Category: สุขภาพดีป้องกันได้

  • “กลืน”เมล็ดกระท้อน ทำลำไส้แตก-พิการ-ตายได้ จริงหรือ???

    “กลืน”เมล็ดกระท้อน ทำลำไส้แตก-พิการ-ตายได้ จริงหรือ???

    “กลืน”เมล็ดกระท้อน ทำลำไส้แตก-พิการ-ตายได้ จริงหรือ??? การกลืนเมล็ดกระท้อนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ผลวิจัยพบคนร้อยละ 41 กลืนเมล็ดทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ รศ.นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช (หรือ วชิรพยาบาลเดิม) เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาตนและคณะวิจัย ได้รับสนุนทุนวิจัยจากมูลนิธิวชิรพยาบาลในการศึกษาถึงโรคแทรกซ้อนต่อระบบทางเดินอาหารที่เกิดจากการกลืนเมล็ดกระท้อน โดยการเก็บข้อมูลจากศัลยแพทย์ในทุกภูมิภาคของประเทศจำนวน 1,601 คน และจากประชากรอายุมากกว่า 15 ปีขึ้นไปที่มีการสุ่มคัดเลือกจำนวน 2,880 คน โดยผลการวิจัยพบว่า มีประชากรที่กลืนเมล็ดกระท้อนเท่ากับร้อยละ 41 และพบว่าศัลยแพทย์ทั่วไป ร้อยละ 29 เคยให้การรักษาผู้ป่วยที่เกิดโรคแทรกซ้อนต่อระบบทางเดินอาหารที่เกิดจากเมล็ดกระท้อน ในระหว่างปี 2543-2545 รวมจำนวน 123 ราย “ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดพบว่าเป็นโรคลำไส้ใหญ่ส่วนปลายแตกทะลุถึงร้อยละ 78.1 ถือเป็นภาวะโรคแทรกซ้อนที่พบได้มากที่สุดจากการกลืนเมล็ดกระท้อน จากบรรดาโรคแทรกซ้อนอื่นๆที่พบอีก 6 โรค เนื่องจากเมล็ดกระท้อนมีความแหลมคม เมื่อผ่านไปจนถึงช่วงลำไส้แล้วน้ำย่อยจะทำให้ปุยหายไปและเหลือเมล็ดที่มีความคมและเป็นอันตรายต่อลำไส้อย่างมาก” ยังมีโรคอื่นๆ ที่พบคือ  1.โรคหลอดอาหารอุดตัน คือเมล็ดกระท้อนไปอุดตันที่หลอดอาหารทำให้กลืนลำบาก มีอาการเจ็บในคอ หรือในทรวงอกร่วมด้วย 2.โรคกระเพาะอาหารส่วนปลายอุดตัน คือการอุดตันบริเวณส่วนปลายของกระเพาะอาหาร ที่เกิดจากเมล็ดกระท้อน ทำให้มีอาการแน่นท้อง…

  • สาวๆ อยากเครื่องฟิต!!! เครื่องแน่น!!! ต้องทำแบบนี้

    สาวๆ อยากเครื่องฟิต!!! เครื่องแน่น!!! ต้องทำแบบนี้

    สาวๆ อยากเครื่องฟิต!!! เครื่องแน่น!!! ต้องทำแบบนี้ อย่าไปหลงเชื่อกับอาหารเสริมที่ขายดาษดื่นในโลกออนไลน์ เพราะเสี่ยงต่อการเป็นโรคแทรกซ้อนและไม่ได้ผลจริงๆ ที่สำคัญ อย. ไม่เคยอนุมัติตัวผลิตภัณฑ์สุขภาพ ไม่เคยอนุมัติตัวยาในลักษณะที่อวดอ้างสรรพคุณว่า เพิ่มความฟิตกระชับ เรียบเนียนกระจ่างใสอมชมพู ลดกลิ่น คัน ตกขาว แต่อย่างใด” นพ.สมชาย ธนวัฒนาเจริญ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แนะวิธีเรียกความฟิตกลับคืนมามี 3 ทางดังนี้ 1. หากสาวๆ ต้องการที่จะให้ช่องคลอดกระชับนั้น คุณควรจะฝึกกระชับช่องคลอด (kegel exercise) หรือฝึกขมิบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการออกกำลังกายในรูปแบบนี้ จะทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่เราเรียกว่า แคม มีความแข็งแรงขึ้น ดังนั้น หากทำบ่อยๆ จะช่วยทำให้ช่องคลอดฟิต และช่วยทำให้ระบบการกลั้นปัสสาวะทำงานได้ดียิ่งขึ้น วิธีขมิบคือ “การขมิบที่แท้จริง จะต้องขมิบค้างไว้ให้ได้ราว 5 วินาที และทำติดต่อกันเป็นจำนวน 20 ครั้ง ถึงจะนับเป็น 1 เซต และควรทำให้ได้ในช่วงเช้า 1 เซต และตอนเย็นอีก 1 เซต…

  • มะเร็งใกล้ตัว!!! วิธีสังเกต 7 สัญญาณเสี่ยงป่วยมะเร็ง

    มะเร็งใกล้ตัว!!! วิธีสังเกต 7 สัญญาณเสี่ยงป่วยมะเร็ง

    มะเร็งใกล้ตัว!!! วิธีสังเกต 7 สัญญาณเสี่ยงป่วยมะเร็ง จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งของไทยพบว่าผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ในเพศชาย 3 อันดับแรกคือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ส่วนในเพศหญิง 3 อันดับแรกคือ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับและท่อน้ำดี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า สัญญาณอันตราย 7 ประการที่ควรระวังโดยเฉพาะถ้ามีอาการนานกว่า 2 สัปดาห์ 1.มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ 2.กลืนอาหารลำบาก แน่นท้องเป็นเวลานาน 3. มีอาการเสียงแหบและไอเรื้อรัง 4.มีเลือดออกผิดปกติจากทวารต่างๆ 5.เป็นแผลรักษาแล้วไม่ยอมหาย 6.มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามร่างกาย 7.มีก้อนตุ่มที่ส่วนต่างๆของร่างกาย สำหรับแนวทางการป้องกันโรคมะเร็งคือ ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำจิตแจ่มใส ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา และไม่มีเซ็กซ์มั่วหรือไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย เป็นต้น ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก thairath

  • ใกล้ตัวกว่าที่คิด… คนกรุงฯ เป็นเอดส์กว่า 80,000 คน เฉลี่ยเพิ่มวันละ 6 คน!!!

    ใกล้ตัวกว่าที่คิด… คนกรุงฯ เป็นเอดส์กว่า 80,000 คน เฉลี่ยเพิ่มวันละ 6 คน!!!

    ใกล้ตัวกว่าที่คิด… คนกรุงฯ เป็นเอดส์กว่า 80,000 คน เฉลี่ยเพิ่มวันละ 6 คน!!!  นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธุ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เผยว่า โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่กทม.ได้ให้ความสำคัญติดตาม เฝ้าระวังและพยายามดำเนินการ เพื่อลดอัตราการเกิดโรคต่อประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สภาพแวดล้อมของเมือง สื่อต่างๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดการยั่วยุทางเพศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอัตราความเสี่ยงของการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรเพิ่มมากขึ้น สถานการณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวีในปี 2560 มีการสำรวจผู้ติดเชื้อจำนวน 77,970 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,205 รายต่อปี ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 6 ราย โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่จะอยู่ในกลุ่มของเด็กและเยาวชนอายุ 14-24 ปี มากที่สุด และเป็นกลุ่มชายรักชายมากถึง 68 เปอร์เซ็นต์ มีการตั้งเป้าหมายว่าในปี 2563 ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในกรุงเทพฯ จะต้องลดจำนวนลง จาก 2,000 รายต่อปี เหลือประมาณ 900 รายต่อปี หรือ 2.4 รายต่อวันและในปี 2573 ผู้ติดเชื้อรายใหม่จะต้องลดลง เหลือแค่ไม่เกิน…

  • แสบสุดทรวง… “ของปลอมจากจีน” เห็น และใช้กันทุกวัน… แต่เราไม่เคยรู้!!!

    แสบสุดทรวง… “ของปลอมจากจีน” เห็น และใช้กันทุกวัน… แต่เราไม่เคยรู้!!!

    แสบสุดทรวง… “ของปลอมจากจีน” เห็น และใช้กันทุกวัน… แต่เราไม่เคยรู้!!! ของจีนขั้นชื่อในความถูก และความน่ากลัวที่โหดร้ายไม่แพ้กัน เพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่มาจากจีนนั้นอาจจะถูกหลอก หรือถูกดัดแปลงชนิดที่เราจินตนาการไม่ออกเลยทีเดียว ไปชมคลิปกัน https://www.youtube.com/watch?v=NlZhEjbgu7E คิดไปได้… มนุษยธรรมอยู่ตรงไหน??? ขอขอบคุณคลิปวิดีโอจาก Believe offcial

  • อิจฉาหนักมาก… “กล้าม” “ซิกแพค” ของเด็กม.ปลาย!!!!

    อิจฉาหนักมาก… “กล้าม” “ซิกแพค” ของเด็กม.ปลาย!!!!

    อิจฉาหนักมาก… “กล้าม” “ซิกแพค” ของเด็กม.ปลาย!!!! ใครๆ ก็รู้ครับว่า การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดี และควรทำอย่างสม่ำเสมอ แต่ใครจะไปรู้ว่า เด็กม.ปลายธรรมดาๆ คนหนึ่ง จะมีวินัยในการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร จนหุ่นเป๊ะล้ำหน้าผู้ใหญ่ไปเลยทีเดียว หนุ่มน้อยคนนี้ชื่อว่า น้องปันปัน เพิ่งเรียนจบจากชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ จ.นครปฐม ไปหมาดๆ และเข้าไปศึกษาต่อชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยศิลปากรได้แล้วด้วย ทั้งเก่ง ทั้งมีวินัยแบบนี้ ลองไปชมให้เห็นกับตาตัวเองว่า เด็กหนุ่มคนนี้เป็นยังไง ผู้ใหญ่ยังอายอ่ะครับ บอกเลย… ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB Punpun Ispike

  • ชีวิตเปลี่ยน!!! Aamir Khan พระเอกดัง เคยอ้วนเกือบ 100 กิโลกรัม แต่กลับมาฟิต! ในเวลาเพียง 6 เดือน

    ชีวิตเปลี่ยน!!! Aamir Khan พระเอกดัง เคยอ้วนเกือบ 100 กิโลกรัม แต่กลับมาฟิต! ในเวลาเพียง 6 เดือน

    ชีวิตเปลี่ยน!!! Aamir Khan พระเอกดัง เคยอ้วนเกือบ 100 กิโลกรัม แต่กลับมาฟิต! ในเวลาเพียง 6 เดือน Aamir Khan หรือ อาเมียร์ ข่าน เขาเป็นนักแสดงบอลลีวูดชื่อดังวัย 51 ปี เดิมเป็นคนที่มีรูปร่างที่ดีอยู่แล้ว จนกระทั่งเขามารับบทอดีตนักมวยปล้ำในเรื่อง Dangal ที่เริ่มถ่ายทำในช่วงเดือนกันยายนปี 2015 โดยช่วงแรกเขาต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้น 28 กิโลกรัม จนน้ำหนักตัวของอาเมียร์พุ่งไปอยู่ที่ 96 กิโลกรัม เรียกว่าหมดหล่อไปเลยก็ได้ หลังจากถ่ายทำไปกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ในช่วงแรก ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องราวของอดีตนักมวยปล้ำตอนแก่เสร็จเรียบร้อย เขาต้องเข้าฉากที่เหลืออีก 15 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นนักมวยปล้ำในสมัยเป็นหนุ่มต่อ ซึ่งอาเมียร์มีเวลาเตรียมตัวฟิตหุ่นเพียง 6 เดือนเท่านั้น เขาจึงมากินอาหารเพื่อสุขภาพ พร้อมออกกำลังกายอย่างหนักควบคู่กันไปด้วย ผ่านไป 6 เดือน ก็กลับมาหล่อได้อย่างที่เห็น ไปชมคลิปให้เห็นกันจะๆ ไปเลย จากอ้วน เป็นฟิต… ถึงกับชีวิตเปลี่ยนกันเลยทีเดียว! ขอขอบคุณข้อมูลจากUTV Motion…

  • ข่าวดี!!! ของคน “ขี้เกียจแปรงฟัน” เพราะนี่คือ แปรงสีฟันแบบใหม่ที่มีขายแล้ว… (คลิป)

    ข่าวดี!!! ของคน “ขี้เกียจแปรงฟัน” เพราะนี่คือ แปรงสีฟันแบบใหม่ที่มีขายแล้ว… (คลิป)

    ข่าวดี!!! ของคน “ขี้เกียจแปรงฟัน” เพราะนี่คือ แปรงสีฟันแบบใหม่ที่มีขายแล้ว…. (คลิป) นับเป็นข่าวดีของคนขี้เกียจแปรงฟันแบบผมจริงๆ เพราะตอนนี้มีแปรงสีฟันแบบใหม่ที่ชื่อว่า Amabrush หน้าตาของมันจะคล้ายกับฟันยาง แต่มีขนแปรงตลอดทั้งรูปปาก วิธีใช้ก็แสนง่าย เพียงใส่เครื่องแปรงฟันอัตโนมัตินี้เข้าไปใสช่องปาก แล้วกดปุ่มเพียง 10 วินาที ฟันทุกซี่ของคุณก็จะถูกทำความสะอาดอย่างหมดจด นี่คือการปฏิวัติวงการทันตกรรม และการแปรงฟันของมนุษยชาติครั้งยิ่งใหญ่เลยล่ะ ไปชมคลิปกันเลย สุดยอดดดดดดดดด ขอขอบคุณคลิปวิดีโอจาก Nadhira Septianda ขอขอบคุณข้อมูลจาก kickstarter amabrush

  • ดังระเบิด!!! “กรรมกรก่อสร้าง” ไม่หล่อ ไม่เด่น แต่ดังจนกลายเป็น “เน็ตไอดอล” รวยไม่รู้เรื่อง…

    ดังระเบิด!!! “กรรมกรก่อสร้าง” ไม่หล่อ ไม่เด่น แต่ดังจนกลายเป็น “เน็ตไอดอล” รวยไม่รู้เรื่อง…

    ดังระเบิด!!! “กรรมกรก่อสร้าง” ไม่หล่อ ไม่เด่น แต่ดังจนกลายเป็น “เน็ตไอดอล” รวยไม่รู้เรื่อง… หนุ่มกรรมกรสุดดังคนนี้ มีชื่อว่า เสี่ยวเหว่ย กรรมกรหนุ่มเน็ตไอดอล ที่พลิกชะตาชีวิตลำเข็ญของตัวเอง จากงานกรรมกรกลายเป็นเน็ตไอดอลที่มีรายได้เสริมเดือนละนับแสนบาท เสี่ยวเหว่ย หนุ่มกรรมกรที่มีอายุเพียง 16 ปี เขาทำงานแบกหาม ก่อสร้างอย่างหนัก จนร่างกายกำยำ และกล้ามเนื้อเป็นมัด แข็งแรงสวยงาม จนไปเตะตาชาวโซเชียลจีนเข้าให้ เสี่ยวเหว่ยเล่าว่า เขาเริ่มช่วยทำงานก่อสร้างกับครอบครัว ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมตอนปลาย เพราะนั่นคืออาชีพหลักของที่บ้าน เขาไม่ต้องใช้แมวมองที่ไหน แต่เขาดังโดยการอัพโหลดคลิปที่ชื่อว่า เสี่ยวเหว่ยย้ายอิฐ โชว์ทักษะการขนย้ายอิฐก่อสร้าง ที่ถือว่าเป็นออกกำลังกายแบบหนึ่ง วิดีโอสั้นๆ นี้โด่งดังไปอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าเขามีแฟนคลับเหนียวแน่นเลยทีเดียว ไปชมคลิปกัน ปัจจุบันเสี่ยวเหว่ยอายุ 23 ปีแล้ว แต่ก็ยังทำอาชีพก่อสร้างอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเขามีรายได้เสริมจากการเป็น “เน็ตไอดอล” ราวๆ 150,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว เสี่ยวเหว่ยเล่าว่า เขาไม่เคยเข้าฟิตเนสหรือใช้ตัวช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ สิ่งที่เห็นทั้งหมดเกิดจากกิจกรรมที่เขาทำงานก่อสร้าง เขายังคงโหนประตูห้องเช่าอยู่เช่นเดิม ที่เห็นสมาร์ทโทรศัพท์มีหลายเครื่องเพราะแฟนคลับส่งมาให้ใช้ฟรีๆ  เขาจึงนำมาใช้ในการถ่ายคลิปสาธิตวิธีสร้างกล้ามเนื้อให้กับแฟนคลับได้ชมกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน เสี่ยวเหว่ย ยังคงเป็นกรรมกรก่อสร้างดังเดิม…

  • รู้หรือไม่… ”ตู้ทิ้งเด็ก” มีใน “ญี่ปุ่น” มา 10 ปีแล้ว!!!

    รู้หรือไม่… ”ตู้ทิ้งเด็ก” มีใน “ญี่ปุ่น” มา 10 ปีแล้ว!!!

    รู้หรือไม่… ”ตู้ทิ้งเด็ก” มีใน “ญี่ปุ่น” มา 10 ปีแล้ว!!! ปัญหาท้องไม่พร้อม ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยอย่างแน่นอนครับ ขนาดประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังมีปัญหานี้ไม่น้อยเลยทีเดียว จึงเกิดโครงการตู้ทิ้งเด็กขึ้น เมื่อ 10 ปีที่แล้วก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการที่จะสร้างตู้นี้ แต่พอผ่านมา 10 ปี ตู้นี้ได้รับการยอมรับในสังคมไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อปี 2550 คุณหมอไทจิ ฮะซุดะ สูตินรีแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิเค เมืองคุมะโมะโตะ ได้เริ่มโครงการ BABY POST หรือตู้รับทารกที่พ่อแม่ไม่ต้องการหรือไม่สามารถเลี้ยงดูได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หลังศึกษาโครงการคล้ายกันนี้ในต่างประเทศ เช่น ในประเทศเยอรมนี หน้าตาของตู้ BABY POST ขเป็นตู้ที่มีบานประตูสองชั้น เมื่อเปิดบานแรกออกก็จะเจอบานเลื่อนด้านใน หลังประตูบานเลื่อนมีเตียงที่ปูฝูกอย่างดีและติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับทารก จะมีกระดาษพร้อมซองจดหมายวางไว้ให้พ่อหรือแม่ที่นำลูกไป “ทิ้ง” เขียนข้อมูลของตัวเองรวมถึงหมายเลขโทรศัพท์เผื่อว่าสักวันอาจกลับมารับลูกหรือสามารถติดต่อกับลูกได้ แต่ถ้าไม่อยากเขียน ก็ไม่ต้องเขียนก็ได้ เช่นกัน! เมื่อมีเด็กถูกนำไปหย่อน สัญญาณเสียงในห้องพยาบาลจะดังขึ้น แล้วนางพยาบาลก็จะออกไปรับเด็ก ทางโรงพยาบาลจะดูแลเด็กจนกว่าหาครอบครัวใหม่มารับไปอุปการะต่อไปได้ ตอนเริ่มโครงการใหม่ ๆ หลายคนส่ายหน้า มองว่าโครงการนี้น่าจะเกิดแต่ผลเสียในสังคม แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น ยังบอกว่า…