส่วนล่างและท่อนขาทั้งสองเสียหายจนเกินกว่าจะซ่อมแซมได้ ศัลยแพทย์จึงทำได้เพียงเย็บลำตัวที่เหลือของเขาเข้าด้วยกัน เป็ง ชุ่ยหลิน ในวัย 37 ปี พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่เซินเจิ้น นานกว่าสองปี เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่หลายครั้ง เพื่อทำการจัดอวัยวะที่สำคัญ และระบบภายในของร่างกาย แม้สภาพจะดูน่าเวทนายิ่ง แต่นายเป็งก็ไม่เคยย่อท้อ เขาพยายามออกกำลังกายแขนทั้งสอง เพื่อสร้างพลัง อีกทั้งยังดูแลตัวเอง พยายามล้างหน้าแปรงฟันเอง สำหรับเขาทุกอย่างคือความท้าทาย ไม่ใช่ความน่าเวทนา ตอนนี้นายเป็ง ได้สร้างความตกตะลึงให้กับแพทย์ เพราะหลังจากผ่านไป 10 ปี เขาลุกขึ้นเดินได้ด้วยตัวเอง พร้อมได้รับความช่วยเหลือจากคณะแพทย์แห่งศูนย์วิจัยการฟื้นฟูสมรถภาพ แห่งกรุงปักกิ่ง ในการประดิษฐ์แม่พิมพ์ห่อหุ้มร่างของเขาเหมือนเปลือกไข่ พร้อมติดตั้งขาเทียมสองข้าง ผลของการพัฒนาอย่างตั้งใจ และใช้เทคนิคทุกเทคนิคที่คิดค้นได้ นายเป็งจึงเริ่มหัดเดินได้อีกครั้ง แม้ขาเทียมของเขาต้องปรับปรุง และปรับขนาดหลายครั้งก็ตาม ใครจะคิดว่า…
-
โง่มาตั้งนาน!! เคล็ดลับ “ไล่หนู” ออกจากบ้านโดยไม่ต้องฆ่า!!!
โง่มาตั้งนาน!! เคล็ดลับ “ไล่หนู” ออกจากบ้านโดยไม่ต้องฆ่า!!! ทุกชีวิตมีคุณค่า ไม่เว้นแม้แต่ “หนู” ที่หลายคนมองว่าสกปรก ทั้งที่มันก็ดำเนินชีวิตตามปกติของมัน (แต่คือการรบกวนคน) มาดูกันว่า จะไล่หนูอย่างไร ให้ไม่ต้องฆ่า ไม่เป็นบาปต่อกัน วิธีที่ 1. น้ำมันก๊าด ไม่บอกก็รู้ว่า น้ำมันก๊าด มีกลิ่นรุนแรงขนาดไหน นับประสาอะไรกับหนูตัวเล็ก ๆ เมื่อเจอเข้ากับกลิ่นของน้ำมันก๊าด รับรองว่าเจ้าหนูทั้งหลายจะเข็ดขยาดจนไม่อยากอยู่ในบ้านหลังเดิมอีกต่อไปเลยล่ะ วิธีการ ไม่ต้องถึงกับราดน้ำมันก๊าดไว้ทั่วบ้านหรอกนะ เพียงแค่เทน้ำมันก๊าดใส่ถ้วยเล็ก ๆ ไปวางไว้ตามจุดที่คาดว่าหนูอาศัยอยู่เท่านั้นเอง วิธีที่ 2. ลูกเหม็น หนูทั้งหลายจึงไม่ค่อยชอบกลิ่นของลูกเหม็นสักเท่าไหร่ หากนำลูกเหม็นไปวางไว้ในจุดที่คิดว่าหนูจะวนเวียนอยู่ เช่น ใกล้ถังขยะ ฝ้าเพดาน หรือมุมอับภายในครัว เท่านี้หนูก็ย้ายบ้านหนีแน่นอน วิธีที่ 3. เปิดไฟให้สว่าง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายแสนง่าย เพราะแสงไฟจะทำให้หนูแสบตา และไม่กล้าออกมาแสดงตัวมากนัก แต่ระวังเรื่องค่าไฟด้วยล่ะ วิธีที่ 4. ประทัด หากอยากไล่หนูให้แตกกระเจิง ลองซื้อประทัดมาจุดใกล้ ๆ รังหนู เพื่อให้ครอบครัวหนูตกใจกับเสียงประทัดจนต้องอพยพกันออกไป ก็ใช้ได้เหมือนกัน…
-
หนุ่มเมาสุดคะนอง… ยัดปลาเป็นๆ 2 ตัวเข้าทวารตัวเอง สยอง!!! ว่ายทะลุลำไส้…
หนุ่มเมาสุดคะนอง… ยัดปลาเป็นๆ 2 ตัวเข้าทวารตัวเอง สยอง!!! ว่ายทะลุลำไส้… ด้วยความเมา ผนวกคึกคะนองหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ หนุ่มจีนคนหนึ่ง จับปลาหมูตัวเป็นๆ 2 ตัวยัดเข้าทวาร ตัวเอง ไม่นานเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมืองกว่างโจว เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือเป็นการด่วน หลังจากมีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินปกติ ความดันเลือดต่ำ และมีอาการเจ็บท้องอย่างรุนแรง จากรายงานระบุว่า ชายรายนี้ยอมรับว่า ตนจับปลาเป็นๆ 2 ตัว ยัดเข้าไปในช่องทวารของตัวเอง อันเนื่องมาจากการขาดสติ หลังจากดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณมาก แพทย์ต้องทำการฉายรังสีดิจิตอลหน้าท้องของคนไข้ชายรายนี้ เพื่อหาตำแหน่งที่ปลาเข้าไปติด และมีอันต้องตกใจเมื่อพบว่า 1 ในปลาจำนวน 2 ตัวนั้น ได้ว่ายทะลุผนังลำไส้เข้าไปติดอยู่ภายใน อันเป็นสาเหตุให้คนไข้มีอาการเจ็บท้องอย่างรุนแรง ส่วนอีกตัวติดอยู่บริเวณส่วนบนช่องท้องด้านซ้าย ในที่สุดทีมแพทย์ได้ทำการช่วยเหลือนำปลาทั้ง 2 ตัวที่เข้าไปติดออกมาได้สำเร็จ โดยปลาทั้ง 2 ตัวเป็นปลาหมู (Pond loach) ขนาดยาว 4 นิ้ว และกว้าง 0.8 นิ้ว และจากรายงานระบุว่า พวกมันอยู่ในตัวคนไข้มาเป็นเวลามากกว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาวะช็อกเพราะติดเชื้อได้…
-
5 สมุนไพร ที่ทำให้ “ฟิตปั๋ง” จน “ไวอาก้า” เรียกพี่!!!
5 สมุนไพร ที่ทำให้ “ฟิตปั๋ง” จน “ไวอาก้า” เรียกพี่!!! ถ้าอยาก “ฟิตปั๋ง” กันให้สุดสวิงริงโก้ล่ะก็ สมุนไพร 5 ชนิดนี้ช่วยได้ 1. ตังถั่งเช่า ถั่งเช่า/ ตังถั่งเช่า ชื่อในวงการเรียกว่า “ไวอะกร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย” พบได้ในแถบทุ่งหญ้าบนภูเขาประเทศจีน (ธิเบต) เนปาล มีสรรพคุณกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ และใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย แล้วยังบำรุงอวัยวะภายใน เช่น ปอด ตับ และไตด้วย สรรพคุณขนาดนี้ ราคาจึงแพงมากไปด้วย กิโลกรัมละ 250,000 บาท แต่ถ้าเป็นเกรดคุณภาพดี ราคาจะสูงถึง 2,500,000 บาท ตามฤดูกาล 2. โด่ไม่รู้ล้ม แค่ชื่อก็รู้แล้ว ต้นนี้มีลักษณ์เป็นไม้ล้มลุกลำต้นตั้งตรง สั้น อยู่ในระดับพื้นผิวดิน มีใบยาว มีขนใต้ใบ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย จะใช้ทุกส่วนของต้น ทั้งรากและใบ โดยล้างน้ำให้สะอาด นำมาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปตากแห้ง หลังจากนั้นก็บดให้ละเอียดใช้ชงกินกับน้ำ หรือนำผงไปดองเหล้า…